วันที่ 20 มิถุนายน 2568 เวลา 22:40 น.
รวบผู้ต้องหาเปิดบ่อดินผิดกฎหมาย ลักลอบขุดดิน นานกว่า 20 ปี
กองบังคับการปราบปราม โดย พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. พร้อมกำลังชุดจับกุม กก.4 บก.ป. ร่วมกันจับกุม
1.นายรัน (นามสมมุติ) อายุ 70 ปี เจ้าของบ่อขุดดิน/ผู้ว่าจ้าง/นายจ้างของผู้ถูกจับกุมที่ 1
2.นายผัน (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี พบนั่งโดยสารมากับรถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งมีผู้ต้องหาที่ 1 เป็นผู้ขับขี่
3.นายพัน (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี พบนั่งโดยสารมากับรถยนต์ส่วน ซึ่งมีผู้ต้องหาที่ 1 เป็นผู้ขับขี่
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน พระราชบัญญัติขุดดินถมดิน พ.ศ.2543 ฐาน
- ร่วมกันทำการขุดดินโดยมีความลึกจากระดับพื้นดินเกินสามเมตรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
-ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นเรื่องให้หยุดทำการขุดดิน ตามมาตรา 29 วรรคสอง หรือมาตรา 31 วรรคหนึ่ง” พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2562 ฐาน
-ร่วมกัน ตั้งโรงงานจำพวกที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
-ร่วมกันประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่สามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”
พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2550
-ร่วมกัน ประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต
แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับ นายอารีย์ฯ ผู้ต้องหาที่ 1 กระทำความผิด
ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2499 ฐาน
-ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่
- รู้ว่าคนต่างด้าวผู้ใดเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ ให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือคนต่างด้าวที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
-รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน
โดยแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 กระทำความผิด พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ฐาน
-เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต (ไม่มีหนังสือเดินทาง
พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฐาน เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน
แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 3 กระทำความผิด พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฐาน เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานภายหลังการจับกุม
ของกลางที่ตรวจยึดได้ ประกอบด้วย:
1. รถแบคโฮ จำนวน 2 คัน
2. รถบรรทุกดิน จำนวน 3 คัน
3. เอกสารการรับส่งดิน ใบสั่งงาน บัญชีรายชื่อพนักงาน
4. กล้องวงจรปิด พร้อม DVR บันทึกภาพ
5. รถยนต์กระบะสีขาว
แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา 2 ราย ไม่มีเอกสารอนุญาตทำงาน
สถานที่จับกุม บริเวณบริเวณโฉนดที่ดินไม่ทราบเลขที่ ท้องบ้านกอสะเลียม หมู่ที่ 8 ตำบลบวกค้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
สืบเนื่องจากเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามเดินทางถึงบริเวณเป้าหมาย ได้พบรถยนต์กระบะสีขาว ขับมาจอดบริเวณหน้าบ่อดิน และมีชายไทยรูปร่างคล้ายตามที่ได้รับข้อมูลการข่าวลงจากรถ ตรวจสอบพบว่าเป็นนายรัน (นามสมมุติ) เจ้าของกิจการบ่อดินดังกล่าว จากการตรวจสอบภายในรถยนต์คันเดียวกัน พบคนต่างด้าวชายจำนวน 2 ราย เป็นชาวเมียนมา ไม่มีเอกสารอนุญาตให้ทำงานในราชอาณาจักร อีกทั้งยังไม่มีเอกสารหนังสือเดินทางหรือบัตรอนุญาตอยู่ในประเทศไทยอย่างถูกต้อง นายรัน (นามสมมุติ) อ้างว่า ทั้งสองเพิ่งเดินทางมาสมัครงาน ยังไม่ได้เริ่มทำงานแต่อย่างใด
ระหว่างการปฏิบัติการตรวจค้น คนงานในพื้นที่ได้ไหวตัวทันและพยายามขัดขวางเจ้าหน้าที่โดยนำรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถกระบะไปปิดกั้นทางเข้าออกทั้ง 3 ด้านของบ่อดิน เพื่อเปิดทางให้คนงานหลบหนีทางด้านหลัง ส่งผลให้มีคนงานหลบหนีไปได้ 5 คน ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กองปราบปรามได้บันทึกภาพจากมุมสูงขณะที่รถแบคโฮกำลังตักดินใส่รถบรรทุก รวมถึงภาพเหตุการณ์ที่คนงานพยายามขัดขวางการตรวจค้นไว้เป็นหลักฐาน
จากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบว่ามีการประกอบกิจการขุดดินอย่างเป็นระบบ มีรถแบคโฮทำงานภายในบ่อจำนวน 2 คัน รถบรรทุกดินรอขนถ่ายอีก 3 คัน จุดตั้งกล้องวงจรปิดพร้อมเครื่องบันทึก DVR ป้อมเสมียนบันทึกคิวรถเข้าออก บัญชีรายชื่อพนักงาน และเอกสารแสดงรายการการขนส่งดิน แสดงให้เห็นถึงการดำเนินกิจการอย่างเป็นระบบต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งสิทธิแจ้งข้อกล่าวหาข้างต้น นำตัวนายอารีย์ พร้อมแรงงานต่างด้าว และของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสันกำแพง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ซึ่งนายรัน (นามสมมุติ) ได้ลักลอบเปิดบ่อดินผิดกฎหมายในพื้นที่บ้านกอสะเลียม หมู่ 8
หมู่ 11 ต.บวกค้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ มาอย่างต่อเนื่องกว่า 20 ปี โดยไม่มีใบอนุญาตและฝ่าฝืนผังเมืองรวมเชียงใหม่ ซึ่งระบุว่าเป็นพื้นที่สีเขียว ห้ามขุดดินโดยเด็ดขาด
ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี นายรัน (นามสมมุติ) เคยถูกจับกุมมาแล้ว 4 ครั้ง แต่คดี ไม่เคยถึงชั้นศาล เนื่องจากอัยการมีคำสั่งให้เปรียบเปรียบเทียบปรับ กับอุตสาหกรรม และเทศบาลเท่านั้น ทำให้ผู้ต้องหาไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ยังคงดำเนินกิจการอย่างท้าทายเจ้าหน้าที่รัฐ และก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างรุนแรง ทั้งเสียง ฝุ่น ถนนพัง และความเสื่อมโทรมของพื้นที่ชุมชน และอุบัติเหตุจากรถบรรทุก เข้าออก ดินตกหล่นถนนเลื่อนประชาชนบาดเจ็บมาแล้วหลายราย กระทบน้ำบาดาล แม่น้ำคลองสาธารณะเปลี่ยนสาย บ้านเรือนประชาชนชำรุด ดินทรุด ชาวบ้านระบุว่า นายรัน (นามสมมุติ) อ้างตัวว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกับอดีตอัยการคดีดังและมีความเชื่อมโยงกับอดีตตำรวจระดับประเทศที่เคยเป็นข่าวดังในคดีอุ้มฆ่า ชาวบ้านเชื่อและเกรงกลัวและคดีไม่ถึงชั้นศาล จึงเชื่อและเข้าใจว่าเป็นผู้มีอิทธิพลคนใหญ่โตจริง
26 กรกฎาคม 2568
26 กรกฎาคม 2568
26 กรกฎาคม 2568
26 กรกฎาคม 2568
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ