หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 17 ธันวาคม 2568

วันที่ 18 ธันวาคม 2568 เวลา 05:39 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 17 ธันวาคม 2568


>> ช้างป่าทำร้ายพระสงฆ์มรณภาพ 1 รูป ที่อำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น

06.00 น. นายทินกร ประท้วง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ได้รับแจ้งเหตุพบพระภิกษุมรณภาพ บริเวณถนนทางขึ้นที่พักสงฆ์ซอยสาม (วัดร้าง) ตำบลบ้านใหม่ อำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น จึงเข้าตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุ พบร่างพระภิกษุ 1 รูปมรณภาพลักษณะนอนคว่ำหน้า อยู่บนถนนทางขึ้นที่พักสงฆ์ โดยบริเวณโดยรอบพบร่องรอยของช้างป่าหลายจุด แต่ไม่ทราบจำนวนแน่ชัด จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าพระภิกษุรูปดังกล่าวเดินออกบิณฑบาตในช่วงเช้า และได้พบกับช้างป่าบริเวณทางขึ้นที่พักสงฆ์ ก่อนจะถูกช้างป่าทำร้ายจนมรณภาพ

เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด พร้อมเตือนประชาชนในพื้นที่ให้เพิ่มความระมัดระวัง เนื่องจากช้างป่าไม่สามารถอยู่ร่วมกับคนได้ และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้ จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย และหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยในพื้นที่ต่อไป


>> ชายวัย 64 ปีนั่งเล่นบริเวณปากบ่อน้ำบาดาล แล้วพลัดตกลงไปในความลึก 6 เมตร อาสากู้ภัยโรยตัวลงไปนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมา จ.ลำปาง

08.45น. รับแจ้งว่าเกิดเหตุ ชายพลัดตกลงในบ่อน้ำบาดาล ติดค้างอยู่ภายในบ่อ ในพื้นที่ บ้านโป่งขวาก ต.แม่สัน อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยได้เดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ ลักษณะเป็นบ่อบาดาลความลึกประมาณ 6 เมตร ด้านหลังบ้านพักอาศัย พบร่างของ ชายไทย อายุ 64 ปี (เจ้าของบ้าน) สภาพศพติดค้างอยู่ก้นบ่อ เจ้าหน้าที่กู้ภัยชุดปฏิบัติงาน ต้องใช้ระบบรอกและเชือก เพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นจากบ่ออย่างทุลักทุเล เนื่องจากปากบ่อแคบและความลึกค่อนข้างมาก

จากการสอบสวนและชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นโดยแพทย์และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย หรือบาดแผลที่บ่งชี้ถึงการฆาตกรรม สันนิษฐานว่าผู้ตายมานั่งพักผ่อนบริเวณปากบ่อตามปกติ แต่อาจเกิดอาการหน้ามืดหรือเสียหลัก จนพลัดตกลงไปในบ่อและเสียชีวิตในที่สุด ทางญาติไม่ได้ติดใจสาเหตุการตาย เจ้าหน้าที่จึงได้มอบร่างผู้เสียชีวิตให้ครอบครัวนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป


>> ตำรวจสอบสวนกลาง รวบมือยิงกลางเมืองสุราษฎร์ธานี หลังหนีคดีมานานกว่า 10 ปี แอบหลบกบดานเมืองจันทบุรี

09.28 น. ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ได้ร่วมกันจับกุม นายชอ (นามสมมุตติ) อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ 21/2558 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว” โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนติดตามจนสามารถเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ที่จังหวัดจันทบุรี หลังจากหลบหนีคดีมาเป็นเวลานานกว่า 10 ปี

พฤติการณ์แห่งคดี สืบเนื่องมาจากเมื่อปี พ.ศ. 2558 ได้เกิดเหตุการณ์อุกอาจสะเทือนขวัญขึ้นบริเวณด้านหน้าสำนักงานการบินไทย ในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี โดยผู้ก่อเหตุ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าประกบรถของผู้เสียหาย ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้เสียหายในระยะเผาขนเป็นจำนวนถึง 6 นัด กระสุนได้เข้าที่บริเวณด้านหลัง ส่งผลให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมืองอย่างยิ่ง ภายหลังจากก่อเหตุ นายชอ (นามสมมุตติ) ก็ได้หลบหนีการจับกุมออกจากพื้นที่ภาคใต้ และได้ขาดการติดต่อไปเป็นเวลานาน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม (กก.2 บก.ป.) ไม่ได้ละความพยายามในการติดตามคนร้าย ได้ทำการสืบสวนแกะรอยเรื่อยมา จนกระทั่งพบเบาะแสสำคัญว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมากบดานและใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ทางภาคตะวันออก เป็นเวลาร่วม 10 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว เพื่อเป็นการปิดฉากการหลบหนีอันยาวนาน และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา


>> ททท. ประกาศข่าวดีนักท่องเที่ยวอังกฤษเดินทางเข้าไทย 1 ล้านคนแล้วในปีนี้ ดันตลาดระยะไกลทะลุ 10 ล้านคน สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

09.56 น. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และหน่วยงานพันธมิตรร่วมต้อนรับพร้อมเฉลิมฉลองการเดินทางมาถึงของนักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักรครบ 1 ล้านคนในปี 2568 ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. ให้การต้อนรับ และร่วมมอบของขวัญสุดพิเศษ เพื่อแสดงความยินดีนักท่องเที่ยวคนที่ 1 ล้านจากสหราชอาณาจักร เผยนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกลเดินทางเข้าประเทศไทยทะลุ 10 ล้านคนแล้วในปี 2568 นี้ตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางคุณภาพระดับโลก

ซึ่งแนวโน้มในปี 2569 ตลาดสหราชอาณาจักรยังคงมีปัจจัยสนับสนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากโอกาสทางการบินที่สายการบิน British Airways ได้ประกาศปรับเปลี่ยนตารางบินเส้นทางลอนดอน เกตวิก-กรุงเทพฯ จากการให้บริการเฉพาะฤดูหนาว เป็นให้บริการตลอดทั้งปี (Year-Round) ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2569 เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลให้ปี 2569 มีจำนวนที่นั่งเพิ่มขึ้นเกือบ 60,000 ที่นั่ง นอกจากนี้ สายการบิน Virgin Atlantic Airways ยังได้ประกาศเปิดให้บริการเที่ยวบินตรงเส้นทางลอนดอน ฮีทโธรว์-ภูเก็ต ในช่วงฤดูหนาว ปี 2569-2570 (เดือนตุลาคม–มีนาคม) สัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน ซึ่งจะช่วยเพิ่มทางเลือกในการเดินทางเข้าถึงจุดหมายปลายทางสำคัญของไทย และเสริมศักยภาพการแข่งขันในตลาดสหราชอาณาจักรได้อย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ ททท. ยังดำเนินการประชาสัมพันธ์เชิงรุกร่วมกับสื่อมวลชน อินฟลูเอนเซอร์ และพันธมิตรทั้งในและนอกอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในสหราชอาณาจักร ภายใต้แคมเปญ Healing is the New Luxury เจาะกลุ่มที่สนใจการท่องเที่ยวธรรมชาติ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พร้อมนำเสนอจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ ที่เป็น Hidden Gems ของประเทศไทย เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สำรวจพื้นที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายและได้รับประสบการณ์การเดินทางที่มีความหมายมากยิ่งขึ้น 
 

>> แบงก์ชาติ เตรียมธนบัตร รองรับการเบิกจ่าย 70,000 ลบ. ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569

11.42 น. นางบุษกร ธีระปัญญาชัย ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายโครงสร้างพื้นฐานและบริการระบบการชำระเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วงสิ้นเดือนธันวาคม 2568 ต่อเนื่องถึงเทศกาลปีใหม่ 2569 เป็นช่วงที่ประชาชนมีความต้องการใช้ธนบัตรเพิ่มขึ้นกว่าปกติ จากการจับจ่ายใช้สอย การให้ของขวัญตามประเพณีปีใหม่ และการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งในช่วงดังกล่าว ธนาคารพาณิชย์จะเบิกถอนธนบัตรจากแบงก์ชาติเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของประชาชน จึงคาดว่ามูลค่าเบิกถอนสุทธิจะอยู่ที่ประมาณ 70,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าช่วงเวลาปกติ

โดยแบงก์ชาติได้เตรียมสำรอง ธนบัตรชนิดราคาต่าง ๆ ไว้อย่างเพียงพอกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นแล้ว เพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนจะได้รับบริการที่สะดวกและทั่วถึง


>> กองทัพเรือ ขัดขวางขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติและ Cyber Scam ตามแนวชายแดนจันทบุรีอย่างต่อเนื่อง จับกุมบุคคลต่างด้าว 19 ราย

12.40 น. พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี (กปช.จต.) ได้ดำเนินการเชิงรุกในการป้องกันและขัดขวางขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2568 เวลา 04.30 น. กปช.จต. โดย ฉก.นย.จันทบุรี (ชค.ทพ.นย.2) ร่วมกับกองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 523 (บ้านสวนส้ม) ภายใต้การอำนวยการของ นาวาเอก วีระเชษฐ์ ขยันทำ หัวหน้าชุดควบคุมทางยุทธการ ชค.ทพ.นย.2 และการควบคุมการปฏิบัติของ ร้อยโท ทนงศักดิ์ วงษ์วิลัย ผู้บังคับกองร้อยฯ ได้บูรณาการกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสะตอน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 1 สย.3 และผู้นำท้องถิ่น

ผลการปฏิบัติ สามารถ จับกุมบุคคลต่างด้าวจำนวน 19 ราย ประกอบด้วย สัญชาติจีน 18 ราย และสัญชาติเมียนมา 1 ราย บริเวณไร่แตงโมด้านหลังฐานปฏิบัติการที่ 6 จากการตรวจสอบพบว่า ทั้งหมดไม่มีเอกสารการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยชอบด้วยกฎหมาย จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่ามีความพยายามจะหลบหนีเข้าไปในกัมพูชา โดยมีความเกี่ยวข้องกับขบวนการผิดกฎหมาย Cyber Scam เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สะตอน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ การปฏิบัติภารกิจดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และได้ยึดถือหลักสิทธิมนุษยชน โดยปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 อย่างครบถ้วนในทุกขั้นตอน

กองทัพเรือยืนยัน จะดำเนินการเชิงรุกในการป้องกันและขัดขวางขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติโดยเฉพาะอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (Cyber Scam) ในประเทศกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสกัดกั้นและตัดตอน ไม่ให้ใช้พื้นที่ของประเทศไทยเป็นทางผ่านในการกระทำผิดกฎหมาย อันเป็นภัยต่อความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาคมโลก และจะยังคงบูรณาการความร่วมมือกับทุกหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อปกป้องอธิปไตย รักษาความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยของประชาชน


>> ไฟไหม้ภายในอาคารพาณิชย์ ซอยรามคำแหง 76 รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

13.06 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ซอยรามคำแหง 76 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ประกอบกิจการซ่อม และจำหน่าย ไดนาโม แอร์ หม้อน้ำ และแบตเตอรี่รถยนต์ ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 1 เพลิงลุกไหม้เสียหายแบตเตอรี่รถยนต์ ลุกลามฝาผนังและฝ้าเพดาน พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 4 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่แบตเตอรี่รถยนต์เนื่องจากชาร์จทิ้งไว้ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยหัวหมาก


>> กนง.มีมติลดดอกเบี้ย 0.25% มีผลทันที หลังเศรษฐกิจมีภาวะอ่อนแรง

14.24 น. นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. กล่าวว่า กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 1.50 เป็นร้อยละ 1.25 ต่อปี โดยให้มีผลทันที เนื่องจากเห็นว่า เศรษฐกิจในครึ่งหลังของปีนี้ชะลอลงจากปัจจัยชั่วคราวในภาคการผลิต จำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มระยะใกล้ที่ลดลง

รวมทั้งสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจไปจนถึงช่วงต้นปีหน้า และเห็นสัญญาณเศรษฐกิจไทยในปี 69 และปี 70 มีแนวโน้มอ่อนแรงลง ตามการบริโภคภาคเอกชนที่ชะลอลงตามแนวโน้มรายได้ และภาคส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการทางภาษีของสหรัฐฯ ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวทยอยฟื้นตัว ขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปสงค์มีจำกัดในภาวะที่เศรษฐกิจขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพ ด้านสินเชื่อโดยรวมยังหดตัวและคุณภาพสินเชื่อกลุ่มเปราะบางยังด้อยลง 
โดย SMEs ถูกกดดันด้านสภาพคล่องจากทั้งปัญหาการเข้าถึงสินเชื่อและการแข็งค่าของเงินบาท คณะกรรมการฯ จึงเห็นตรงกันว่านโยบายการเงินสามารถผ่อนคลายเพิ่มเติมได้ เพื่อให้ภาวะการเงินสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และช่วยบรรเทาภาระหนี้ให้กับกลุ่มเปราะบาง รวมถึงช่วยเสริมประสิทธิผลของมาตรการทางการเงินและนโยบายอื่นของภาครัฐ ที่วันนี้นโยบายการคลังกระสุนเหลือจำกัด ท่ามกลางรัฐบาลรักษาการ จึงเห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี ในการประชุมครั้งนี้


>> สตช. ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ก่อนช่วงวันคริสต์มาสและวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2569 พร้อมกันทั่วประเทศ

16.00 น. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนช่วงวันคริสต์มาสและวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2569 ระหว่างวันที่ 17-25 ธันวาคม 2568 รวม 9 วัน โดยกำหนดเป้าหมายผู้กระทำความผิดในเกี่ยวกับอาชญากรรมทั่วไปและความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยมีกองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาค 1-9 ร่วมปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมพร้อมกันทั่วประเทศ สำหรับส่วนกลางจัดโดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1-9 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วม 409 นาย เข้าร่วมพิธี ณ บริเวณหน้าประตู 1 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ แขวงและเขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว,กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, กองบัญชาการตำรวจสันติบาล, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน จัดกำลังร่วมปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันเหตุ และรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนในแต่ละพื้นที่ที่มีการจัดกิจกรรมวันคริสต์มาส และเทศกาลปีใหม่ 2569 และมีผู้เข้าร่วมจำนวนมากด้วย


>> อุบัติเหตุ รถอเนกประสงค์ชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตเป็นหญิงวัย 59 ปี

16.03 น. ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยบูรพา สมาคมพิษณุโลกการกุศลสงเคราะห์ ( ไซทีฮุกตึ๊ง ) จังหวัดพิษณุโลก รับแจ้งมี อุบัติเหตุรถนั่งส่วนบุคคลชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้เสียชีวิต บริเวณถนนบ้านเนินสุวรรณ ในพื้นที่ หมู่ที่ 13 ต.บ้างดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก

ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์อเนกประสงค์ มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีเทา ป้ายทะเบียน ตรัง ลักษณะเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีดำ ป้ายทะเบียน อุตรดิตถ์ ตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย ลักษณะนอนคว่ำหน้าอยู่บริเวณกลางถนน มีกระดูกหักผิดรูปหลายแห่งตามร่างกาย ตรวจสอบเอกสาร เป็นหญิงไทย อายุ 59 ปี ในส่วนของสาเหตุที่อยู่ที่การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชาติตระการ


>> นายกฯ เน้นย้ำความร่วมมือนานาชาติ แก้ปัญหาอาชญากรรมหลอกลวงออนไลน์ ผลักดันหุ้นส่วนโลกสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

18.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานเลี้ยงรับรองอาหารค่ำสำหรับผู้เข้าร่วมการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยหุ้นส่วนระดับโลกเพื่อต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต

นายกฯ ยืนยันความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการต่อต้านการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติและวาระสำคัญสูงสุดของรัฐบาล โดยการเข้าร่วมของผู้แทนจากหลายภูมิภาคทั่วโลกในครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่าอาชญากรรมหลอกลวงออนไลน์ไม่ใช่เพียงปัญหาระดับภูมิภาคอีกต่อไป แต่เป็นปัญหาระดับโลกที่ทุกประเทศต้องเผชิญร่วมกัน พร้อมระบุว่า การประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยหุ้นส่วนระดับโลกเพื่อต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต และ “แถลงการณ์ร่วมกรุงเทพฯ (Bangkok Joint Statement)” ที่จะมีการพิจารณาในวันพรุ่งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือดังกล่าว

นายกฯ เน้นย้ำว่า ถึงเวลาที่ประชาคมโลกจะต้องยกระดับการหารือไปสู่การลงมือปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยประเทศไทยพร้อมทำงานร่วมกับทุกประเทศและทุกภาคส่วน เพื่อเปลี่ยนการหารือในครั้งนี้ให้กลายเป็นความร่วมมือที่ยั่งยืน และนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในการต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตในระดับโลก


>> รถเก๋งเสียหลักพลิกคว่ำชนต้นไม้ไฟลุกไหม้ชาวบ้านผ่านมาพบเห็นช่วยทัน 1 ราย อีกรายถูกไฟคลอกเสียชีวิตในซากรถ จ.ชลบุรี

18.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองใหญ่ ได้รับแจ้งมีเหตุรถเก๋งเสียหลักพลิกคว่ำชนต้นไม้ แล้วมีไฟลุกไหม้ทำ และมีทั้งผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ริมถนนสายบ้านบึง - แกลง ในพื้นที่ ตำบลหนองเสือช้าง อำเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ ฮอนด้า ไม่ทราบรุ่น ป้ายทะเบียน ชลบุรี ลักษณะถูกไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งระดมฉีดน้ำจำนวนหลายคันใช้เวลากว่า 30 นาที จึงสามารถดับไฟเอาไว้ได้ และตรวจสอบภายในรถ พบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย และพบว่ามีผู้บาดเจ็บ 1 ราย เป็นผู้ชาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยและชาวบ้านได้ช่วยออกจากรถได้ทันและนำตัวส่งโรงพยาบาลหนองใหญ่ ไปที่เกิดเหตุพบอุปกรณ์ตี กอล์ฟ และลูกกอล์ฟจำนวนมากตกกระจายเกลื่อนเต็มถนน

ทางด้าน นายจำรอง เจ้าหน้าที่ อส.อ.หนองใหญ่ ที่เลิกงานและกำลังกลับบ้านเปิดเผยว่าตนกำลังเลิกงานกำลังจะกลับบ้านมาถึงที่เกิดเหตุเห็นรถเก๋งคันดังกล่าวเสียหลักพลิกคว่ำแล้วไฟกำลังลุกไหม้ตนจึงได้รีบลงมาจากรถแล้วพยามช่วยคนขับที่เป็นผู้ชายแล้วดึงออกมาจากรถตนจึงได้สอบถามคนเจ็บอยู่ในการมึนงง พูดเพียงแต่ว่ามาคนเดียว จากนั้นจึงได้ช่วยประสานรถดับเพลิงมาฉีดน้ำดับ จนกระทั่งมาพบว่ามีอีกคนที่เสียชีวิตถูกไฟคลอกในซากรถ เพราะเวลานั้นไม่มีใครรู้เลยว่ารถมากี่คนเพราะคนขับ อ้างว่ามาคนเดียว 
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ สอบสวน คนขับ รถเก๋ง เพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้งถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นเพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


>> ป.ป.ส. ลุยตรวจโรงงานระยอง หลังไม่แจ้งข้อมูลส่งออกสารเคมีกลุ่มเสี่ยง พร้อมตรวจยึดป้องกันเข้าสู่กระบวนการผลิตยาเสพติด

18.32 น. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ร่วมกับ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง และหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ ตรวจสอบโรงงานสารเคมี อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ป้องปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำสารเคมีไปใช้ในกระบวนการผลิตยาเสพติด ตามมาตรการควบคุมสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ 
การปฏิบัติการครั้งนี้ ใช้อำนาจตามประมวลกฎหมายยาเสพติด และคำสั่ง คสช.ที่ 32/2559 รวมถึงประกาศกระทรวงยุติธรรม ซึ่งกำหนดให้ผู้ประกอบการต้องแจ้งข้อมูลการนำเข้า-ส่งออก หรือเคลื่อนย้ายสารเคมีกลุ่มเสี่ยง เช่น โซเดียมคาร์บอเนต และแอมโมเนียมคลอไรด์ ต่อ ป.ป.ส. ทุกครั้ง อย่างไรก็ตาม ปี 2567-2568 โรงงานดังกล่าวได้ส่งออกโซเดียมคาร์บอเนตไปยัง สปป.ลาว 4 ครั้ง รวมกว่า 3,000 กิโลกรัม โดยไม่แจ้งข้อมูลให้ ป.ป.ส. ทราบตามระเบียบ

จากการตรวจค้น พบสารเคมีและเคมีภัณฑ์ รวม 1,245 กิโลกรัม ประกอบด้วย คลอรีนน้ำ 420 กิโลกรัม, อะซีโตน 150 กิโลกรัม, บอแร็กซ์ 675 กิโลกรัม ซึ่งสารเคมีดังกล่าวจัดเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 1 และ 3 เป็นสารเคมีจำเป็นในขั้นตอนการฟอก และตกผลึกยาเสพติด ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ไม่พบการขึ้นทะเบียนเป็นวัตถุอันตรายและไม่มีใบอนุญาตครอบครอง จึงตรวจยึดเพื่อสกัดกั้นและป้องกันการกระจายของสารตั้งต้นเหล่านี้เข้าสู่กระบวนการผลิตยาเสพติด 
 

>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา  

03.00 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 3.4 ความลึก 4 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 112 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย 


>> แผ่นดินไหว ที่จังหวัดเชียงราย

04.54 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 1.5 ความลึก 2 กม. บริเวณพื้นที่ของ ต.สันสลี อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ไม่มีรายงานการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน


 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม