24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 10 กรกฎาคม 2568
>> รวบชายคลั่ง ยิงชาวบ้านเสียชีวิต 2 รายคาวัดดังย่านภาษีเจริญ พบติดสารเสพติดและมีอาการจิตเวช
06.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุมีชายคลั่งไล่ยิงชาวบ้านภายในวัดแห่งหนึ่ง ในซอยเพชรเกษม 28 ตำรวจไปยังจุดที่ได้รับแจ้ง โดยที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 2 ราย 1 ใน 2 เป็นหญิงชื่อ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 49 ปี เป็นผู้พิการขาและติดเชื้อ HIV และนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 51 ปี โดย น.ส.บี ถูกยิงขณะกำลังนั่งซักผ้าอยู่ภายในบ้านพัก จากนั้นคนร้ายก็เดินออกจากชุมชนวัดโบสถ์ ข้ามสะพานผ่านเข้าไปในวัด ระหว่างทางมาเจอนายเอ (นามสมมุติ) จึงยิงอีก 1 นัด หลังเกิดเหตุตำรวจเข้าเกลี้ยกล่อมและจับกุมตัวได้ภายในบ้านผู้ก่อเหตุ ก่อนจะคุมตัวไปสอบสวนต่อที่ สน.ภาษีเจริญ
ทั้งนี้ จากข้อมูลเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุมีอาการป่วยทางจิตเวช และน่าจะติดยาเสพติดด้วย ก่อนหน้านี้มักมีพฤติกรรมโวยวายใส่ชาวบ้าน และมีอาวุธปืนติดตัว ช่วงหลังๆอาการรุนแรงขึ้น ชาวบ้านหวาดกลัวแต่ไม่กล้าแจ้งตำรวจให้เข้าตรวจสอบ เพราะทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นลูกชายเจ้าของโรงเรียน
พ.ต.อ. โอภาส หาญณรงค์ ผกก. สน.ภาษีเจริญ เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายซี (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี หลังจับกุมยังให้การวกวน พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง ตรวจสอบประวัติพบว่ามีอาการป่วยทางจิตเวช และเมื่อคุมตัวไปสอบปากคำที่ สน.ภาษีเจริญ จึงได้ตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้นพบว่ามีสารเมทแอมเฟตามีนในร่างกาย โดยตรวจค้นพบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนสั้นขนาด 9 มม. และอาวุธปืนอีก 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนมาก ประวัติเดิมเคยถูกดำเนินคดีพยายามฆ่า ในพื้นที่ สน.ภาษีเจริญ เมือปี 2553 และยังเคยถูกดำเนินคดีเสพยาเสพติด ในพื้นที่ สภ.โพธิ์แก้ว เมื่อปี 2555 อีก 1 คดีด้วย
เบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พกพาอาวุธปืนในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติด โดยจะนำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญาธนบุรี พร้อมคัดค้านการประกันตัว ส่วนร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายจะถูกนำส่งชันสูตรอย่างละเอียดที่นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช
>> ไฟไหม้บ้านเรือน ที่พนัสนิคม เพลิงลุกลามหลังข้างเคียงเสียหายวอด
09.43 รับแจ้งเหตุ เพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน หมู่ 8 ต.หนองเหียง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี
ที่เกิดเหตุ ที่จะได้เป็นลักษณะบ้านไม้ 2 ชั้น ปลูกติดกันหลายคูหาเพลิงลุกไหม้เสียหาย 2 หลัง และลุกลามหลังข้างเคียงเสียหายเล็กน้อย ทางเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยรถดับเพลิง เข้าดำเนินการใช้น้ำควบคุมเพลิง ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้และสงบในเวลาต่อมา ขณะเกิดเหตุไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พนัสนิคม
>> วุ่นทั้งโรงพัก อดีต รปภ.เพี้ยน โวยวายขู่ปาระเบิด สภ.บางบัวทอง ก่อนจับตัวนำส่ง รพ. เพื่อรักษาตัว
10.00 น. ที่ สภ.บางบัวทอง ขณะที่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ ได้มีชาย อายุ 60 ปี ชาว ต.เขากวางทอง อ.หนองฉาก จ.อุทัยธานี เข้าเอะอะโวยวายอยู่ด้านในสถานีบริเวณหน้าห้องคุมขัง หลังจากนั้นได้ถอดเสื้อผ้าออก ตามตัวมีรอยสักเต็มตัว เดินเข้ามาโวยวายบอกว่ามีระเบิดจะปาระเบิดให้ตายทั้งหมด พร้อมทั้งส่งเสียงดัง เป็นที่หวาดกลัวของผู้ที่มาติดต่อราชการที่ สภ.บางบัวทอง
จากนั้น นายประทีป ได้เดินออกไปกลางถนน โวยวายพร้อมวิ่งหนีไป จนกระทั่งวิ่งเข้าไปที่ ทำการ อบต.ละหาร ที่อยู่ติดกับ สภ.บางบัวทอง เข้าไปล้างหน้า และปีนรั้วอ้อมทางด้านหน้า อบต. ต่อมา ร.ต.อ.ชัชวาล ท้าวพา รอง สวป.สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นำกำลังสายตรวจ เข้าปิดล้อมเพื่อจับตัวไปสงบสติอารมณ์ แต่ยังโวยวายข้างกำแพงรั้ว จึงนำกำลังเข้าจับกุม ใส่กุญแจมือนำส่งรพ.บางบัวทอง ประเมินก่อนนำส่ง รพ.ศรีธัญญา จ.นนทบุรี เพื่อทำการรักษาตัวต่อไป
สอบถาม ร.ต.อ.ชัชวาล ท้าวพา รองสวป.สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี กล่าวว่า สบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านในพื้นที่ ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง ได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของชายรายนี้ ซึ่งมีอาการอาระวาด เอะอะโวยวายไปทั่ว ควบคุมสติตัวเองไม่ได้ เป็นที่เกรงกลัวของประชาชนในหมู่บ้าน ที่อยู่อาศัย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวมาควบคุมให้ได้สติ และให้เดินทางกลับบ้าน กลับมาอาระวาดอีก วันนี้เป็นหนักเลย คงจะเครียดอะไรสักอย่าง หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ตรวจสารเสพติดก็ไม่พบ จึงได้ควบคุมตัวไว้ ส่ง รพ.บางบัวทอง เพื่อประเมินก่อนทำการรักษา
>> สาววัย 17 ปีขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักชนเสาไฟฟ้า เสียชีวิตริมถนนบางขัน - หนองเสือ
10.19 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ เฉี่ยวชนเสาไฟฟ้า และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บนถนนบางขัน - หนองเสือ ใกล้เคียงโชว์รูมรถยนต์แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีเทา ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะเสียหลักชนเสาไฟฟ้าข้างทาง ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นหญิงไทย อายุ 17 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง
>> สกัดรถขนแรงงานเถื่อน ใช้ไทยเป็นทางผ่าน ไปประเทศมาเลเซีย
10.45 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ( บก.ปคม.) ร่วมกันผู้ต้องหาชายคนไทย 1 ราย ชาวเมียนมา 5 ราย พร้อมยึดรถของกลาง จำนวน 1 คัน และแจ้งข้อหา “ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุมโดยผิดกฎหมาย” ผู้ต้องหาที่ 2 - 6 “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยจับกุมได้ บริเวณริมถนนภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง อ.เมือง จ.ปัตตานี
เมื่อวันที่ 8 ก.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายผ่านเส้นทางถนนภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี โดยใช้รถยนต์ สีดำ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ดักรอบริเวณเส้นทางที่ได้รับแจ้ง จนกระทั่งพบรถยนต์ต้องสงสัย เมื่อผู้ขับขี่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามขับรถหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสกัดรถต้องสงสัยได้ในที่สุด เมื่อตรวจสอบพบว่าภายในรถพบมีผู้โดยสาร 6 คนแสดงอาการพิรุธ เมื่อตรวจสอบเบื้องต้น พบผู้ขับขี่ เป็นชายไทย 1 ราย และอีก 5 ที่นั่งมาในรถ ไม่มีเอกสารแสดงตน หรือหนังสือเดินทางแสดงแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการสอบสวนทราบว่าทั้งหมดเป็นชาวเมียนมา ลักลอบเข้าประเทศผ่านทางช่องทางธรรมชาติบริเวณอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยมีจุดหมายปลายทางคือประเทศมาเลเซีย โดยมีนายหน้าชาวพม่าชื่อ “นายตู” ประสานงานอยู่จากประเทศมาเลเซีย
โดยผู้ขับรถ ให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้าง ให้ขนแรงงานต่างด้าวจากอำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา ไปยังอำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 3,000 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทั้งหมดมาทำบันทึกจับกุมที่ ส.รน.2 กก.7 บก.รน. ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> หนุ่มคลั่งอ้างเป็นหน่วยรบพิเศษ แย่งปืนตำรวจ ลั่นใส่ จนท.เจ็บ 2
11.00 น. เกิดเหตุชายคลั่ง อ้างเป็นหน่วยรบพิเศษ ก่อเหตุแย่งอาวุธปืนเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.สุทธิสาร ยิงใส่ตำรวจบาดเจ็บ 2 นาย เหตุเกิดบริเวณสวนหย่อมคอนโดแห่งหนึ่ง ซอยรัชดาภิเษก 16 กทม.
ที่เกิดเหตุพบตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ ส.ต.ท.วรดร ถิระธนาบูรณ์ ผบ.หมู่ ป. สน.สุทธิสาร และ ส.ต.ท.จิรายุทธ ราชอาจ ผบ.หมู่ ป. สน.สุทธิสาร ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจ ส่วนผู้ก่อเหตุ ชาย อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวสอบสวนต่อที่ สน. สุทธิสาร
ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุ ตำรวจสายตรวจ สน.สุทธิสาร ได้รับแจ้งพบชายกำลังอาละวาดในสวนคอนโด เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบชายดังกล่าว อ้างเป็นหน่วยรบพิเศษ จึงพยายามพูดคุยและขอเชิญตัวไปที่โรงพัก เนื่องจากชายดังกล่าวมีอาการคล้ายมึนเมา แต่ปรากฏว่าชายคนดังกล่าวเข้ามาแย่งอาวุธปืนสายตรวจ ขณะที่ยื้อแย่งปืนเกิดลั่นออกมา 2 นัด ถูกเสื้อเกราะบริเวณหน้าอกซ้ายและไปโดนต้นแขนด้านซ้าย ก่อนจะควบคุมสถานการณ์และควบคุมตัวชายคนดังกล่าว
>> รวบชายเดินขอเงิน คุกคามผู้หญิง บริเวณศาลหลักเมือง จ.ขอนแก่น ตรวจพบเสพสารเสพติด
13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจชุดปฏิบัติการที่ 1 สภ.เมืองขอนแก่น ลงพื้นที่จับกุมชาย อายุ 30 ปี หลังมีผู้ร้องเรียนผ่านโซเชียลว่าทำให้เดือดร้อนรำคาญบริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมืองขอนแก่น เดินป้วนเปี้ยนขอเงินนักท่องเที่ยว โดยเลือกเข้าใกล้เฉพาะผู้หญิง หากไม่ให้เงินจะข่มขู่ ยืนขวางทางรถ หรือแสดงอาการคุกคาม สร้างความหวาดกลัวและทำให้ภาพลักษณ์เมืองขอนแก่นเสียหาย
เมื่อควบคุมตัวมาที่ สถ.เมืองขอนแก่น ได้ทำการตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเสพยาเสพติด และกระทำการคุกคามผู้อื่นจนเกิดความเดือดร้อนรำคาญ ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมกันนี้ สภ.เมืองขอนแก่น ได้เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ศาลหลักเมือง เพื่อความอุ่นใจของประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่มาท่องเที่ยวสถานที่แห่งนี้
>> ม.หอการค้า ประเมิน หยุดยาว 4 วัน เงินสะพัด 6-8 พันล้าน ชี้ 80% คนไทยยังเข้าวัดทำบุญ
15.25 น. นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษาปี 2568 ประเมินจากวันหยุดยาวตั้งแต่ 10-13 ก.ค.2568 จะมีผลต่อการเดินทางเข้าไปทำบุญของประชาชนพร้อมกับการพักผ่อนค้างคืน 1-2 คืน ส่งผลต่อการใช้จ่ายช่วงวันอาสาฬหบูชาต่อถึงวันเข้าพรรษา รวมประมาณ 6,000-8,000 ล้านบาท หรือขยายตัวจากปีก่อนประมาณ 2-3% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการสำรวจล่าสุดในปี 2566 ที่มีการใช้จ่าย 2 วันสำคัญนี้รวม 6,477 ล้านบาท
เชื่อว่าการใช้จ่ายขยายตัว 2-3% เทียบกับการใช้จ่ายการทำบุญในเทศกาลทางศาสนาที่ผ่านมาในปีนี้ อีกทั้งคนไทยกว่า 80% ยังให้ความสำคัญต่อการทำบุญไหว้พระในเทศกาลวันทางศาสนา
ส่วน กรณีกระแสฉาวของพระกับสีกาในขณะนี้นั้น ไม่มีผลกระทบวงกว้างต่อศรัทธาของคนไทยที่จะทำบุญไหว้พระ ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ซึ่งจากการสำรวจการทำบุญไหว้พระของคนไทย พบว่าแยกสาเหตุได้ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ยังศรัทธาต่อการทำบุญก็จะยังทำบุญกับวัดและไหว้พระเหมือนปกติ อีกกลุ่มศรัทธาในธรรมะคำสอนในพุทธศาสนา และกลุ่มยังศรัทธาคำสอนในพระสงฆ์ที่นับถือ โดยไม่มีความเคลือบแคลงใด ๆ ส่วนใหญ่ระบุว่ายังแยกแยะได้ แต่เงินที่จะใช้ทำบุญอาจไม่เท่าเดิม ตามภาวะเศรษฐกิจของตนและครอบครัวที่ไม่ดีเหมือนในอดีต มากกว่าสาเหตุอื่น ๆ ที่จะไม่ทำบุญหรือเดินทางเข้าวัด
>> ตำรวจไซเบอร์ เตรียมเอาผิด “สมเด็จฮุนเซน” กรณีคลิปเสียงคุย “นายกฯ" ลั่นเป็นภัยต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
15.36 น. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก สอท1 เปิดเผยความคืบหน้ากรณี นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เข้าแจ้งความต่อ บช.สอท. เพื่อดำเนินคดีกับ สมเด็จฮุน เซน ผู้นำกัมพูชา หลังมีการเผยแพร่คลิปเสียงการสนทนา ความยาว 17.6 วินาที ระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย กับ สมเด็จฮุน เซน ซึ่งมีเนื้อหาถูกตีความว่าสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชนชาวไทย
โดย พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ในวันที่ 14 ก.ค. นี้ พนักงานสอบสวนตำรวจไซเบอร์ จะเสนอเรื่องไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อพิจารณาดำเนินคดีกับ สมเด็จ ฮุนเซน เนื่องจากเป็นความผิดนอกราชอาณาจักร ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ว่าด้วยการกระทำอันเป็นภัยต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ทั้งนี้ ขณะนี้ยังมีผู้ถูกดำเนินคดีเพียงคนเดียว โดยจะมีการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่และแชร์คลิปเสียงดังกล่าวต่อไป
>> รวบหนุ่มเดือด ถูกหาว่าค้ายา โมโหชักปืน ยิงหัวคู่อริเสียชีวิต
17.02 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันจับกุม ชาย อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนราธิวาส ฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” โดยจับกุได้บริเวณหน้าคอนโดแห่งหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ เมื่อ ผู้ก่อเหตุ ได้ใช้อาวุธปืนพกขนาด 11 มม. ยิงใส่ศีรษะชายรายหนึ่ง จำนวน 6 นัด ขณะนั่งดื่มน้ำชาอยู่ที่ร้านแห่งหนึ่งใน อ.ระแงะ จ.นราธิวาส สาเหตุมาจากการที่ผู้เสียชีวิต กล่าวหาว่าผู้ก่อเหตุมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด ทำให้ผู้ก่อเหตุเกิดความโกรธแค้นจนขาดสติ ชักอาวุธยิงอย่างโหดเหี้ยมจนเสียชีวิตทันที หลังจากก่อเหตุได้หลบหนีข้ามแดนไปยังประเทศมาเลเซีย พร้อมขายอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุให้กับบุคคลในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน
ทั้งนี้หลังหลบหนีกว่า7เดือน ผู้ก่อเหตุตัดสินใจลักลอบกลับเข้ามาประเทศไทย ผ่านช่องทางธรรมชาติ จนมาถูกตำรวจจับกุมได้ในที่สุด
>> "ในหลวง-พระราชินี" เสด็จฯ ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล เนื่องในวันอาสาฬหบูชา
17.24 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล เนื่องในวันอาสาฬหบูชา พุทธศักราช ๒๕๖๘ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง เสด็จเข้าพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนพรรษาในตู้ด้านพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ และด้านพระพุทธเลิศหล้านภาไลย จากนั้น ทรงถวายพุ่มเทียน ธูปเทียนแพ ต้นไม้ทอง ต้นไม้เงิน และทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ และพระพุทธเลิศหล้านภาไลย เสร็จแล้ว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่ที่หน้าธรรมาสน์ศิลา ทรงกราบ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศ ทรงกราบ จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลอากาศโท ภักดี แสง-ชูโต รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองพระราชพิธี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเทียนชนวน ทรงจุดเทียนชนวนจากโคมไฟฟ้า แล้วพระราชทานแก่รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองพระราชพิธี เพื่อเชิญไปรักษาไว้สำหรับถวายเจ้าอาวาสพระอารามหลวงต่าง ๆ นำไปจุดเทียนพรรษาที่ได้ทรงพระราชอุทิศไว้แล้ว
ต่อจากนั้น ทรงประเคนพุ่มเทียนแด่ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ พระเปรียญธรรม ๙ ประโยค และพระภิกษุนาคหลวง จำนวน ๑๙ รูป เสร็จแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี พระราชวงศ์ องคมนตรี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทรงประเคนและประเคนพุ่มเทียน จนครบ ๒๘๙ รูป จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกจากพระอุโบสถ เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ
>> หนุ่มคุยโทรศัพท์ เดินข้ามถนนไม่มองรถ ถูกรถ 6 ล้อชนร่างกระเด็นเจ็บสาหัส จ.ชลบุรี
17.06 น. ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ชนคนเดินเท้า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บนถนนหลวงแผ่นดินหมายเลข 331 สัตหีบ-เขาหินซ้อน ฝั่งขาเข้าบ่อวิน ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัคนกู้ภัยฯรีบไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุก 6 ล้อ บรรทุกนั่งร้านเต็มคันรถ มีนายออ (นามสมมุติ) อายุ 41 ปี เป็นคนขับ จอดรอให้การกับเจ้าหน้าที่ บนพื้นถนนพบร่าง ชายไทย อายุ 42 ปี ชาวจังหวัดนครราชสีมา ได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนจมกองเลือด หลังถูกรถยนต์หกล้อชนขณะเดินข้ามถนน เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
สอบถาม คนขับรถ 6 ล้อ ให้ข้อมูลว่าตนเองขับรถบรรทุกนั่งร้านไปส่งที่ศรีราชา จังหวะนั้นผู้บาดเจ็บเดินคุยโทรศัพท์ ข้ามถนนตัดหน้ารถ ตนเองพยายามบีบแตรเตือน พร้อมเหยียบเบรก แต่ไม่ทันจริงจึงชนเข้าอย่างจังหลังเกิดเหตุ จึงรีบแจ้งเจ้าฟน้าที่เข้าช่วยเหลือดังกล่าว
ขณะที่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ ขณะที่ผู้บาดเจ็บนั้น เดินคุยโทรศัพท์ข้ามถนนโดยไม่มองทาง ตัดหน้ารถยนต์เอสยูวีในเลนซ้ายสุด ก่อนจะข้ามไปตัดหน้าหกล้อในเลนขวาจนถูกชนเข้าในที่สุด
>> รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกันกลางถนนเลียบคลองขุนศรี และมีผู้เสียชีวิต เป็นหนุ่มชาวเมียนมา
22.30 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ 2 คันชนกัน มีผู้บาดเจ็บสาหัส บนถนนเลียบคลองขุนศรี ใกล้เคียงทางเข้าวัดปลายคลองขุนศรี ในพื้นที่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี
รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีขาว - แดง ป้ายทะเบียน สมุทรสาคร ลักษณะชนกับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีดำ ป้ายทะเบียน ราชบุรี ตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นผู้ชาย 2 ราย โดยรายแรกอาสานำส่ง รพ.ไทรน้อย ส่วนรายที่สอง ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา เป็นผู้ชาย อายุ 30 ปี ชาวสัญชาติเมียนมา ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไทรน้อย
>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา
04.06 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่าเกิดเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 3.1 ลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 236 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ