หน้าแรก > สังคม

สถิติวันเเรกรณรงค์ฯ สงกรานต์ 66 เกิดอุบัติเหตุ 278 ครั้ง บาดเจ็บ 287 คน เสียชีวิต 27 ราย สาเหตุสูงสุด ขับรถเร็ว

วันที่ 12 เมษายน 2023 เวลา 13:10 น.


วันนี้ (12 เม.ย. 66) ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2566 สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 11 เมษายน 2566 เกิดอุบัติเหตุ 278 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 287 คน ผู้เสียชีวิต 27 ราย ศปถ. ได้ประสานจังหวัดอำนวยความสะดวกในเส้นทางสายหลัก และเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด รวมถึงประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยง ทางลัด เพื่อให้การสัญจรเป็นไปด้วยความคล่องตัว พร้อมจัดตั้งจุดบริการแก่ประชาชนตลอดเส้นทาง ตลอดจนเน้นย้ำให้มีการบังคับใช้กฎหมายและกวดขันพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่อย่างจริงจัง กำชับจุดตรวจเพิ่มความเข้มข้นในการเรียกตรวจยานพาหนะและความพร้อมของผู้ขับขี่ คุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยง โดยเฉพาะการขับรถเร็ว และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย เพื่อลดความสูญเสียจากการบาดเจ็บและความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ

นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2566 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 11 เมษายน 2566 ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 278 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 287 คน ผู้เสียชีวิต 27 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 35.25 ตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 24.82 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 79.37 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 87.41 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 48.20 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 28.78 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา 19.01 – 20.00 น. ร้อยละ 7.91 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 – 59 ปี ร้อยละ 16.56 จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,871 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 54,487 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 306,166 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 48,176 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 15,152 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 14,302 ราย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 4,759 ราย ขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด 4,270 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ พัทลุง (14 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ปทุมธานี เพชรบูรณ์ และเลย (จังหวัดละ 2 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ พัทลุง (18 คน)  

นายโชตินรินทร์ กล่าวต่อไปว่า คาดว่าในวันนี้ถนนสายหลักที่ออกสู่ภูมิภาคจะมีปริมาณรถหนาแน่นทุกเส้นทาง เนื่องจากประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวไปยังต่างจังหวัดแล้ว ซึ่งอาจส่งผลให้มีการจราจรติดขัดเป็นบางช่วง ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้ประสานจังหวัดดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน โดยเฉพาะถนนสายหลักและเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด โดยเปิดช่องทางพิเศษ ปิดจุดกลับรถ ประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยง ทางลัด เพื่อให้การสัญจรเป็นไปด้วยความคล่องตัว รวมถึงจัดตั้งจุดบริการแก่ประชาชนตลอดเส้นทาง ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและกวดขันพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่อย่างจริงจัง โดยเน้นพื้นที่เสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ซึ่งจากการเก็บข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนน พบว่า ยังคงมีสาเหตุมาจากการขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจเข้มข้นในการเรียกตรวจยานพาหนะและความพร้อมของผู้ขับขี่ รวมถึงบังคับใช้กฎหมายกับผู้ขับขี่ที่ใช้ความเร็วเกินกำหนด และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย เพื่อลดความสูญเสียจากการบาดเจ็บและความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ

นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า วันนี้มีประชาชนเดินทางออกจากกรุงเทพมหานครเพื่อกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก การจราจรที่ติดขัดและปริมาณรถที่หนาแน่น อาจจะทำให้ประชาชนใช้เวลาในการเดินทางที่มากขึ้นกว่าปกติ จึงขอฝากให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมีน้ำใจต่อผู้ร่วมใช้เส้นทาง ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการไม่ขับรถเร็ว อีกทั้งการขับรถทางไกลในสภาพอากาศที่ร้อน ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและง่วงนอนได้ง่าย  หากมีอาการดังกล่าวขอให้จอดพักรถในบริเวณที่ปลอดภัยหรือจุดบริการตามเส้นทางต่าง ๆ เพื่อปรับเปลี่ยนอิริยาบถ ค่อยเดินทางไปต่อ เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงให้การเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์มีความสุขใจกับชีวิตวิถีใหม่ที่ห่างไกลอุบัติเหตุ สำหรับประชาชนที่ประสบหรือพบเห็นอุบัติเหตุสามารถแจ้งเหตุได้ทางสายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง และไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป  

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม