24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 21 มิถุนายน 2567

>> เกิดเหตุแผ่นดินไหว 2 ครั้งซ้อน ที่เมืองลี้ จังหวัดลำพูน

04.54 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 2.3 ความลึก 1 กม. ภายในพื้นที่ของ ต.แม่ตืน อ.ลี้ จ.ลำพูน

และ 05.06 น. กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 1.7 ความลึก 1 กม. ภายในพื้นที่ของ ต.แม่ตืน อ.ลี้ จ.ลำพูน โดยการสั่นไหวทั้ง 2 ครั้ง ยังไม่มีรายงานการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน

>> ไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน ใกล้เคียงซอยราษฎร์บูรณะ 26

08.12 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนภายในซอย ราษฎร์บูรณะ 26 แยกย่อย ซอยที่ 3 ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสถานีดับเพลิงและกู้ภัยราษฎร์บูรณะ และอาสาสมัครป้องกันภัยฝายพลเรือน ( อปพร.เขตราษฎร์บูรณะ) พร้อมทั้งอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

เหตุเกิดขึ้นภายในชุมชนไม่มีชื่อ เเขวง ราษฎร์บูรณะ เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร เป็นลักษณะชุมชนบ้านไม้เก่าปลูกติดกันหลายหลังซอยคับแคบ รถดับเพลิงขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงบ้านต้นเพลิงได้ มีแสงเพลิงและกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากภายในชุมชนดังกล่าวลุกไหม้บ้านอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงช่วยกันแบกเครื่องต่อสายยางหัวฉีดดับเพลิงเร่งสกัดไฟเป็นการเร่งด่วน ท่ามกลางความชุลมุนของชาวบ้านที่ต่างเร่งอพยพขนข้าวของออกมาจากตัวบ้านอย่างจ้าล่ะหวั่น ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ บ้านเรือนประชาชนเสียหายไปทั้งหมด 8 หลังคาเรือน แต่เคราะห์ยังดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว

เบื้องต้นจากการตรวจสอบแล้วพบว่าบ้านเรือนประชาชนที่ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายไปทั้งหมดถึง 8 หลังคาเรือน ซอยคับแคบ รถดับเพลิงขนาดใหญ่เข้าไม่ถึงจุดเกิดเหตุ จึงทำให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบากและล่าช้าส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นอยู่ระหว่างตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป

>> 3 ชีวิตสังเวยลำห้วย! ยายพร้อมหลานฝาแฝด จมน้ำดับสลดหลังลงล้างตัว

12.00 น. ในพื้นที่บ้านนาเดื่อ ตำบลนาแก้ว อำเภอโพนนาแก้ว จังหวัดสกลนคร เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ชีพรับแจ้งเหตุมีผู้จมน้ำเสียชีวิต 3 ราย บริเวณกระท่อมนาทางทิศตะวันตกของหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ติดกับลำห้วยสายหนึ่ง

เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ชีพเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุ พบร่าง นางทองยุ่น (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี และหลานสาวฝาแฝด ด.ญ.เอ และ ด.ญ.บี อายุ 11 ปี ทั้งหมดเป็นชาวบ้านในหมู่บ้านนาเดื่อ โดยได้พยายามทำการปั๊มหัวใจ (CPR) แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ทั้ง 3 รายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

จากการสอบถาม นายแสนทวี สามีของนางทองยุ่น เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนออกไปซื้อก๋วยเตี๋ยวในหมู่บ้าน ส่วนภรรยาและหลานสาวทั้งสองพึ่งดำนาเสร็จ คาดว่าน่าจะลงไปล้างตัวที่ลำห้วยดังกล่าว ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุจมน้ำเสียชีวิต โดยในที่เกิดเหตุพบรองเท้าแตะของผู้เสียชีวิตถอดทิ้งไว้ริมฝั่ง หลังชันสูตรพลิกศพ แพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากการขาดอากาศหายใจ ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด ทางญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงได้ส่งมอบร่างเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนา

>> ทัพเจ้าตาก ปะทะ คาราวานขนยาเสพติด เสียชีวิต 2 ศพ ยึดยาบ้า 4.8 ล้านเม็ด แนวชายแดนอำเภอแม่ฟ้าหลวง

15.04 น. พันเอกอนุวัช ปัญญานันท์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่บ้านปางมะหัน ม.6 ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เพื่อตรวจสอบพื้นที่ปะทะ ระหว่าง กองร้อยทหารม้าที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก ได้จัดกำลัง จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ร่วมกับ หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม (ชป.504) ปะทะกับขบวนการลำเลียงยาเสพติด คนร้ายเสียชีวิต 2 คน จำนวน 21 เป้ เปิดดูข้างในพบว่าเป็นยาบ้า รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ 4,800,000 เม็ด

โดยเหตุการณ์ปะทะ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 20 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ทำการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจ เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิด ตามพระราชบัญญัติยาเสพติด พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยเดินเท้าสะพายเป้พร้อมอาวุธไม่ทราบชนิด มาตามเส้นทางภูมิประเทศประมาณ 15 - 20 คน จึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่เจ้าหน้าที่ จึงเกิดการปะทะกันประมาณ 10 นาที ฝ่ายเจ้าหน้าที่ปลอดภัย หลังการปะทะกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ทิ้งสิ่งของ และอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปได้ หน่วยจึงได้จัดกำลังเพิ่มเติมจำนวน 2 ชุดปฏิบัติการวางกำลังเข้าควบคุมพื้นที่เกิดเหตุไว้

ต่อมาวันที่ 21 มิถุนายน 2568 น. เจ้าหน้าทีได้ทำการเข้าตรวจสอบของกลางในพื้นที่เกิดเหตุ ตรวจพบกระสอบดัดแปลง จำนวน 21 กระสอบ ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) โดยแบ่งเป็น กระสอบละ 200,000 เม็ด จำนวน 15 กระสอบ และกระสอบละ 300,000 เม็ด จำนวน 6 กระสอบ รวมทั้งสิ้นประมาณ 4,800,000 เม็ด และกลุ่มขบวนการเสียชีวิต 2 ศพ หลังจากนั้นได้นำของกลางทั้งหมดส่งให้สถานีตำรวจภูธรแม่ฟ้าหลวง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

>> จับชายอ้างเป็นตำรวจหลายหน่วย ตระเวนข่มขู่ไถเงินสนับสนุนสารพัดจากผู้ประกอบ ร้านค้า ชาวต่างชาติกว่า 2,000 ราย เช็กประวัติโดนจับมานับครั้งไม่ถ้วน

16.20 น. สภ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ร่วมแถลงผลจับกุม นายสุ (นามสมมุติ) หรือ สารวัตรวัฒน์ หรือ สารวัตรศักดิ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเกาะสมุย ลงวันที่ 29 พ.ค. และ น.ส.มุน (นามสมมุติ) ตามหมายจับศาลจังหวัดเกาะสมุย ลงวันที่ 31 มี.ค. ในข้อหา “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น” โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาสองสามีภรรยาดังกล่าวได้ที่บริเวณถนนสาธารณะ ต.โนนสัง อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู

เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการในพื้นที่เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ว่า มีชายลึกลับโทรศัพท์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายหน่วยงาน อาทิ ตม. ท่องเที่ยว ตำรวจท้องถิ่น ฯลฯ ชื่อ สารวัตรวัฒน์ หรือ สารวัตรศักดิ์ ไปเรียกรับผลประโยชน์ขอรับสนับสนุนกิจการงานต่างๆ ของหน่วยงานรัฐจากผู้ประกอบ ร้านค้าต่างๆ และชาวต่างชาติกว่า 2,000 ราย ในลักษณะเชิงข่มขู่ ทำให้ประชาชนทั้งชาวไทยและต่างชาติจำนวนหลายราย โอนเงินไปให้ตามที่ขอ กระทั่งทำการสืบสวนจนทราบตัวผู้ก่อเหตุ และมีประวัติแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่และถูกดำเนินคดีมาแล้วหลายครั้ง เบื้องต้นคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

>> ตำรวจสืบภาค 2 ตามยึดเงินสด 39 ล้าน คดี 2 สาวบริษัทแร่ร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง 103 ล้าน

18.00 น. จากกรณี เมื่อวันที่ 15 ม.ค.68 ที่ผ่านมา มีบริษัทเอกชนซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับการจัดการแร่ เข้าแจ้งตำรวจ สภ.ศรีราชา ระบุ มีพนักงานบัญชีร่วมกันลักทรัพย์บริษัทโดยปลอมเอกสารใบแจ้งหนี้และสัญญาซื้อขายนำไปยื่นธนาคารเพื่อโอนเงิน 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 103 ล้านบาท จากบริษัทไปยังบัญชีบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งผู้ก่อเหตุจัดเตรียมไว้ ก่อนถอนเงินสดทั้งหมดที่ธนาคารแล้วหลบหนีไป หลังเกิดเหตุตำรวจสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกมาหมายจับ น.ส.อัญ (นามสมมุติ) และ น.ส.วิว (นามสมมุติ)

ล่าสุดคดี พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนภูธรภาค 2 เปิดเผยว่าได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน พร้อมหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง กทม. ซึ่งอยู่ในความครอบครองของนายนัท สามีของน.ส.วิว พบเงินสด 39,947,480 บาท ซุกซ่อนอยู่ใต้เตียงในคอนโดฯ

จากการสอบสวน นายนัท แจ้งว่าเงินทั้งหมดรับมาจากภรรยาและเป็นเงินที่ได้มาจากการลักทรัพย์บริษัทที่ภรรยาเป็นพนักงาน โดยนำมาเก็บรักษาไว้ที่คอนโด ส่วนน.ส.วิว หลบหนีออกไปประเทศบาห์เรน ตำรวจบก.สส.ภ.2 สืบสวนมาอย่างต่อเนื่องทั้งติดตามจับกุมและติดตามทรัพย์สินจนติดตามเงินคืนให้ผู้เสียหายได้แม้จะเป็นเงินบางส่วนก็ถือเป็นการเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อน ส่วนนายนัท เข้าข่ายรับของโจรซึ่งจะสืบสวนดำเนินคดีต่อไป

>> กองปราบรวบหนุ่มแสบ เปิดบริษัทบังหน้าหลอกติดตั้ง “เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ” หลอกเชิดเงินลูกค้ากว่า 1.5 ล้าน

19.31 น. กองปราบปราม นำกำลังจับกุม นายชัย (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี ตามหมายจับศาลแขวงพัทยา ลงวันที่ 24 ก.พ.68 ข้อหา “ฉ้อโกง” และหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ 262/2568 ลงวันที่ 4 เม.ย.68 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ได้ที่บ้านเช่าในพื้นที่ ม.2 ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร

สืบเนื่องจาก นายชัย (นามสมมุติ) ได้ร่วมกับพวกเปิดบริษัทรับติดตั้งเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ โดยใช้กลยุทธ์ตีสนิทผู้เสียหาย อ้างมีประสบการณ์และสามารถติดตั้งเครื่องซักผ้าได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะให้ผู้เสียหายวางเงินมัดจำ แต่สุดท้ายกลับไม่ดำเนินการตามที่ตกลงไว้ หนึ่งในเหยื่อรายใหญ่ เป็นผู้ประกอบการในพื้นที่พัทยา ยอมจ่ายเงินมัดจำเครื่อง จำนวน 300,000 บาท

ต่อมานายชยเศรษฐ์ กลับอ้างว่า หากอยากได้เครื่องไว ๆ ต้องโอนเงินส่วนที่เหลือให้ครบทั้งหมด ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเพิ่มอีก 900,000 บาท รวมยอดความเสียหายจำนวน 1.2 ล้านบาท แต่ผ่านไปกว่า 6-7 เดือน ก็ไม่ได้มาติดตั้งตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด นอกจากนี้ พบว่ายังมีเหยื่อในพื้นที่พิษณุโลก ถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน สูญเงินไปอีก 300,000 บาท ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความจนศาลออกหมายจับไว้ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตามจับกุมได้ดังกล่าว จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงนำส่งศาลแขวงพัทยา ดำเนินคดีพร้อมเร่งขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการและทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดต่อไป

>> แม่ทัพภาคที่ 2 สั่งปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์

22.00 น. มีคำสั่งกองทัพภาคที่ 2 ว่าด้วยเรื่องอนุมัติปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ โดยหนังสือคำสั่งระบุว่า คำสั่งกองทัพภาคที่ 2 (เฉพาะ) ที่ 176/2568 เรื่อง “อนุมัติปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู” ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์

ตามคำสั่งกองทัพบก (เฉพาะ) ที่ 806/2568 เรื่องการควบคุม การเปิด – ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังสุรนารี มีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสมในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี เพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณาภาพแห่งดินแดงของประเทศไทย การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย พร้อมทั้งให้เกิดความเหมาะสมต่อการปฎิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน และความมั่งคงของประเทศไทย

กองทัพภาคที่ 2 จึงอนุมัติให้ปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่ วันที่ 21 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป