วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เวลา 21:33 น.
วอชิงตัน, 1 ต.ค. ซินหัว รายงานว่า — รัฐบาลกลางสหรัฐฯ เข้าสู่สภาวะปิดการดำเนินงานหรือชัตดาวน์แล้วในวันพุธ (1 ต.ค.) หลังจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันไม่สามารถตกลงกันได้จนทำให้รัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณ ซึ่งนับเป็นการชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ครั้งแรกในรอบเกือบ 7 ปี
รายงานระบุว่าพนักงานรัฐบาลกลางนับแสนคนจะถูกบังคับให้ลาหยุดโดยไม่ได้รับค่าจ้าง บริการสาธารณะบางอย่างอาจถูกระงับหรือล่าช้า และการเผยแพร่ข้อมูลทางเศรษฐกิจอาจได้รับผลกระทบ
การปิดการดำเนินงานรัฐบาลครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่วุฒิสภาสหรัฐฯ ไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณระยะสั้น อันจะช่วยให้รัฐบาลสามารถดำเนินงานต่อไปได้ชั่วคราว โดยมติที่เสนอโดยพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาถูกพรรคเดโมแครตขัดขวาง ทำให้คะแนนเสียงไม่ถึง 60 เสียงที่จำเป็นต่อการผ่านร่างกฎหมาย
ในการเจรจาล่าสุด ประเด็นเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ด้านการดูแลสุขภาพเป็นหนึ่งในข้อขัดแย้งหลักระหว่างทั้งสองพรรค โดยพรรคเดโมแครตเรียกร้องให้เพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านการดูแลสุขภาพ ซึ่งรวมถึงการขยายเวลาเงินอุดหนุนภายใต้กฎหมายเอซีเอ (Affordable Care Act) ที่จะหมดอายุสิ้นปี 2025 รวมถึงการคืนสิทธิ์ความคุ้มครองตามกฎหมายให้กับผู้อพยพบางกลุ่มที่อยู่ในสหรัฐฯ อย่างถูกกฎหมาย อาทิ ผู้ลี้ภัยและผู้แสวงหาที่ลี้ภัย
ในทางกลับกัน พรรครีพับลิกันคัดค้านมาตรการเหล่านี้ และได้ผลักดันให้รักษาระดับงบประมาณของรัฐบาลในปัจจุบันไว้ชั่วคราวเพื่อให้ทั้งสองพรรคมีเวลาเจรจามากขึ้น โดยพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตต่างกล่าวหากันว่าอีกฝ่ายเป็นต้นเหตุทำให้รัฐบาลต้องปิดการดำเนินงาน
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวเมื่อช่วงบ่ายวันอังคาร (30 ก.ย.) ว่าพรรคเดโมแครตต้องการปิดการดำเนินงานรัฐบาล โดยการที่พรรคเดโมแครตยืนกรานจะให้การรักษาพยาบาลฟรีแก่ผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารเป็นสาเหตุที่ทำให้การเจรจาหยุดชะงัก พร้อมชี้ว่าพรรคเดโมแครตต้องการชัตดาวน์รัฐบาล และเมื่อถูกชัตดาวน์ ก็จำเป็นต้องมีการเลิกจ้างงาน
ขณะที่สมาชิกพรรคเดโมแครตระดับสูงในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภากล่าวโทษทรัมป์และพรรครีพับลิกันที่ส่งผลให้เกิดการชัตดาวน์ครั้งนี้ พร้อมทั้งยังแสดงจุดยืนว่าพรรคเดโมแครตพร้อมที่จะเจรจาเพื่อเปิดดำเนินการรัฐบาลกลางอีกครั้ง
18 ธันวาคม 2568
18 ธันวาคม 2568