วันที่ 14 สิงหาคม 2568 เวลา 17:13 น.
ภายหลังศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษา นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ทั้งหมด 3 ข้อหา คือ ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเล็งเห็นผล จำคุก 15 ปี , พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา จำคุก 10 ปี และ กระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ต้องจำคุก 1 ปี รวมจำคุกทั้งหมด 26 ปี ในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่
โดยได้คุมตัวเข้าเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งอยู่ระหว่างฎีกา โดยได้เข้าแยกกักโรคครบ 5 วันแล้ว จึงจะนำไปคุมขังรวมกับผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ต่อไป และญาติสามารถติดต่อขอเยี่ยมที่เรือนจำได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม
ส่วนวันนี้ (14 สิงหาคม 2568) มีรายงานว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิจารณาการยื่นประกันตัว นายไชย์พล วิภา จำเลยที่ 1 แล้วมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัว และในวันพรุ่งนี้ ทางเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร จะนำตัวจำเลยที่ 1 มาขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูงกว่าที่ขังที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร
ขณะที่ นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 ในฐานะผู้ควบคุมดูแลการดำเนินคดีในชั้นศาลสูง กล่าวว่า คดีนี้ตนได้กำชับ นางสาวนฤมล วิเชียรเเสน อัยการศาลสูงจังหวัดมุกดาหาร ยื่นคัดค้านการประกันตัวนายไชย์พล หรือลุงพล ซึ่งวันนี้ ศาลฎีกาได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรงกระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนักทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนีจึ งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา
7 ธันวาคม 2568
7 ธันวาคม 2568