หน้าแรก > สังคม

ผบ.ตร. ชี้ความสง่างามแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ไม่เกี่ยวมติแพทยสภา ส่วนจะมีผลเลื่อนเป็นรอง ผบ.ตร. อยู่ระหว่างพิจารณาข้อกฎหมาย

วันที่ 23 มิถุนายน 2568 เวลา 15:18 น.


ผบ.ตร. ชี้ความสง่างามแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ไม่เกี่ยวมติแพทยสภา ส่วนจะมีผลเลื่อนเป็นรอง ผบ.ตร. อยู่ระหว่างพิจารณาข้อกฎหมาย

วันนี้ (23 มิ.ย.68) พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่แพทยสภามีมติลงโทษ 2 นายแพทย์โรงพยาบาลตำรวจที่มีความเกี่ยวข้องกับการรักษาตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ได้สั่งการให้จเรตำรวจแห่งชาติดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ทั้งนี้ ยืนยันว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่ได้รับรายละเอียดมติลงโทษใดๆจากแพทยสภา ซึ่งต้องทำความเข้าใจว่ากรณีนี้บุคคลที่เกี่ยวข้องมี 2 บทบาท คือ เป็นหมอและเป็นตำรวจ ในเวลาเดียวกัน

ในส่วนบทบาทของหมอผู้รักษาคนไข้ได้มีการสั่งให้หยุดปฏิบัติแล้ว แต่ บทบาทการเป็นตำรวจคณะกรรมการชุดที่ตรวจสอบต้องใช้พรบ.ตำรวจแห่งชาติ กฎ ก.ตร. มาดำเนินการไปตามขั้นตอน

ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นกับ 2 นายแพทย์จะมีการทำผิดวินัยตำรวจข้อใดบ้าง จากนี้จะมีการพิจารณาอย่างละเอียด รอบคอบ ยืนยันว่าตำรวจเองก็ต้องนำเรื่องจริยธรรมตำรวจมาพิจารณาร่วมด้วย ส่วนที่พบว่ามีความผิดทางวิชาชีพแพทย์ จะตรงกับการผิดจริยธรรมในส่วนของการรับข้าราชการตำรวจด้วยหรือไม่ก็จะต้องตรวจสอบต่อไป

"ผมจะทำอะไรลูกน้องก็ต้องมีความ เป็นธรรม เป็นกลางก็ต้องว่าไปตามกฎหมายและคำสั่ง" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ

ผบ.ตร. ยืนยันว่า การถูกระงับใบวิชาชีพทางการแพทย์เป็นคนละเรื่องการเป็นแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ส่วนจะมีความสง่างามหรือไม่ การเป็นแพทย์ใหญ่คือเป็นตามหน้าที่ของ พรบ.ตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจากนี้ต้องพิจารณาเรื่องวินัยตำรวจ แต่การถูกระงับวิชาชีพทางการแพทย์คือการผิดในเรื่องการให้บริการการรักษา

สำหรับรายชื่อ 2 นายแพทย์ซึ่ง 1 ในนั้นคือ พลตำรวจโท โสภณรัชต์ สิงหจารุ มีลำดับอาวุโสที่จะขึ้นเป็นรองผบ.ตร. จะมีผลในการพิจารณาแต่งตั้งวาระเดือนตุลาคมนี้หรือไม่ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ ระบุว่า ต้องมีการพิจารณาหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการเข้าสู่ตำแหน่งซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณา

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม