หน้าแรก > อาชญากรรม

รวบ 2 ผู้บริหาร แห่งอาณาจักรร้านทอง ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร เสียหายกว่า 500 ล้านบาท

วันที่ 27 มิถุนายน 2568 เวลา 23:52 น.


รวบ 2 ผู้บริหาร แห่งอาณาจักรร้านทอง ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร เสียหายกว่า 500 ล้านบาท

กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) โดย พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. พร้อม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.4 บก.ปอศ. , กก.1 บก.ปคบ. , กก.1 บก.ป., กก.3 บก.ป และ กก.5 บก.ป. ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา (ตามหมายจับ)

​​1. นายพัน (นามสมมุติ) อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 24 มิ.ย.68

​​2. นายพล (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 24 มิ.ย.68

ฐานความผิด “ร่วมกันยักยอก, ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน”

สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือน มีนาคม 2568 ได้มีกลุ่มผู้เสียหายรวม 69 ราย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ บริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งเปิดในลักษณะร้านทอง หลังซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร โดยบริษัทแห่งนี้ ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับซื้อขายแลกเปลี่ยนทองคำผ่านหน้าร้านและผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งมีรูปแบบการประกอบธุรกิจ คือ เทรดทองคำแท่งผ่านแอพพลิเคชัน และเว็บไซต์ชื่อเดียวกับชื่อร้านทอง, รับซื้อ-ขายทองคำและรับหลอมทองคำ มีการชักชวนประชาชนทั่วไปให้สมัครสมาชิก เทรด ซื้อ ขาย และนำทองคำมาหลอมกับบริษัทฯ

โดยเสนอรับซื้อ-ขาย ในราคาที่ดีกว่า ราคาทองคำที่สมาคมทองคำกำหนด คิดค่าหลอมต่ำกว่าผู้ประกอบการรายอื่น ซึ่งในช่วงต้นปี 2568 บริษัทฯ เริ่มมีการผัดผ่อนการชำระเงิน และการส่งมอบทองคำ เมื่อทวงถามก็บ่ายเบี่ยง ต่อมาเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2568 ได้ประกาศระงับการให้บริการ โดยปิดทั้งช่องทางหน้าร้าน และหยุดการให้บริการทั้งหมด ทำให้มีกลุ่มลูกค้าได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น
กว่า 500 ล้านบาท

ต่อมาวันที่ 25 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ., กก.1 บก.ปคบ., กก.1 บก.ป., กก.3 บก.ป และ กก.5บก.ป. ได้นำหมายค้น เข้าตรวจค้นจำนวน 3 จุด พื้นที่ กรุงเทพมหานคร, จ.นครราชสีมา, จ.ราชบุรี จนนำไปสู่การจับกุมตัว นายพัน และนายพล พร้อมตรวจยึดพยานหลักฐาน เป็นคอมพิวเตอร์ จำนวน 22 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง, แท็บเล็ต จำนวน 2 เครื่อง, โน้ตบุ๊ค จำนวน 8 เครื่อง, โทเคนธนาคาร จำนวน 9 ชิ้น, สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 2 เล่ม, ฮาร์ดดิสก์เก็บข้อมูล SSD จำนวน 1 อันพยานเอกสาร จำนวน 14 ลัง นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการอายัดบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้อง จำนวน 21 บัญชี คิดเป็นยอดเงินรวม กว่า 54 ล้านบาท เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

 

ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ