หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว ประจำวันที่ 20 กันยายน 2568

วันที่ 21 กันยายน 2568 เวลา 05:43 น.


 24 ชั่วโมงข่าว ประจำวันที่ 20 กันยายน 2568

>> คนร้ายเหิม! ลอบวางระเบิดป้อมตำรวจทางหลวงกลาพอ อาคาร - รถราชการพังเสียหายหนัก

08.30 น. พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์ความรุนแรง หลังจากเมื่อกลางดึกวันที่ 19 กันยายน 2568 เวลา 23.55 น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณหน้าป้อมตำรวจทางหลวงกลาพอ (ส.ทล.5 กก.7 บก.ทล.) บ้านเตราะบอน หมู่ที่ 1 ตำบลเตราะบอน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี

แรงระเบิดทำให้อาคารสำนักงาน รถทางราชการได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า คนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องซุกซ่อนในรถจักรยานยนต์แล้วนำมาจอดข้างป้อมฯ ก่อนจะเกิดระเบิดขึ้น โดยหน่วยในพื้นที่ได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) และหน่วยที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการตรวจสอบและเก็บวัตถุพยานตั้งแต่เช้ามืด

แม่ทัพภาคที่ 4 ได้รับฟังการรายงานสถานการณ์จากหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตนเอง และได้กำชับให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งเก็บข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจนเพื่อขยายผลสืบสวนหาตัวผู้ก่อเหตุ พร้อมเน้นย้ำให้ทุกหน่วยเพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันเหตุซ้ำซ้อน ดูแลความปลอดภัยประชาชนอย่างเข้มงวด

ทั้งนี้ การก่อเหตุครั้งดังกล่าวถือเป็นความพยายามของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ต้องการสร้างสถานการณ์ก่อกวนต่อเจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งบั่นทอนความเชื่อมั่นที่ประชาชนมีต่อเจ้าหน้าที่ โดยคาดว่ามีสาเหตุจากการที่เจ้าหน้าที่รัฐในปัจจุบันมีมาตรการคุมเข้มและกระชับพื้นที่อย่างต่อเนื่อง มีกำลังเข้มแข็งและสามารถกดดันการเคลื่อนไหวของกลุ่มได้ จึงทำให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงต้องการแสดงการมีตัวตนและสร้างสถานการณ์ขึ้นมา

>> คืบหน้าจับลิงลพบุรี​ ล่าสุดจับลิงได้แล้ว 95 ตัว

09.30 น. เพจ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โพสต์ข้อความระบุ เจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (สาขาสระบุรี) ร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองลพบุรี ได้ดำเนินการจับลิงที่หลุดจากกรงอนุบาลสัตว์ บริเวณตำบลโพธิ์เก้าต้น อำเภอเมืองลพบุรี ตั้งแต่วันที่ 17-19 กันยายน 2568 โดยสามารถจับลิงได้แล้วรวมทั้งสิ้น 95 ตัว ​

นายสมศักดิ์ ดวงรัศมี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า ได้เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ใช้ทั้งวิธีการตั้งกรงดักจับและยิงยาสลบ โดยแบ่งเป็นยอดสะสมในแต่ละวันดังนี้

วันที่ 17 กันยายน 2568: จับลิงได้ 57 ตัว

วันที่ 18 กันยายน 2568: จับลิงได้ 17 ตัว

วันที่ 19 กันยายน 2568: จับลิงได้ 21 ตัว ​

ภารกิจนี้มีเป้าหมายเพื่อนำลิงที่หลุดออกจากกรงกลับคืนสู่กรงอนุบาลอย่างปลอดภัย และเพื่อแก้ไขปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อชุมชนในพื้นที่ต่อไป

>> อุทยานแห่งชาติน้ำตกตาดโตน ประกาศแจ้งเตือนนักท่องเที่ยว งดเล่นน้ำใกล้ผาน้ำตก

10.57 น. หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกตาดโตน อำเภอเมือง ชัยภูมิ แจ้งว่าพื้นที่บนเทือกเขาภูแลน เกิดฝนตกหนักติดต่อกัน 3 วัน ทำให้มีน้ำป่าไหลหลากเข้าเขื่อนลำปะทาวทั้งเขื่อนบนและเขื่อนล่าง จำนวนมาก จากที่รับน้ำได้ 16 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะนี้เกินการเก็บกัก และล้นทางระบายน้ำแล้ว 12 เซนติเมตร ทำให้ต้องเร่งระบายออก 300,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน

นอกจากนี้ปริมาณฝนที่ตกต่อเนื่อง ทำให้มีน้ำป่าหลากมายังลานน้ำตกตาดโตน หนักสุดในรอบปี อุทยานฯ เกรงเกิดอันตราย จึงออกประกาศห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำ บริเวณน้ำตกตาดโตนด้านบนใกล้บริเวณผาน้ำตกโดยเด็ดขาด แต่ยังสามารถนั่งกินอาหารและชมวิว ถ่ายรูปได้

>> โปรดใช้ความระมัดระวัง! ขับรถผ่านเส้นทางอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ระวังช้างป่าข้ามถนน

12.00 น. ​นายสมเกียรติ กาติ๊บ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยภาพช้างป่าที่ออกมาหากินบริเวณริมถนนทางหลวงหมายเลข 12 (หล่มสัก-ชุมแพ) ช่วงกิโลเมตรที่ 412-413 ซึ่งเป็นเส้นทางที่ตัดผ่านอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ซึ่งเป็นภาพที่พบเห็นบ่อยในบริเวณนี้

โดยช้างป่ามักจะเดินข้ามถนนในช่วงบ่ายไปจนถึงค่ำ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้ผลักดันให้ช้างกลับเข้าป่าอย่างปลอดภัย

​อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ขอแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวและผู้ใช้ขับรถผ่านเส้นทางนี้ โปรดขับขี่ด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ และชะลอความเร็ว เพื่อความปลอดภัยของทั้งผู้ขับขี่และสัตว์ป่าที่กำลังออกมาหากินในพื้นที่

>> ตร.เร่งล่ามือมีดบุกแทงพนักงานร้านสะดวกซื้อ ย่านปากเกร็ด บาดเจ็บสาหัส

13.50 น. จากกรณี หญิง อายุ 32 ปี ถูกคนเมาบุกเข้ามาใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกายแทงเข้าที่คอ ภายในร้านสะดวกซื้อ ภายในซอยวัดกู้ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น.วันที่ 19 กันยายน 2568 ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 20 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด หลังเกิดเหตุได้ไล่ติดตามตัวคนร้ายที่วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าหญ้าใกล้จุดเกิดเหตุ และได้ติดตามไปยังแคมป์คนงานก่อสร้างที่คนร้ายทำงานอยู่ ตรงข้ามกับร้านสะดวกซื้อดังกล่าว ซึ่งผู้ก่อเหตุ เป็น ชาย อายุ 25 ปี โดยเป็นคนงานก่อสร้างที่แคมป์ดังกล่าว

จากการสอบถาม นายจ้าง กล่าวว่า เมื่อคืนช่วงกลางดึกมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาสอบถาม ถึงลูกน้องตนที่ไปก่อเหตุ ซึ่งตนไม่ทราบว่าไปทำอะไร โดยเมื่อวานเป็นวันหยุดและวันรับเงินเดือน ลูกน้องตนนั่งดื่มเหล้าตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ แต่ตนเองไม่ได้อยู่ที่ห้องพักพาลูกไปหาหมอ ซึ่งปกติแล้วกลุ่มคนงานก็จะนั่งดื่มสุรากันตนก็ไม่คิดว่าเค้าจะไปก่อเหตุ ปกติเค้าก็เป็นคนที่ทำงานดี ขยันขันแข็ง ในเวลางานเค้าจะไม่ดื่มสุรา จะดื่มเฉพาะเวลาหลังเลิกงาน กับเพื่อนคนงานและไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาท ส่วนสาเหตุที่เขาไปทำร้ายพนักงานร้านสะดวกซื้อตนไม่ทราบเพราะว่าเข้านอนแล้ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาว่าพยายามฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนอาการผู้บาดเจ็บพ้นขีดอันตรายแล้ว แพทย์ให้รักษาตัวดูอาการอีก 1-2 วัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อประสานเข้ามอบตัว อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี

>> ม.รามฯ แจงเหตุ แทงกันหน้าเวทีคอนเสิร์ต งานเทศกาลสารทเดือนสิบ เผยกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นคนนอก ถูกจับกุมและอยู่ในระหว่างการสอบสวนขยายผล

16.00 น. มหาวิทยาลัยรามคำแหง ชี้แจงกรณีเหตุการณ์ในงานสารทเดือนสิบ ตามที่ปรากฏเป็นข่าว มีกลุ่มวัยรุ่นพกอาวุธร้ายแรงเข้าทำร้ายร่างกายผู้เข้าร่วมงานคอนเสิร์ตในเทศกาลสารทเดือนสิบที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายในคืนวันที่ 19 ก.ย.2568 ที่ผ่านมานั้น

มหาวิทยาลัยรามคำแหง ขอชี้แจงว่า งานออกร้านสารทเดือนสิบ เป็นงานที่องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงได้จัดขึ้นเพื่อรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวปักษ์ใต้ ซึ่งได้มีการจัดเป็นประจำทุกปี โดยมหาวิทยาลัยได้เล็งเห็นความสำคัญของการปลูกฝังจิตสำนึกในประเพณีพื้นถิ่นอันดีงามของนักศึกษาและตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์รุนแรงใดๆ

และมหาวิทยาลัยได้ย้ำเสมอมาว่า นอกจากการปลูกฝังจิตสำนึกในประเพณีอันดีงามแล้ว ขอให้องค์การนักศึกษาย้ำกับผู้เข้าร่วมงานในการสร้างวัฒนธรรมที่ดีในการร่วมกิจกรรม ให้คำนึงถึงลักษณะของพื้นที่ที่เป็นสถาบันการศึกษา ซึ่งไม่อนุญาตให้นำสุราหรือเครื่องดื่มมึนเมาเข้ามาจำหน่ายหรือเสพในงานโดยเด็ดขาด ตลอดจนห้ามพกพาอาวุธหรือมีเหตุพิพาทใด ๆ หากฝ่าฝืนจะมีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

ในขณะนี้ มหาวิทยาลัยรามคำแหงได้รับรายงานในเบื้องต้นว่า กลุ่มที่เข้ามาก่อเหตุไม่ใช่นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่เป็นกลุ่มบุคคลภายนอก ที่บางรายสังกัดสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ได้ถูกจับกุมและอยู่ในระหว่างการสอบสวนเพื่อขยายผลเพิ่มเติม

โดยมหาวิทยาลัยรามคำแหงจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดและเด็ดขาดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป และหากมีข้อมูลเพิ่มเติมใดๆ จะได้แจ้งให้สาธารณชนได้ทราบต่อไป

>> ผบช.ตชด. สั่ง ตชด.เพชรบูรณ์ เข้าช่วยประชาชนชาวหล่มสัก พนังกั้นน้ำป่าสักพัง

17.30 น. พล.ต.ท.นิตินัย หลังยาหน่าย ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ผบช.ตชด.) สั่งการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 ติดตามสถานการณ์พนังกั้นน้ำแม่น้ำป่าสักพังจนน้ำป่าไหลเข้าท่วมเขตเศรษฐกิจ อ.หล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ และลงพื้นที่ช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนี้โดยเร่งด่วน เตรียมกำลังพล พาหนะพร้อมเข้าช่วยเหลือ สำรวจประชาชนที่ติดตามอาคารบ้านเรือนสู่พื้นที่ปลอดภัย ส่งเสบียงอาหาร น้ำ ยา ให้กับประชาชนที่ยังพักอาศัยในบ้านเรือน

ทั้งนี้ ร.ต.ท.เผด็จ สันเวียงใหม่ หัวหน้าชุดปฏิบัติการตำรวจตระเวนชายแดนจังหวัดเพชรบูรณ์ หรือ ตชด.315 พร้อมข้าราชการตำรวจจิตอาสา ตชด.เพชรบูรณ์ ออกสำรวจตรวจสอบระดับน้ำแม่น้ำป่าสักและจุดที่พนังกั้นน้ำพังในพื้นที่เศรษฐกิจตลาดหล่มสัก ให้การช่วยเหลือประชาชนในด้านอำนวยความสะดวกด้านจราจร, ส่งประชาชนกลับที่พักในจุดเสี่ยงที่มีกระแสน้ำไหลแรง ทั้งนี้สถานการณ์ล่าสุดระดับน้ำเริ่มทรงตัว และยังคงเอ่อล้นตลิ่งท่วมเข้าพื้นที่เศรษฐกิจบ้านเรือนอยู่ ทางเทศบาลเมืองหล่มสักได้นำแท่นแบริเออร์คอนกรีตมาซ่อมแซมบริเวณส่วนที่พังชำรุดแล้ว

>> สกัดแว้น! รวมตัวซิ่งจยย.ป่วนเมือง จับหมดทั้งเด็กแว้น-คนดู-กองเชียร์

18.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทะเมนชัย และร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าปิดล้อมจับกุมกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกันซิ่งรถจักรยานยนต์เตรียมประลองความเร็วเป็นกลุ่มกว่า 50 คัน บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 29-30 ถนนสายคูเมือง–ลำปลายมาศ ต.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์

เมื่อกลุ่มวัยรุ่นเห็นเจ้าหน้าที่ ได้แตกฮือพยายามขับขี่รถหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ปิดล้อมไว้แล้วสามารถควบคุมตัวไว้ได้ 24 คน พร้อมรถจักรยานยนต์ 13 คัน ลักษณะแต่งซิ่ง ดัดแปลงสภาพท่อ จากนั้นควบคุมตัวไปคัดแยกว่าเป็นผู้ที่แข่งรถในทาง หรือ ผู้ที่สนับสนุนให้มีการแข่งรถในทาง หรือผู้ที่พยายามแข่งรถในทาง ออกเป็นกลุ่มก่อนแจ้งข้อหา นำตัวพร้อมรถจักรยานยนต์ของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

>> รถน้ำจีโน่ สแตนด์บาย บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว เพื่อเตรียมสลายม็อบชาวกัมพูชา ที่จะเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่ไทย

19.00 น. กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (อคฝ.) ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ให้สนับสนุนการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมชาวกัมพูชา ที่ก่อความเดือดร้อนวุ่นวาย เตรียมการมาเพื่อทำร้ายเจ้าหน้าที่ ตำรวจควบคุมฝูงชนจังหวัดสระแก้ว จึงได้นำรถจีโน่ ที่ใช้ในการสลายการชุมนุม ขับเข้ามาสแตนด์บาย ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา แล้วในวันนี้จำนวน 1 คัน และจะทยอยเดินทางเข้าพื้นที่อีกในช่วงเย็นของวันนี้

สำหรับรถน้ำ “จีโน่” หรือรถบรรทุกน้ำสีฟ้า สามารถบรรจุน้ำได้ 12,000 ลิตร มีกระบอกฉีดน้ำ​บนหลังคารถ มีระยะฉีดสูงสุด 65 เมตร สามารถปรับระดับการฉีดได้รอบคัน รวมทั้งสามารถใส่สี​ในน้ำ เพื่อทำให้ผู้ถูกฉีดมีสีติดตามตัวและเสื้อผ้าเป็นที่สังเกตได้ พร้อมทั้งยังติดตั้งแก๊สน้ำตา โฟมดับไฟ “ล้อกันกระสุน” มีตะแกรงป้องกันกระจกรอบคัน มีคันกั้นเหล็กหน้ารถไว้เคลียร์พื้นที่ ที่มีสิ่งกีดขวาง โดยรอบตัวรถจะมีกล้องวงจรปิดติดตั้งรอบคันเพื่อบันทึกภาพเหตุการณ์ รอบทิศทาง สามารถใช้เป็นหลักฐาน พิสูจน์ข้อเท็จจริง หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น 
 

ข่าวยอดนิยม