วันที่ 31 ตุลาคม 2568 เวลา 05:24 น.
ลอบวางระเบิด ข้างป้อมตำรวจยุทธศาสตร์ปาลัส รถยนต์พังหลายคัน และมีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ จ.ปัตตานี
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568 เวลา 20.30 น. ศูนย์รับแจ้งเหตุสถานีตำรวจภูธรมายอ จังหวัดปัตตานี ได้รับแจ้งจากกำนันตำบลลางา ว่ามีเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดบริเวณแยกชลประทาน ข้างป้อมตำรวจยุทธศาสตร์ปาลัส หมู่ที่ 5 ตำบลลางา อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำป้อมได้รับบาดเจ็บ 1 นาย เป็นอาการหูอื้อจากแรงอันเกิดจากการระเบิด
หลังได้รับแจ้งเหตุ พันตำรวจเอกต่อลาภ เล็งฮะ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรมายอ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจและชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (EOD) เข้าตรวจสอบพื้นที่โดยเร่งด่วน พร้อมทั้งประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการและควบคุมสถานการณ์
เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่เดินทางถึงที่เกิดเหตุ บริเวณริมถนนสาย 412 ปัตตานี–นราธิวาส ใกล้ป้อมตำรวจยุทธศาสตร์ พบว่าป้อมดังกล่าวได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดอย่างรุนแรง โครงสร้างบางส่วนของป้อมฉีกขาดและกระจกแตกกระจาย รวมถึงพบรถยนต์ราชการของชุดปฏิบัติการอยู่ในสภาพได้รับความเสียหายจำนวน 4 คันจากแรงอัดกระแทกและสะเก็ดระเบิดที่พุ่งกระจายไปทั่วบริเวณ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจรักษาอาการโดยทันที ซึ่งแพทย์ระบุเป็นอาการบาดเจ็บเล็กน้อยจากแรงกระแทกและเสียงระเบิด
จากการตรวจสอบพื้นที่โดยละเอียด เจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนของวัตถุต้องสงสัยและโลหะซึ่งคาดว่าเป็นส่วนประกอบของระเบิดแสวงเครื่องตกกระจัดกระจายทั่วบริเวณถนนและป้อมตำรวจ เบื้องต้นจากการประเมินเบื้องต้น คาดว่าวัตถุระเบิดที่ใช้มีน้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม และถูกซุกซ่อนในรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายนำมาจอดทิ้งไว้บริเวณด้านข้างของป้อม ก่อนจะกดจุดชนวนให้เกิดการระเบิดขึ้น โดยคาดว่าเป็นการจุดชนวนด้วยระบบสั่งการระยะไกล
นอกจากนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ ได้รับข้อมูลว่า ขณะเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 7 นาย ปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยประจำป้อมตามปกติ ก่อนที่จะได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องรีบหาที่กำบังเพื่อป้องกันความปลอดภัยและประสานกำลังสนับสนุนในทันที เพื่อเข้าควบคุมสถานการณ์และป้องกันเหตุรุนแรงที่อาจเกิดซ้ำซ้อน
เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดได้ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบเพื่อความปลอดภัยอย่างเข้มงวด พร้อมเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ และบันทึกภาพถ่ายเพื่อนำไปใช้ประกอบการสืบสวนสอบสวนและพิสูจน์ทราบรูปแบบการประกอบระเบิด ทั้งนี้ ได้มีการประสานงานให้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่โดยรอบ เพื่อใช้ติดตามเส้นทางการเคลื่อนไหวของผู้ก่อเหตุ รวมถึงตรวจสอบพาหนะต้องสงสัยที่อาจเกี่ยวข้องกับการลักลอบวางระเบิดครั้งนี้
ขณะเดียวกัน หน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เชื่อว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นความพยายามของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ต้องการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ และส่งสัญญาณท้าทายอำนาจรัฐในช่วงที่หน่วยความมั่นคงกำลังเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงที่สถานการณ์ความไม่สงบเริ่มมีแนวโน้มลดลงตามลำดับ ซึ่งทำให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงอาจมีความพยายามสร้างความตื่นตระหนกในหมู่ประชาชนและกดดันการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
ภายหลังเกิดเหตุ ตลอดพื้นที่อำเภอมายอและพื้นที่ใกล้เคียง ได้มีการเพิ่มความเข้มงวดด้านมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยจัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัดเส้นทางเข้า–ออกพื้นที่เสี่ยง และจัดกำลังลาดตระเวนร่วมระหว่างตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เพื่อป้องกันการลอบก่อเหตุซ้ำซ้อน รวมถึงสกัดกั้นการหลบหนีหรือเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง
ภาครัฐได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวังอย่างสูงสุดในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ เช่น ป้อมตำรวจ ด่านตรวจ ถนนสายหลัก เส้นทางสัญจรของประชาชน และสถานที่ราชการ พร้อมทั้งได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เพิ่มการสังเกตสิ่งผิดปกติและแจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีหากพบวัตถุต้องสงสัยหรือบุคคลพฤติกรรมผิดปกติ เพื่อร่วมกันป้องกันเหตุรุนแรงและรักษาความปลอดภัยใน
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันว่าจะติดตามผู้ก่อเหตุเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว พร้อมเร่งดำเนินมาตรการเชิงรุกในการเฝ้าระวังและสกัดกั้นการก่อเหตุของกลุ่มความไม่สงบอย่างต่อเนื่อง โดยยึดมั่นหลักการคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่เป็นสำคัญ
เครดิต สวท.ปัตตานี News



