วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 เวลา 02:48 น.
กู้ภัยและพลเมืองดี เร่งช่วยเหลือ หนุ่มใหญ่วัย 57 ปี ขับรถเก๋งพุ่งตกคลองลากฆ้อน นำร่างขึ้นมาทำ CPR แต่ไม่เป็นผล จ.นนทบุรี
เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 15 พ.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์ตกลงไปในคลอง เหตุเกิดบริเวณจุดกลับรถใต้สะพานคลองลากฆ้อน ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงประสานเจ้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูรุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ ทราบว่าเป็นรถยนต์ (ยังไม่ทราบยี่ห้อ สี และหมายเลขทะเบียน) ตกลงไปในคลอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยและพลเมืองดีเร่งช่วยเหลือนำร่างคนขับออกมาจากรถ เป็นชายไทย อายุ 57 ปี ชาว จ.นนทบุรี เบื้องต้นคนขับรถหมดสติ ไม่มีชีพจร เจ้าหน้าที่กู้ชีพ กู้ภัยเร่งปั๊มหัวหัวใจ นานกว่า 30 นาทีไม่เป็นผล เสีชีวิตในเวลาต่อมา
หลังเกิดเหตุทางภรรยาและบุตรสาว ทราบข่าว ได้เดินทางมาพร้อมกับให้ข้อมูลว่า สามีนั้นมีโรคประจำตัว ลมชัก ผ่าตัดสมองจากสาเหตุเลือดคั่ง เบาหวาน และพาร์กินสัน ซึ่งก่อนเกิดเหตุเพิ่งออกจากบ้าน ตัวสามีบอกว่าจะออกไปซื้อของกิน ก่อนจะหายไปนานผิดปกติ ตรวจสอบจาก GPS พบว่าขาดหายไปช่วงสะพานข้ามคลองลากฆ้อน ซึ่งห่างจากบ้านไม่ไกล จึงได้ชักชวนลูกขับรถออกมาถึงพบเห็นรถเจ้าหน้าที่กู้ภัย อยู่ตรงที่เกิดเหตุจนกระทั่งทราบว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นสามีของตนเอง ทางภรรยายังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า สามีถ้ามีอาการปวดหัวจะเกิดอาการชัก ซึ่งคาดว่าสาเหตุสามีน่าจะเกิดอาการชักและหมดสติไป
ขณะเดียวกันภาพจากกล้องหน้ารถของพลเมืองดี ที่ขับตามมาบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ ก่อนเกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงจุดกลับรถใต้สะพานคลองลากฆ้อน แต่รถคันเกิดเหตุได้ขับพุ่งตรงไป จึงทำให้ตกลงไปในคลอง
พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า ตนเองกับเพื่อนกำลังขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากเลียบคลองจู่ๆ รถเก๋งคันดังกล่าวขับผ่านหน้าตนเองไปก่อนที่จะพุ่งตกลงไปในคลอง จากนั้นตนเองและเพื่อน รวมไปถึงพลเมืองดี ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเห็นเหตุการณ์กระโดดลงมาช่วย ซึ่งระหว่างนั้นรถได้ค่อยๆ ลอยตามน้ำมา ตนทุบกระจกหลังจนแตกซึ่งจังหวะนั้นตัวผู้ขับขี่ยื่นกระเป๋าสะพายออกมาให้แล้ว ทุกคนช่วยกันคว้าแขนพยายามดึงแต่ไม่เป็นผลตัวรถได้จมลงไปพร้อมคนขับ
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าเบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุพร้อมกับเก็บคลิปกล้องหน้ารถของพลดีไว้เป็นหลักฐาน ในส่วนสาเหตุยังไม่ทราบที่แน่ชัดจะต้องสอบถามทางญาติอีกครั้งว่าผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวหรือไม่ จากนั้นจึงมอบผู้เสียชีวิตให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อชันสูตรต่อไป
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ