หน้าแรก > อาชญากรรม

รวบสาวแสบ ตุ๋นลงทุนธุรกิจสินเชื่อก่อนเชิดเงินหนี พบเงินหมุนเวียนกว่า 56 ล้านบาท

วันที่ 21 ตุลาคม 2568 เวลา 00:05


รวบสาวแสบ ตุ๋นลงทุนธุรกิจสินเชื่อก่อนเชิดเงินหนี พบเงินหมุนเวียนกว่า 56 ล้านบาท

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.4 บก.ปอศ ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา นางสาวชา (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ลงวันที่ 5 กันยายน 2568 ฐานความผิด “ฉ้อโกงทรัพย์, กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน”  จับกุมได้ที่ หมู่ 8 ต.ขุหลุ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี

สืบเนื่องจากเมื่อปี 2565 กลุ่มผู้เสียหาย ซึ่งเป็นพยาบาลวิชาชีพ จำนวน 11 ราย ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. กรณีได้ถูกผู้ต้องหาซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงาน ชักชวนให้ลงทุนธุรกิจ อ้างว่าเป็นธุรกิจปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล โดยมีเสนอผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 15 ต่อเดือน หรือร้อยละ 180 ต่อปี ซึ่งในช่วงแรกของการลงทุนจะมีการจ่ายผลตอบแทนคืนให้กับกลุ่มผู้เสียหาย เพื่อจูงใจให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและลงทุนเพิ่ม ต่อมาเริ่มจ่ายผลตอบแทนช้าลงไม่เป็นไปตามกำหนดเวลา บ่ายเบี่ยงไม่จ่ายผลตอบแทนภายหลังกลุ่มผู้เสียหายทราบว่าผู้ต้องหาไม่ได้มีการทำธุรกิจปล่อยสินเชื่อ ตามที่กล่าวอ้างจริง และหลบหนีไป จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท

จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหา พบว่าหลังจากรับโอนเงินลงทุนจากผู้เสียหายแล้ว ผู้ต้องหาจะโอนเงินหมุนเวียนเงินจากผู้ลงทุนรายใหม่มาจ่ายผลตอบแทนผู้ลงทุนรายเดิมซึ่งเป็นลักษณะ วงจรแชร์ลูกโซ่ โดยพบเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารของผู้ต้องหา กว่า 58 ล้านบาท และไม่พบว่ามีการนำเงิน ไปลงทุนในกิจการที่ถูกกฎหมายซึ่งสามารถจ่ายผลตอบแทนได้สูงตามที่กล่าวอ้างจริงแต่อย่างใด  เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานจนศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา และได้ประกาศสืบจับเรื่อยมา  

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. สืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาซ่อนตัว อยู่ในพื้นที่ ต.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี จึงได้นำกำลังลงพื้นที่เข้าจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าวได้ที่ หมู่ที่ 8 ต.ขุหลุ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุ ตนมีหนี้สินบัตรเครดิตจึงได้คิดอุบายหลอกลวงชักชวนกลุ่มเพื่อนร่วมงานและบุคคลใกล้ชิดมาร่วมลงทุนโดยอ้างว่า จะนำเงินลงทุนไปทำธุรกิจสินเชื่อ และเสนอผลตอบแทนให้ผู้ลงทุนสูง แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงการนำเงินลงทุน ของผู้ลงทุนรายใหม่มาหมุนเวียนจ่ายให้กับผู้ลงทุนรายเก่า จนท้ายทึ่สุดไม่สามารถหาเงินมาหมุนเวียนจ่ายให้ กับผู้เสียหายได้ จึงได้หลบหนีมาอยู่ในพื้นที่ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในที่สุด

 

 

ข่าวยอดนิยม