22 พฤศจิกายนท 2568 ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา รายงานสถานการณ์อุทกภัยจากฝนตกหนักในพื้นที่ช่วงที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 โดยพบว่าปริมาณน้ำฝนวัดได้ 68.5 มิลลิเมตร แม้ขณะนี้ฝนได้หยุดตกแล้ว แต่สถานการณ์ในพื้นที่ยังอยู่ในภาวะต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากระดับน้ำในลำคลองมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

ด้านความเสียหาย อำเภอสะเดาได้รับผลกระทบรวม 4 ตำบล 17 หมู่บ้าน ได้แก่ ตำบลท่าโพธิ์, ตำบลทุ่งหมอ, ตำบลพังลา และตำบลเขามีเกียรติ มีผู้ประสบภัยทั้งสิ้น 2,018 ครัวเรือน รวมประชากร 7,530 คน โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ ตำบลท่าโพธิ์และตำบลทุ่งหมอ ซึ่งมีบ้านเรือนจำนวนมากถูกน้ำท่วมสูงเฉียบพลัน ขณะที่ตำบลพังลาและตำบลเขามีเกียรติได้รับผลกระทบในบางหมู่บ้าน

สำหรับสถานการณ์ระดับน้ำ อ่างเก็บน้ำคลองสะเดา (เขื่อนห้วยคู) มีระดับน้ำอยู่ที่ 61.31 เมตร (รทก.) ปริมาณน้ำ 18.925 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 33.35% ของความจุอ่าง และมีการเปิดระบายน้ำ 12 เซนติเมตร จากการตรวจสอบพบว่าคลองสายหลักหลายสายมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจนเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนในหลายพื้นที่ โดยยังต้องติดตามปริมาณน้ำจากพื้นที่ต้นน้ำและน้ำสะสมในคลองอู่ตะเภาอย่างต่อเนื่อง

ในด้านการช่วยเหลือนายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา สั่งการให้นายกฤชณัทท พลรัตน์ นายอำเภอสะเดา และหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งกลุ่มงานความมั่นคง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนทันที โดยได้จัดกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ช่วยขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง รวมถึงอพยพประชาชนที่ไม่สามารถพักอาศัยในบ้านได้

แม้ขณะนี้ฝนจะหยุดตกแล้ว แต่สถานการณ์ยังคงต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากมีปริมาณน้ำในคลองที่ยังสูงขึ้นเป็นระยะ และยังมีโอกาสเกิดน้ำไหลหลากจากต้นน้ำได้ จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศแจ้งเตือนจากทางราชการอย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมรับมือในทุกด้าน

ที่มา สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา