หน้าแรก > อาชญากรรม

ตร.ไซเบอร์ รวบเครือข่าย หลอกร้านรับเหมา โอนเงินมัดจำ อายัดทัน 2 แสน นำคืนผู้เสียหาย

วันที่ 9 มิถุนายน 2568 เวลา 12:24 น.


“MONEY CASH BACK ปิดบัญชีตามล่าม้า คว้าเงินคืน EP.9” ตำรวจไซเบอร์รวบเครือข่ายหลอกร้านรับเหมา โอนเงินมัดจำ อายัดทัน 2 แสน นำคืนผู้เสียหาย

วันจันทร์ที่ 9 มิ.ย.68 เวลา 11.00 น. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.3 และ พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.ตอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว “MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้าคว้าเงินคืน EP.9” ตำรวจไซเบอร์รวบเครือข่ายหลอกร้านรับเหมาโอนเงินมัดจำ ตามอายัดทันทั้ง 2 แสน นำคืนผู้เสียหาย

โดยก่อนหน้านี้ สามารถจับกุมเครือข่ายบัญชีม้าของขบวนการหลอกลวงออนไลน์ และสามารถติดตามนำคืนให้แก่ผู้เสียหายตามขั้นตอนในโครงการ “Money Cash Back” ไปแล้วหลายครั้ง รวมจำนวนเงินกว่า 7 ล้านบาท ล่าสุดมีผู้เสียหายวัย 39 ปี เป็นเจ้าของกิจการรับเหมาติดตั้งรางน้ำฝนและงานสแตนเลสทั่วไปอยู่ในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยผู้เสียหายได้ลงข้อมูลเกี่ยวกับการรับเหมาติดตั้งรางน้ำ ในเว็บไซต์

กระทั่งวันที่ 25 ก.พ.68 ได้มีคนร้ายโทรศัพท์หาผู้เสียหายและแอดไลน์สอบถามผู้เสียหาย โดยคนร้ายต้องการให้ผู้เสียหายสั่งผลิตโต๊ะสแตนเลส จากร้านสแตนเลสร้านหนึ่งให้ พร้อมกับแจ้งเบอร์โทรศัพท์ของร้านดังกล่าวมาให้ โดยคนร้ายอ้างว่า เหตุผลที่ไม่สั่งผลิตเองโดยตรง เนื่องจากหัวหน้าของคนร้ายมีปัญหากับร้านดังกล่าว จึงจำเป็นต้องให้ผู้เสียหายสั่งผลิตให้ โดยให้ผู้เสียหายบวกกำไรเพิ่มจากราคาที่สั่ง โดยทางผู้เสียหายได้โทรติดต่อร้านดังกล่าว เพื่อสั่งทำโต๊ะ จำนวน 47 ตัว รวมเป็นเงิน 705,000 บาท ซึ่งต่อมาร้านสแตนเลส ที่มีการสั่งทำโต๊ะ ได้ให้ผู้เสียหายโอนเงินมัดจำ จำนวน 200,000 บาท ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินจำนวนดังกล่าวไป

กระทั่ง 2 วันต่อมา ในวันที่ 27 ก.พ. 68 ร้านสแตนเลสที่ผู้เสียหายโอนเงินมัดจำไป ติดต่อมาเพื่อต้องการให้ผู้เสียหายโอนเงินเพิ่ม แต่ผู้เสียหายเริ่มแปลกใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวจึงไม่ได้โอนเงินให้ ผู้เสียหายจึงได้ทวงเงินค่าสินค้ากับไลน์ของคนร้าย แต่กลับได้รับการบ่ายเบี่ยง จึงรู้ตัวว่าโดนหลอกลวงและเข้าแจ้งความในที่สุด

จากกรณีดังกล่าว พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในขบวนการ จนสามารถออกหมายจับได้แล้วหลายราย และจับกุมชาย1 ราย อายุ 61 ปี หนึ่งในขบวนการได้สำเร็จ โดยควบคุมตัวได้ที่บ้านพักในพื้นที่ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา และแจ้งข้อหา "ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง"

จากกรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถประสานงานธนาคารเพื่ออายัดเงินในบัญชีธนาคารของชายคนดังกล่าวไว้ได้ เป็นจำนวน 200,000 บาท เบื้องต้น เจ้าตัวให้การภาคเสธว่า เพื่อนของหลานสาวตนเคยจะทำสัญญาเงินกู้ให้ โดยได้ขอบัตรประชาชนของตนเองไปถ่ายสำเนา และให้ตนเองแสกนใบหน้าผ่านมือถือ จากนั้นได้คืนบัตรประชาชนกลับมาให้ตนเอง แต่ตนเองก็ไม่เคยได้รับเงินที่บอกว่าจะกู้ให้แต่อย่างใด จึงเชื่อว่าเพื่อนของหลานสาวน่าจะเอาไปเปิดบัญชีธนาคารแล้วเอาไปใช้ในการกระทำผิดกฎหมาย โดยตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินที่อายัดไว้ จึงขอไม่โต้แย้งในกรรมสิทธิ์และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมอบเงินในบัญชีตามจำนวนดังกล่าวคืนให้แก่ผู้เสียหาย ส่วนผู้ต้องหารายอื่นอยู่ระหว่างสืบสวนจับกุม

วันนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดติดตามคดี จึงได้ร่วมกันนำเงินจำนวน 200,000 บาท มอบคืนให้แก่ผู้เสียหาย ตามโครงการ “MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้าคว้าเงินคืน
 

ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ