วันที่ 24 มิถุนายน 2568 เวลา 13:48 น.
วันนี้ (24 มิ.ย. 68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า จากสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ความขัดแย้งในอิสราเอล - อิหร่าน มีการขยายวงกว้างออกไป ส่งผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจการเมืองและสังคม อีกทั้งยังไม่มีกรอบระยะเวลาที่แน่นอนว่าจะจบลงเมื่อไร ซึ่งก็จะส่งผลต่อการเจรจาของหลายประเทศ โดยเฉพาะนโยบายการขึ้นกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ตอนแรกที่กำหนดระยะเวลาไว้ 90 วัน ที่จะเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ที่ขณะนี้ฝ่ายไทยเริ่มเจรจาไปแล้ว 1 รอบ กับคณะทำงานของ USTR และกระทรวงการคลังจะมีการแถลงรายละเอียด
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าว ย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย ทั้งปริมาณ และราคาพลังงาน การเงิน การคมนาคม การท่องเที่ยว ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน รวมถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จึงสั่งการให้คณะรัฐมนตรีทุกท่าน ร่วมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมหามาตรการรองรับเพื่อให้กระทบกระเทือนพี่น้องประชาชนน้อยที่สุด พร้อมยืนยันอีกครั้งว่าสถานการณ์เช่นนี้เสถียรภาพของรัฐบาลสำคัญมาก และความสามัคคีของคนในประเทศสำคัญมาก
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ตนเองมีการขอให้รัฐมนตรีทุกท่านทำงานใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนมากยิ่งขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจ และแก้ไขปัญหาอย่างทันการ และรัฐบาลให้ความสำคัญด้านภัยคุกคามของความมั่นคงของชาติ โดยเฉพาะอาชญากรรมข้ามประเทศ ตามรายงานของ UNODC ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ได้สั่งการทุกฝ่ายพร้อมทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายในการตอบโต้การเปิดปิดด่านชายแดนเพื่อที่จะหวังผลทางการเมือง แต่คำนึงถึงผลกระทบของพี่น้องประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ โดยได้เตรียมมาตรการต่างๆ ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในบริเวณชายแดนอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสินค้าเกษตร ได้สั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ว่าจะสามารถทำอย่างไรได้บ้าง ซึ่งมีมาตรการรองรับอยู่แล้ว จากทั้งภาครัฐ และเอกชน แต่จะย้ำอีกทีว่าสิ่งที่มารายงานนั้น ถึงพี่น้องประชาชนจริงหรือไม่ ก็ไม่อยากให้เกิดผลกระทบ
ส่วนด้านความมั่นคงและพลังงาน กระทรวงพลังงานกำหนดมาตรการรับมือพลังงานสำรอง และมาตรการช่วยเหลือประชาชนหากมีภาวะขาดแคลน หรือราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นก็ให้หามาตรการมารองรับไว้
ส่วนปัญหาด้านเศรษฐกิจการเงิน และการแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชน ให้กระทรวงการคลังกำหนดมาตรการ และเป้าหมายที่ชัดเจน ที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และภาคธุรกิจในทุกระดับโดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้าของประเทศ
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงราคาพืชผลเกษตร ได้ให้กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หามาตรการแก้ไขโดยด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาข้าว ที่ต้องเร่งสนับสนุน และกำหนดมาตรการเยียวยาเกษตรกร ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ทั้งนี้ ยังมีเรื่องการลักลอบนำเข้าสินค้าเถื่อน จากประเทศเพื่อนบ้านที่จะส่งผลกระทบให้ราคาพืชผลเกษตรของไทยเกิดราคาตกต่ำ ซึ่งจะต้องทำเรื่องนี้ให้ชัดเจน
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหายาเสพติด ได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหม ให้มีการทำงานระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บัญชาการตำรวจทุกจังหวัด กำหนดมาตรการที่เป็นรูปธรรมและเป้าหมายที่ชัดเจน ขยายผลต่อเนื่องจากมาตรการ Seal Stop Safe ที่เริ่มทำกันมาแล้ว
ส่วนปัญหาการท่องเที่ยว ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เร่งปรับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งในประเทศ และต่างประเทศ พร้อมที่จะเน้นย้ำมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่
ส่วนค่าแรงขั้นต่ำให้กระทรวงแรงงานเร่งนำมาตรการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเข้าพิจารณาเร่งด่วน เพื่อให้ทันในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้
26 กรกฎาคม 2568
26 กรกฎาคม 2568
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ