กองกำลังบูรพาจับกุม 2 กลุ่มลักลอบเข้าเมือง พบชาวไนจีเรีย-กัมพูชา ข้ามแดนที่สระแก้ว โดยมีชาวกัมพูชาเป็นผู้นำพาเรียกเงินเหยื่อคนละหลายพันบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 กองกำลังบูรพา , หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ , กองร้อยทหารพรานที่ 1204 , กองพันทหารม้าที่ 30 , ฉก.ร.2 พัน 1 ได้ปฏิบัติการลาดตระเวนและจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายได้ถึงสองครั้งในวันเดียว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเข้มงวดในการป้องกันแนวชายแดน

โดยเหตุการณ์ที่ 1 จับชาวไนจีเรียพร้อมผู้นำพาชาวกัมพูชา เมื่อเวลา 15.40 น. กำลังพลจาก ร้อย ทพ.1204 และ ม.พัน 30 ได้ออกลาดตระเวนตามช่องทางธรรมชาติบริเวณบ้านโนนขี้เหล็ก ตำบลผ่านศึก อำเภออรัญประเทศ ขณะลาดตระเวน เจ้าหน้าที่พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยนั่งหลบซ่อนตัวอยู่ในไร่อ้อย ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 90 เมตร จึงเข้าตรวจสอบและพบเป็นชาวต่างชาติรวม 4 คน ซึ่งจากการซักถามทราบว่าเป็น ชายชาวไนจีเรีย 3 คน และ ชายชาวกัมพูชา 1 คน ที่ทำหน้าที่เป็นผู้นำพา โดยผู้นำพารับสารภาพว่าได้รับค่าจ้างยกกระเป๋าสัมภาระใบละ 300 บาท ขณะที่ชาวไนจีเรียให้ข้อมูลว่าต้องการเดินทางไปยังสถานทูตไนจีเรียในประเทศไทย เพื่อขอความช่วยเหลือในการเดินทางกลับประเทศ โดยแต่ละคนต้องจ่ายค่านำพาให้กับขบวนการถึง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 32,000 บาท

ส่วนเหตุการณ์ที่ 2.เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดเดิมได้ร่วมกับ ร.2 พัน 1 รอ. ลาดตระเวนบริเวณบ้านโนนพัฒนา ตำบลผ่านศึก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 620 เมตร และพบกลุ่มบุคคลกำลังเดินเท้าเข้ามาจากแนวชายแดน เมื่อตรวจสอบพบว่าเป็น แรงงานชาวกัมพูชา 13 คน (ชาย 7 คน, หญิง 6 คน) โดยแรงงานทั้งหมดให้การว่าตัดสินใจลักลอบเข้ามาในประเทศไทยเพื่อหางานทำ เนื่องจากประเทศกัมพูชาไม่มีงานให้ทำและไม่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ โดยเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางคนละ 5,000 บาท ซึ่งจะจ่ายเมื่อเดินทางถึงปลายทางตามที่ตกลงไว้เท่านั้น

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ฯ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 กลุ่ม ไปที่กองร้อยทหารพรานที่ 1204 เพื่อดำเนินการสอบสวนและส่งตัวดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย ณ สภ.คลองน้ำใสต่อไป สำหรับการจับกุมในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าขบวนการลักลอบนำพาชาวต่างชาติเข้าประเทศไทยยังมีอยู่และมีรูปแบบที่หลากหลายต่อการลักลอบข้ามชายแดนทางช่องทางธรรมชาติ