รวบคู่รักแก๊งค้ายา ยึดของกลางอื้อ  ยาบ้า 5.7 แสนเม็ด -ไอซ์ 28 กก. พบประวัติหนีหมายจับคดีปล้นทรัพย์ฯ

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568 ตำรวจ ไปจับกุมตัว สองสามีภรรยา พร้อมด้วยของกลาง ยาไอซ์ น้ำหนักรวม ประมาณ 28 กิโลกรัม, ยาบ้า จำนวนรวม ประมาณ 571,833 เม็ด, ยาไฟว์ ไฟว์ จำนวน 2,000 เม็ด, รถยนต์ 1 คัน, อาวุธปืน ขนาด 11 มม. พร้อมเครื่องกระสุนปืน จำนวน 15 นัด และ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่ทาวน์เฮ้าส์แห่งหนึ่ง ย่านลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด ได้รับแจ้งว่ามีชายไทยไม่ทราบชื่อ ใช้รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ไม่ทราบทะเบียน ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้าทั่วไป จากการสืบสวนจนทราบว่า ชายดังกล่าว จะนำยาเสพติดมาเก็บรักษาไว้ที่บ้านทาวน์เฮ้าส์ ย่านลาดหลุมแก้ว ต่อมาเจ้าหน้าที่ทราบว่าจะมีการไปรับยาเสพติดจำนวนมากเพื่อนำมาเก็บรักษาไว้ที่บ้านพักหลังดังกล่าว จึงได้เรียนให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนนำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ที่บ้านพักหลังดังกล่าว จนกระทั่งเวลากลางคืน พบรถยนต์ต้องสงสัย โดยมี นายภูมิ เป็นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว และนางสาวหวานเป็นคนนั่งข้างคนขับ ได้ขับรถมาจอดภายในบ้านหลังเกิดเหตุ จากนั้น นายภูมิ ได้ยกถุงสีดำหลายใบที่อยู่ภายในรถคันดังกล่าวเข้าไปในบ้าน โดยนางสาวหวาน ยืนอยู่ซึ่งเชื่อว่าสิ่งของที่อยู่ภายในถุงดำนั้นเป็นยาเสพติด จึงวางแผนเข้าจับกุมตัวนายภูมิ ขณะเดินออกมาบริเวณหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่จึงตรวจค้น พบยาบ้า จำนวนหนึ่งอยู่ภายในกระเป๋ากางเกงตัว จากการสอบถาม ให้การรับว่าภายในบ้าน ฯ มียาเสพติดเก็บซุกซ่อนไว้ พร้อมพาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในบ้าน

จากการตรวจค้นพบยาเสพติดของกลางดังกล่าว รวมมูลค่ากว่า 26 ล้านบาท ภายในรถคันดังกล่าวพบอาวุธปืนขนาด 11 มม. และเครื่องกระสุนปืน อยู่ภายในรถคันดังกล่าว จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายภูมิ มีหมายจับคดีร่วมกันปล้นทรัพย์ ของศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 1 หมาย

เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหา  "ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์,ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน)โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป, ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (ยาไฟว์ 028 ) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และนายเตชิน ถูกแจ้งเพิ่มเติมในข้อหา "มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและโดยไม่มีเหตุสมควร, ร่วมกันปล้นทรัพย์ และใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือเพื่อการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ตามหมายจับของศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา จึงนำตัวพร้อมด้วยของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี และขยายผลรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับเครือข่ายทั้งหมด มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป