วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 เวลา 00:14
กทม. ผนึกกำลังภาคีเครือข่าย จัดมหกรรมรณรงค์ป้องกันการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก เดินหน้าสร้างการรับรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในกลุ่มเด็กและเยาวชน นำผู้ติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาอย่างครอบคลุม
(28 พ.ค. 68) นพ.สุนทร สุนทรชาติ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดมหกรรมรณรงค์ป้องกันการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก ประจำปี 2568 ภายใต้หัวข้อการรณรงค์ "กระชากหน้ากากธุรกิจบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า : นิโคตินเสพติด...จน...ตาย" ณ อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (ดินแดง) โดยกล่าวว่า ปัจจุบันผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยและในพื้นที่กรุงเทพฯ กำลังเพิ่มขึ้น และกำลังเป็นภัยคุกคามเด็กและเยาวชน ส่งผลให้เกิดผู้สูบหน้าใหม่ที่อายุน้อยในกลุ่มนักเรียน จนส่งผลเสียต่อสุขภาพ กระทบต่อการเรียนและพฤติกรรมการเสพติด ซึ่งส่งผลเสียหายต่อครอบครัวและสังคมในวงกว้าง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้มีการขับเคลื่อนงานด้านการรณรงค์ลดผู้สูบบุหรี่ รวมถึงนักสูบหน้าใหม่ และปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องในหลายด้าน ทั้งการตั้งคณะอนุกรรมการ ฯ เฉพาะเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า, การสร้างการรับรู้ และสร้างความร่วมมือกับผู้เรียนและบุคลากรในโรงเรียนในการเป็นหูเป็นตา เฝ้าระวัง ให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า, การบูรณาการปราบปรามร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคีเครือข่าย, ตลอดจนการนำผู้ที่ติดบุหรี่เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา เพื่อลดจำนวนทั้งผู้เสพหน้าใหม่ และเก่าให้ลดลงอย่างต่อเนื่อง, ซึ่ง กทม. และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องจะยังคงร่วมบูรณาการความร่วมมือกันทั้งมิติด้านการเฝ้าระวัง และการปราบปรามเครือข่ายผู้ค้า ผู้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยของเด็ก เยาวชน และประชาชน
รองปลัดฯ สุนทร เน้นย้ำเพิ่มเติมว่า กทม. มีความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือผู้ติดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเต็มที่ หากต้องการเลิกบุหรี่สามารถขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่อนามัย หรือหมอในสถานพยาบาลสังกด กทม. เพื่อเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาได้ทันที และหากพบเห็นการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ Traffy Fondue โดยข้อมูลของผู้แจ้งจะถูกเก็บเป็นความลับ เพื่อให้ กทม. ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบและจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป
ปัจจุบันปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งเป็นสินค้าผิดกฎหมาย พบว่า มีการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยและในพื้นที่กรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นกำลังเป็นภัยคุกคามเด็กและเยาวชน ส่งผลให้เกิดนักสูบหน้าใหม่ที่อายุน้อย ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ส่งผลกระทบต่อการเรียน และพฤติกรรมการเสพติดที่ส่งผลเสียต่อครอบครัว และสังคมในวงกว้าง ในความเป็นจริงบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายมากกว่าที่คิด ซึ่งสร้างความเข้าใจที่ผิดให้กับเด็กและเยาวชน บุหรี่ไฟฟ้าประกอบด้วยสารเคมีมากมาย ผลกระทบของบุหรี่ไฟฟ้ามีทั้งแบบเฉียบพลันทำให้ปอดอักเสบรุนแรง จนเป็นโรคที่เรียกว่า "EVALI" หรือส่งผลต่อระบบทางดินหายใจระยะยาว และบุหรี่ไฟฟ้ายังประกอบด้วยสารก่อมะเร็งได้ และก่อให้เกิดโรคเรื้อรัง (NCDs) อีกด้วย
สำหรับวันงดสูบบุหรีโลกตรงกับวันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี ในปีนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดประเด็นรณรงค์ คือ "กระชากหน้ากากธุรกิจบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า : นิโคติน เสพติด...จน...ตาย" "Unmasking the Appeal : Exposing industry Tactics on Tobacco and Nicotine Products"
8 มิถุนายน 2568
8 มิถุนายน 2568
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ