หน้าแรก > สังคม

“ตู้ห่วงใย” ขยายให้บริการแล้ว 10 พื้นที่ ติดตั้งใน รพ. รวม 4 แห่ง ช่วย “ลดคิวผู้ป่วยนอก”

วันที่ 4 มิถุนายน 2568 เวลา 11:27 น.


สปสช. เผย “ตู้ห่วงใย” ให้บริการแล้ว 10 จุดบริการ ทั้ง กทม. และต่างจังหวัด เพิ่มจุดติดตั้งที่ รพ. แล้วรวม 4 แห่ง ทั้ง รพ.พระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี - รพ.นครนายก - รพ.พระนารายณ์ จ.ลพบุรี และ รพ.ปทุมธานี และเตรียมติดตั้งเพิ่ม 3 แห่ง ลดคิวบริการผู้ป่วยนอกเจ็บป่วยเล็กน้อย ช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล พร้อมขยายติดตั้งเพิ่มที่หอพัก มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา และ ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ เผยมีประชาชนสิทธิบัตรทองใช้บริการสะสมแล้ว 2,396 ครั้ง เตรียมขยายเพิ่มเติมพื้นที่อื่นต่อไป

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีก้าวกระโดดรวมถึงบริการทางการแพทย์ โดยภายหลังจากที่ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท ได้บรรจุ “ระบบการแพทย์ทางไกล” (Telemedicine) เป็นสิทธิประโยชน์เพื่อดูแลผู้ป่วย ซึ่งเบื้องต้นเป็นการให้บริการผู้ป่วยที่มีนัดติดตามกับคุณหมอที่โรงพยาบาล นอกจากเพิ่มความสะดวก ทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องเดินทางและเสียค่าเดินทางแล้ว ยังลดความแออัดในโรงพยาบาลได้ และได้รับการตอบรับจากผู้ป่วยด้วยดี

จากสิทธิประโยชน์ระบบการแพทย์ทางไกลนี้ ได้ต่อยอดสู่การบริการผู้ป่วยนอกในกรณีเจ็บป่วยเล็กน้อย นอกจากการรับบริการผ่านแอปพลิเคชัน ทั้ง แอป Clicknic, แอป Saluber MD และ แอป Mordee แล้ว ในปีนี้เพื่อเป็นการตอบรับนโยบาย “30 บาทรักษาทุกที่” ของรัฐบาล สปสช. ยังได้ขยายนวัตกรรมบริการด้วย “ตู้ห่วงใย” ที่ช่วยอำนวยความสะดวกด้านสุขภาพให้กับผู้ใช้สิทธิบัตรทองที่เจ็บป่วยเล็กน้อยที่ต้องการหาหมอวินิจฉัยอาการ แต่ไม่สะดวกเดินทางไปรับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิ โดยเปิดตัวและให้บริการตั้งแต่ต้นปี 2568 ที่ผ่านมา

ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ผู้ใช้สิทธิบัตรทองฯ เมื่อมาที่ตู้ห่วงใยนี้จะได้รับบริการดูแลครอบคลุม 42 กลุ่มอาการ เริ่มตั้งแต่บริการตรวจสุขภาพด้วยเทคโนโลยีบริการที่แม่นยำ สะดวก รวดเร็ว และจะได้รับผลตรวจทันที บริการปรึกษาสุขภาพผ่านระบบการแพทย์ทางไกลหรือวิดีโอคอลกับคุณหมอภายในตู้ห่วงใย ระบบจะทำการเชื่อมต่อเพื่อรับคำปรึกษา พร้อมคำแนะนำด้านสุขภาพ

โดยใช้ผลตรวจสุขภาพมาร่วมวินิจฉัย สำหรับในส่วนของบริการยารักษาอาการจะเป็นไปตามรายการสิทธิประโยชน์ที่ สปสช. กำหนด ที่เป็นไปตามบัญชียาหลักแห่งชาติ ผู้ป่วยสามารถเลือกรับยาที่ร้านยาที่เข้าร่วมให้บริการตามความสะดวก หรือเลือกจัดส่งยาถึงบ้าน ทั้งหมดนี้เป็นการใช้สิทธิบัตรทอง เพียงใช้บัตรประชาชนใบเดียว โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

อย่างไรก็ดี นับจากจุดติดตั้งสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการโดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข วันนี้ด้วยความร่วมมือกับบริษัท ทัช เทคโนโลยี จำกัด ได้มีการขยายติดตั้งตู้ห่วงใยเพิ่มเติมแล้วใน 7 พื้นที่ เป็นการนำร่องบริการทั้งที่ กทม. และต่างจังหวัด นอกจากติดตั้งจะอยู่ในชุมชนแล้ว ยังติดตั้งในบริเวณของโรงพยาบาล เพื่อให้เป็นทางเลือกการเข้ารับบริการสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการไม่มากและไม่สะดวกรอคิวรับบริการที่อาจต้องใช้เวลานาน

“วันนี้จากข้อมูลการเข้ารับบริการตู้ห่วงใย มีประชาชนใช้สิทธิบัตรทองรับบริการแล้วจำนวน 2,172 คน เป็นจำนวน 2,396 ครั้ง โดยเข้าบริการด้วยอาการโพรงจมูกอักเสบเฉียบพลัน 565 ครั้ง รองลงมาเป็นอาการทั่วไป อาการปวดกล้ามเนื้อจำนวน 263 คน ปวดศีรษะจำนวน 156 คน และอาการท้องร่วง กระเพาะและลำไส้อักเสบ 82 ครั้ง และคออักเสบเฉียบพลัน 79 คน นับเป็นจุดเริ่มต้นนวัตกรรมบริการสุขภาพในรูปแบบใหม่และจากนี้จะมีการเพิ่มเติมจุดบริการอย่างต่อเนื่อง” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว

ทพ.อรรถพร กล่าวต่อว่า ส่วนพื้นที่ติดตั้งตู้ห่วงใย วันนี้ประชาชนสามารถใช้สิทธิบัตรทองรับบริการได้แล้วในพื้นที่ 10 จุดบริการ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 20.00 น. ดังนี้ 
1.กรุงเทพมหานคร รับบริการได้ที่สหกรณ์เคหสถานเจริญชัยนิมิตใหม่ เขตจตุจักร
2.สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (ขาออก) เขตจตุจักร
3.อาคารทัช บิลดิ้ง พระราม 9 ซอย 7 เขตห้วยขวาง
4.เคหะห้วยขวาง NHA Innovation Center เขตดินแดง
และ 5.ซีคอน สแควร์ ศรีนครินทร์ ประตูทางเข้า โซนมันมัน ให้บริการเวลา 08.00 ถึง 22.00 น.

ส่วนในพื้นที่ต่างจังหวัดได้มีการติดตั้งแล้ว โดยให้บริการเวลา 08.00 ถึง 22.00 น. คือที่ 6.โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี 
7.โรงพยาบาลนครนายก จ.นครนายก บริเวณจุดพักคอยแผนกจักษุ ชั้น 1 ตึกน้ำใจ   8.โรงพยาบาลพระนารายณ์ จ.ลพบุรี บริการชั้น 1 ติดกับห้องอุบัติเหตุฉุกเฉิน
9.โรงพยาบาลปทุมธานี จ.ปทุมธานี
และ 10.มหาวิทยาลัยมหิดล ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ตรงบริเวณสำนักงานหอพัก ใต้หอ 11 นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างประสานติดตั้งเพิ่มเติมอีก 3 จุด ซึ่งจะให้บริการในเร็วๆ นี้ คือที่ รพ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี, รพ. พระพุทธบาท จ.สระบุรี และ รพ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  
1.สายด่วน สปสช. 1330 
2.ช่องทางออนไลน์
• ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6
• Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ  https://www.facebook.com/NHSO.Thailand

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ