วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 เวลา 13:17 น.
กรมทางหลวงชนบท เร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ นำเครื่องมือเครื่องจักร ทำความสะอาดกำจัดดินโคลนเศษไม้เศษวัสดุ บนถนน/สะพาน หลังน้ำลดในพื้นที่ จ.แพร่ และ จ.น่าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนในพื้นที่สัญจรได้อย่างสะดวกและปลอดภัย พร้อมเผยเส้นทางที่ประสบอุทกภัยขณะนี้ผ่านไม่ได้ 12 สายทาง
(29 ก.ค. 68) นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า ขณะนี้ในส่วนของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ยังได้กำชับสำนักงานทางหลวงชนบท (สทช.) และแขวงทางหลวงชนบท (ขทช.) ในพื้นที่ที่กำลังประสบเหตุน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้หน่วยงานในสังกัดได้ปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลัง ซึ่งในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และบริเวณด้านรับลมมรสุมยังมีฝนตกหนักบางแห่ง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ทช. ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องมือเครื่องจักร ดำเนินการทำความสะอาดกำจัดดินโคลนเศษไม้และเศษวัสดุบนผิวจราจร ในพื้นที่จังหวัดแพร่ และ จังหวัดน่าน บริเวณที่น้ำได้ลดลงแล้ว เพื่อให้ประชาชนสัญจรได้อย่างสะดวกปลอดภัยและกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำในเรื่องการบูรณาการร่วมกับจังหวัดอย่างเต็มที่ ทั้งการสนับสนุนกำลังคน รถบรรทุกน้ำ การบริหารจัดการเส้นทางและอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ตลอดจนการส่งมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคเพื่อส่งต่อให้ผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
อธิบดีฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในขณะนี้ สำนักบำรุงทาง รายงานว่า (วันที่ 29 ก.ค. 68 เวลา 10.00 น.) ได้รับผลกระทบรวม 8 จังหวัด ประกอบด้วย พะเยา น่าน เชียงราย เชียงใหม่ แพร่ สุโขทัย ตาก อุบลราชธานี รวม 38 สายทาง สามารถสัญจรผ่านได้ 26 สายทาง และไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 12 สายทาง ซึ่งสายทางที่ไม่สามารถสัญจรผ่านได้มีดังนี้
1. ถนนทางหลวงชนบทสาย ชร.4008 แยก ทล.1020 (กม.ที่ 87+200) - บ้านศรีสะอาด อำเภอขุนตาล, พญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย (ช่วง กม.ที่ 4+100 - 4+500)
2. ถนนทางหลวงชนบทสาย ชร.5031 แยก ทช.ชร.4014 (กม.ที่ 0+700) - บ้านช่อใต้ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย (ช่วง กม.ที่ 5+100 – 5+300)
3. ถนนทางหลวงชนบทสาย พย.4029 แยก ทล.1148 (กม.ที่ 95+225) - โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริบ้านหนองห้า อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา (ช่วง กม.ที่ 8+900 - 9+000 , ช่วง กม.ที่ 10+850 - 10+950 , ช่วงกม.ที่ 11+700 - 11+900 และ ช่วง กม.ที่ 12+900 - 13+000)
4. ถนนทางหลวงชนบทสาย พร.4008 แยก ทล.1124 (กม.ที่ 19+000) - บ้านวังแฟน อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ (ช่วง กม.ที่ 16+750 - 16+810)
5. สะพานข้ามแม่น้ำยม (สาย พร.001) อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ (ช่วง กม.ที่ 0+485 - 1+185)
6. ถนนเชิงลาดสะพานข้ามแม่น้ำยม (สาย พย.002) อำเภอปง จังหวัดพะเยา (ช่วง กม.ที่ 0+000 - 1+100)
7. ถนนเชิงลาดสะพานวังม่วงพัฒนา (สาย นน.017) อำเภอปัว จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 0+600 – 0+700)
8. ถนนทางหลวงชนบทสาย ตก.3002 แยก ทล.105 (กม.ที่ 4+000) - บ้านวังแก้ว อำเภอแม่สอด, แม่ระมาด จังหวัดตาก (ช่วง กม.ที่ 11+950 - 12+000 , ช่วง กม.ที่ 12+100 - 12+150 และ ช่วง กม.ที่ 16+500 - 16+550)
9. ถนนทางหลวงชนบทสาย ตก.3006 แยก ทล.104 (กม.ที่ 9+025) - บ้านวังผา อำเภอแม่สอด, แม่ระมาด จังหวัดตาก (ช่วง กม.ที่ 7+290 - 7+300)
10. ถนนทางหลวงชนบทสาย สท.4010 แยก ทล.1177 (กม.ที่ 13+300) - บ้านห้วยไม้ อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย (ช่วง กม.ที่ 4+000 – 4+150, ช่วง กม.ที่ 15+800 - 16+100, ช่วง กม.ที่ 17+300 - 17+450 และ ช่วง กม.ที่ 18+150 - 18+265)
11. ถนนเชิงลาดสะพานรักษ์ลำน้ำยม (สาย สท.011) อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย (ช่วง กม.ที่ 0+000 - 0+100)
12. ถนนทางหลวงชนบทสาย สท.4053 แยก ทล.1180 (กม.ที่ 11+650) - บ้านคลองมะพลับ อำเภอศรินคร จังหวัดสุโขทัย (ช่วง กม.ที่ 0+500 – 0+800)
ทั้งนี้ สำหรับในพื้นที่ที่ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ทช. ได้ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายบอกระดับน้ำ และปักเสาตามแนวเขตทาง เรียบร้อยแล้ว หากระดับน้ำลดลงจะเร่งดำเนินการประเมินสถานการณ์และเร่งเข้าซ่อมแซมเบื้องต้นโดยเร็วที่สุดต่อไป โดยประชาชนสามารถแจ้งเหตุอุทกภัยได้ที่แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่หรือสายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146










