หน้าแรก > การเมือง

นายกฯ พร้อมผู้นำอาเซียน ร่วมพิธีลงนาม “ปฏิญญากรุงกัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยอาเซียน 2045: วางอนาคตร่วมกันของเรา” รับรองร่างวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2045

วันที่ 27 พฤษภาคม 2568 เวลา 03:30 น.


นายกฯ แพทองธาร พร้อมผู้นำอาเซียน ร่วมพิธีลงนาม “ปฏิญญากรุงกัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยอาเซียน 2045: วางอนาคตร่วมกันของเรา” รับรองร่างวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2045

(วันที่ 26 พฤษภาคม 2568) เวลา 17.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมพิธีลงนาม “ปฏิญญากรุงกัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยอาเซียน 2045: อนาคตร่วมกันของเรา” (Kuala Lumpur Declaration on ASEAN 2045: Our Shared Future) ณ ห้อง Conference Hall 3 ชั้น 3 ศูนย์การประชุม Kuala Lumpur Convention Center (KLCC) กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย

ก่อนการลงนาม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้กล่าวสุนทรพจน์ จากนั้นได้เชิญผู้นำอาเซียนบนเวที เพื่อร่วมลงนามนามปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยอาเซียน 2045: อนาคตร่วมกันของเรา (Kuala Lumpur Declaration on ASEAN 2045: Our Shared Future)

โดยนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน ปี 2568 ลงนามเป็นลำดับแรก และประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ในฐานะประธานอาเซียน ปี 2569 ตามด้วยประเทศสมาชิกอื่น ๆ ตามลำดับชื่อประเทศภาษาอังกฤษ โดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ลงนามเป็นลำดับที่ 6 ต่อจากนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสิงคโปร์

จากนั้น นายกรัฐมนตรีมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน ปี 2568 มอบปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยอาเซียน 2045: อนาคตร่วมกันของเรา ที่ลงนามแล้วให้แก่เลขาธิการอาเซียน และถ่ายภาพการจับมือแบบวิถีอาเซียน (ASEAN Way) ร่วมกัน

นายจิรายุ กล่าวว่า วิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2045 พร้อมทั้งแผนยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง ดังกล่าว ซึ่งจะรวมเป็นชุดเอกสารเรียกว่า “ASEAN 2045: Our Shared Future” มีความครอบคลุมในด้านการเมืองและความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคมและวัฒนธรรม ด้านความเชื่อมโยงและด้านการเสริมสร้างความเข้มแข็งเชิงสถาบัน เพื่อให้บรรลุการเป็นประชาคมอาเซียนที่เข้มแข็ง มีนวัตกรรม มีพลวัต และมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง

“การลงนามในวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2045 จะเป็นประโยชน์กับประเทศไทยในการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนและกับประเทศนอกภูมิภาคในประเด็นที่ไทยต้องการเพิ่มพูนศักยภาพ เช่น การเสริมสร้างความปลอดภัยและความมั่นคง การพัฒนาแรงงาน การส่งเสริมการสาธารณสุขการเสริมสร้างความเชื่อมโยง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและเป็นสิ่งที่ประเทศไทยดำเนินการอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว” นายจิรายุ กล่าว

 

 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ