วันที่ 20 ตุลาคม 2568 เวลา 23:14 น.
กองปราบฯ ร่วม ตำรวจไซเบอร์ รวบมิจฉาชีพหลอกลงทุนคริปโตฯผ่านไลน์ สูญเงินกว่า 22 ล้านบาท
กองบังคับการปราบปราม และ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. , เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.5 ร่วมกันจับกุม นาย สิ (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี ตามหมายจับ ศาลอาญาธนบุรี ลงวันที่ 24 กันยายน 2568
โดยต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง” จับได้บริเวณภายในห้างย่านสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจากผู้เสียหายได้รู้จักและสนทนากับคนร้ายผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ ต่อมาคนร้ายได้ให้ไอดีไลน์มา และได้ชักชวนผู้เสียหายลงทุนในคริปโตฯ พร้อมได้ส่งลิงก์มาให้ผู้เสียหายโหลด และสอนวิธีการเล่นและเติมเงินให้ผู้เสียหายติดต่อ Customer service เพื่อเติมเงิน และแปลงสกุลเงินบาทเป็น USDT จากนั้น Customer service มีการให้เลขบัญชี ชื่อเจ้าของบัญชี และจำนวนเงินที่จะต้องโอนมาให้ เมื่อผู้เสียหายโอนเงินเสร็จคนร้ายให้ส่งใบโอนเงินไปให้ Customer service หลังจากนั้นเงินจึงเข้าระบบ platform pkex
คนร้ายได้สอนวิธีการเทรดคริปโตฯ โดยส่งเวลาในการซื้อขาย เปอร์เซ็นต์กำไรที่จะได้ ผู้เสียหายจึงได้ลงทุนไปจำนวนหลายครั้ง รวมเป็นจำนวนเงิน 22,050,929 บาท
ต่อมาผู้เสียหายได้ ถอนเงินออกจากระบบ หลังจากถอนเงินแล้วได้รับข้อความแจ้งว่าผู้เสียหายถอนเงินบ่อยครั้ง ฝ่ายควบคุมของการแลกเปลี่ยนจึงประเมินว่าบัญชีของผู้เสียหายถูกสงสัยว่าเป็นเงินสดจากการฟอกเงินที่เป็นอันตราย และระงับเงินทั้งหมดในบัญชีชั่วคราว และทาง Customer service แจ้งว่า จะดำเนินการระงับบัญชีของผู้เสียหาย จนกว่าผู้เสียหายจะเพิ่มเงินจำนวน 1 เท่า ของยอดทั้งหมด ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าถูกหลอกให้ได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับคนร้าย และผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบและสืบสวนเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าวได้ ทราบชื่อภายหลัง คือนายสิ (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาให้การอ้างว่า ตนเปิดบัญชีธนาคารไว้ เพื่อใช้สมัครงาน ไม่ทราบว่าจะถูกนำไปใช้ในทางผิดกฎหมายเอาไปหลอกลวงประชาชน จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายสิ เคยถูกจับกุมในคดีลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วในท้องที่ สน.เตาปูน และยังมีคดีที่รอดำเนินการอยู่อีกหลายท้องที่ เบื้องต้นเจ้าหน้าตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิตามหมายจับที่เกี่ยวข้อง และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.1 เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
