สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา หลังเขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำเหนือ ที่ปริมาณ 2,900 ลบม.ต่อวินาที ประกอบกับน้ำทะเลหนุน จนเกิดผลกระทบกับพื้นที่ภาคกลาง มีน้ำเข้าท่วมขัง จ. ปทุมธานี จ. นนทบุรี จ. สมุทรปราการ และกทม.

ล่าสุดเวลา 09.30 น.วันที่ 11 พ.ย.68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจบ้านเรือนประชาชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งท่าเรือวัชรีวงศ์  ตรงข้ามท่าเรือปากเกร็ด ต.บางตะไนย์ ต.บางพลับ ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเช้านี้น้ำต่ำกว่าเขื่อนริมตลิ่งประมาณ 50 ซม. ซึ่งวันนี้น้ำจะขึ้นสูงสุดเวลา 12.00 น.

สำหรับบ้านเรือนที่ตั้งริมแม่น้ำได้รับผลกระทบเกือบ 100% ระดับน้ำอยู่ที่ 30-60 ซม. ส่วนจุดเสี่ยงเช่นใต้สะพานพระรามสี่ ฝั่งท่าเรือปากเกร็ด มีการทำคันกั้นน้ำเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 70 ซม.ตลอดแนวเขื่อนท่าน้ำปากเกร็ด  ฝั่งเกาะเกร็ดน้ำเข้าท่วมเกือบ 80% โดยเฉพาะบ้านริมน้ำและพื้นที่ลุ่มฝั่งหมู่ หมู่ 1,4,5,6,7

สำหรับใต้สะพานพระรามสี่ฝั่งท่าเรือวัชรีวงศ์ จุดกลับรภมีการทำแนวคันดินสูฃ 60-1.00 เมตร ระยะทางประมาณ 200 เมตร ตลอด 2 ฝั่งถนนเพื่อป้องกันน้ำเข้าท่วมถนนชัยพฤกษ์ และหมู่บ้านจัดสรร นอกจากนี้มีการนำหินคลุกมาทำคันกั้นน้ำบริเวณปากซอยวัดเตย และวัดบางจาก สูงประมาณ 50 ซม. โดยบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยาใน อ.ปากเกร็ดมีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบน้ำเข้าท่วม ต.บางพูด ต.ปากเกร็ด ต.บาฃตลาด ต.เกาะเกร็ด ต.บางตะไนย์ ต.ท่าอิฐ ต.อ้อมเกร็ด ต.บางพลับ ต.คลองพระอุดม รวมกว่า 5,000 หลังคาเรือน