วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เวลา 19:54 น.
วันนี้ (1 ต.ค.68) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมและมอบนโยบายการบริหารราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ให้แก่ผู้บริหารระดับสูงรวม 338 โดยประกาศวิสัยทัศน์สำหรับปีนี้ว่าคือ “เป็นตำรวจมืออาชีพ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความ ซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส เพื่อให้เกิดความผาสุกแก่ประชาชน”
ก่อนการมอบนโยบาย ผบ.ตร. ได้กล่าวขอบคุณและยกย่องเชิดชูเกียรติข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติงานในปี 2568 สร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำรวจที่ปฏิบัติภารกิจ ปกป้องรักษาอธิปไตย ในพื้นที่ชายแดน พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยร่วมกันดูแลและค้ำชูสวัสดิการของข้าราชการตำรวจและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ
นโยบาย 1-6-9: ยึดมั่น เร่งรัด ก้าวหน้า
นโยบายการบริหารราชการ ตร. ปี 2569 ยังคงนโยบาย 15 ข้อเดิมจากปีก่อน พร้อมเพิ่มเติมการขับเคลื่อนงานให้เห็นผลเป็นรูปธรรมด้วยแนวคิด “1 ยึดมั่น, 6 เร่งรัด, และ 9 ก้าวหน้า (STEP)”
1. “ยึดมั่น” ในการพิทักษ์ ปกป้อง สถาบัน
ภารกิจที่สำคัญสูงสุดที่ตำรวจทุกนายต้องยึดมั่นคือการ พิทักษ์ ปกป้อง รักษา เทิดทูนสถาบันหลักของชาติ และการรักษาความสงบเรียบร้อยของคนในชาติ โดยกำชับให้การถวายความปลอดภัยและการดำเนินโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องต้องเป็นไปอย่างสมพระเกียรติ
2. “6 เร่งรัด” ภารกิจหลักต้องเห็นผล
มีงาน 6 เรื่องที่ต้องเร่งรัดขับเคลื่อนและเห็นผลเป็นรูปธรรม ได้แก่: 1. ขับเคลื่อน ส่งเสริมโครงการพระราชดำริ 2. ปรับปรุงสวัสดิการตำรวจและครอบครัว 3. พัฒนางานสอบสวน (โดยเฉพาะการห้ามพนักงานสอบสวนไปช่วยราชการ) 4. ป้องกัน ปราบปรามอาชญากรรม ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน เช่น ยาเสพติดและอาชญากรรมออนไลน์ 5. กวดขัน เสริมสร้างวินัยจราจร และ 6. วางแผน เตรียมการด้านสาธารณภัย ในส่วนของโครงการพระราชดำริ ได้เน้นย้ำการสนับสนุน โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (รร.ตชด.) และการให้ความช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดภัยพิบัติอย่างรวดเร็ว ส่วนงานสวัสดิการต้องเร่งรัดให้ “เร็ว ครบ ทั่วถึง”
3. “9 ก้าวหน้า” สู่ Smart Police ด้วยแนวคิด STEP
แนวคิด “9 ก้าวหน้า” มาจากคำว่า STEP ซึ่งหมายถึง “พวกเรา จะก้าวไปข้างหน้า ด้วยกัน อย่างมั่นคง” โดยเน้นการวางรากฐานการพัฒนาองค์กรในอนาคต:
* S = Smart (ฉลาด ทันสมัย สง่างาม): ตำรวจต้องนำเทคโนโลยีมาใช้ในทุกด้าน เพื่อไปสู่การเป็น Smart Police โดยมีเป้าหมายคือ 1. จัดระบบเทคโนโลยีตำรวจที่เป็นหนึ่งเดียว (One Police) 2. ปรับรูปแบบงานเป็น สายตรวจอัจฉริยะ (ใช้ AI วิเคราะห์อาชญากรรม) และ 3. จัดทำ ฐานข้อมูล Big Data ในงานสืบสวน
* T = Transparency (โปร่งใส ตรวจสอบได้): วิธีการทำงานต้องอยู่บนพื้นฐานของความโปร่งใส เพื่อให้ทุกภาคส่วนตรวจสอบได้ โดยมีเป้าหมายคือ 8. สร้างมาตรฐานการทำงานที่ มีคุณธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ วางระบบควบคุมพฤติกรรมตำรวจ
* E = Efficiency (ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ): หมายถึงการทำงานภายใต้ทรัพยากรที่จำกัด โดยมีเป้าหมายคือ 4. พัฒนางานสอบสวน ให้มีช่องทางการเจริญเติบโตที่ชัดเจน/เพิ่มอัตรา 5. วางระบบจราจร และบังคับใช้กฎหมายด้วยเทคโนโลยี 6. พัฒนาระบบรับเรื่องร้องทุกข์ (Jcoms) และปรับปรุงสถานีตำรวจ และ 7. เสริมสร้างความมั่นคงด้วยการ นำเครื่องมือพิเศษมาสนับสนุน
* P = People (ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง): ตำรวจต้องทำงานใกล้ชิดกับประชาชน เน้นการบริการแบบ Service Mind โดยมีเป้าหมายคือ 9. ส่งเสริมงานการมีส่วนร่วมของภาครัฐ เอกชน และประชาชน เน้นการแสดงกำลัง และการตรวจแบบ Stop Walk Talk
ผบ.ตร. กำชับให้ รอง ผบ.ตร. แต่ละสายงานไปขับเคลื่อนและดูแลการดำเนินการ ทุกไตรมาส พร้อมย้ำว่า “ในปีนี้ ตำรวจไทยต้องก้าวไปข้างหน้า เพื่อเป็นองค์กรที่นำสมัย มีประสิทธิภาพ และ ครองใจประชาชน”



10 ธันวาคม 2568
10 ธันวาคม 2568
10 ธันวาคม 2568
10 ธันวาคม 2568