หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 16 พฤษภาคม 2568

วันที่ 17 พฤษภาคม 2568 เวลา 05:34 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 16 พฤษภาคม 2568


>> "บิ๊กเต่า" นำทีมค้นกุฏิเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หาหลักฐานคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน

06.30 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการ ปปป. ร่วมกับ ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. นำกำลังเข้าตรวจค้นวัดไร่ขิง จ.นครปฐม เพื่อขยายผลคดีทุจริตยักยอกเงินวัด 300 ล้านบาท

พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.), พล.ต.ต. ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคังการ ปปป. และ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พร้อมด้วย พ.ต.ท. สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. รักษาราชการแทน รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายเพื่อหาหลักฐานขยายผลเพิ่มเติม กรณีการทุจริตยักยอกเงินวัดไร่ขิง จำนวน 300 ล้านบาท ไปเล่นการพนันออนไลน์

เป้าหมายในการตรวจค้นครั้งนี้ มีจำนวน ทั้งสิ้น 4 จุด ประกอบด้วย ภายในวัดไร่ขิง จำนวน 3 จุด และนอกวัดไร่ขิง จำนวน 1 จุด ซึ่งพื้นที่เป้าหมายสำคัญ คือ กุฎิของอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง


>> ตรึงกำลังเข้มชายแดนไทย - เมียนมา หลังทัพเมียนมาต้านไม่ไหว ถูกโจมตีอย่างหนักทั้งกลางวัน กลางคืน

07.00 น. ที่หน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ฉก.ราชมนู) พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผบ.ฉก.ราชมนู เปิดเผยถึงสถานการณ์ชายแดน ฝั่งตรงข้ามอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ว่า กกล.KNLA และ กกล.KNDO ได้นำกำลังเข้าปิดล้อมโจมตี ที่ตั้งกองบังคับการกองพันที่ 24 ฐานฯ มอกุยลู่ บ.เวเลอมู อ.เมียวดี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา ด้านตรงข้าม บ.แม่หละไทย ม.1 ต.แม่หละ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร

โดยสามารถเข้ายึดฐานมอกุยลู่ได้สำเร็จ ในเวลา 06.00 น. และได้ตรวจยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ของทหารเมียนมาได้หลายรายการ

ขณะเดียวกัน หน่วยเฉพาะกิจราชมนู , หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 กกล.นเรศวร และหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 34 จัดกำลังเพิ่มความเข้มข้นในการลาดตระเวน, นำอาวุธยิงสนับสนุนเข้าที่ตั้งตามแผนเผชิญเหตุ เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน อย่างเต็มกำลัง


>> "เปรมชัย" นั่งวีลแชร์เข้ามอบตัว ที่ สน.บางซื่อ ปมตึก สตง.ที่กำลังก่อสร้างถล่ม

08.02 น. ที่ สน.บางซื่อ นายเปรมชัย อายุ 71 ปี กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม บ.อิตาเลียนไทยฯ พร้อมทนายความ เดินทางมาที่สถานีตำรวจ พร้อมทนายความส่วนตัว เพื่อเข้ามอบตัว หลังจากเป็นผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับของศาลอาญา ในข้อกล่าวหา 
"เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือ ทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้น ๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 227, 238

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายเปรมชัย ลงจากรถยนต์ส่วนตัวโดยคนใกล้ชิดนำรถเข็นมารับก่อนที่ตำรวจ สน.บางซื่อ พาไปรับมอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาบริเวณชั้น 1 ของสถานีตำรวจ เนื่องจากนายเปรมชัย มีอาการป่วยไม่สามารถเดินหรือยกรถเข็นขึ้นไปที่ห้องประชุมชั้น 4 ของสถานีตำรวจ

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ผู้ถูกกล่าวหาอีก 16 คน ได้ทยอยเดินทางมาที่สถานีตำรวจพร้อมกับทนายความส่วนตัว โดยขึ้นไปรับทราบข้อกล่าวหาในห้องประชุมชั้น 4 ของสถานีตำรวจ โดยคาดว่าช่วงบ่ายตำรวจจะนำตัวผู้ถูกกล่าวหาไปที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ ซึ่งทนายความของผู้ถูกกล่าวหาบางคน บอกว่าเตรียมเงินสดเกือบ 3 แสนบาท เพื่อขอยื่นประกันตัวผู้ถูกกล่าวหาต่อศาลอาญา


>> เปิดปฏิบัติการ ทลายแหล่งบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ฝั่งธนฯ ยึดของกลางแสนกว่ารายการ

12.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำกำลังชุดสืบนครบาล IDMB ร่วมชุดสืบสวน สน.ภาษีเจริญและสืบสวนครบาล 9 เปิดปฏิบัติการ "Operation Smoke Out EP.2" ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 จุด ทลายรังบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ของกรุงเทพมหานคร นำเข้าพร้อมส่งออกจำหน่ายให้ลูกค้าทั่วประเทศ

สามารถตรวจยึด ของกลาง เป็นบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ที่ เกี่ยวข้อง รวมกันประมาณ 140,000 รายการ มูลค่ารวมกว่า 70,000,000 บาท ทั้งนี้ ได้ขยายผลไปยังสถานที่ที่ 2 ที่ใช้ลักลอบเก็บบุหรี่ไฟฟ้าอีก 1 จุด


>> รอง ผบช.น เผย ผู้ต้องหา 15 คน คดีอาคาร สตง.ถล่ม เข้ามอบตัวแล้ว ทุกคนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

13.29 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้าหลังศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 17 คน ที่เกี่ยวข้องกับเหตุอาคาร สตง.ถล่ม ว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีผู้ต้องหาเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนแล้ว 15 คน ส่วนอีก 2 คน เป็นตัวแทนนิติบุคคล และในนามส่วนตัว จากบริษัท ว. และสหาย คอนซัลแตนตส์ จำกัด ที่ประสานจะเข้ามอบตัวในช่วงบ่ายวันนี้

ขณะนี้ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างแจ้งข้อกล่าวหา และแจ้งสิทธิ์ให้ผู้ต้องหารับทราบ เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 15 คน ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอเตรียมเอกสารคำให้การ เพื่อส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนภายในวันที่ 23 พ.ค.นี้

ส่วนช่วงบ่ายวันนี้ ผู้ต้องหาทั้งหมดจะถูกควบคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังผลัดแรก โดยพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่ผู้มีเสียชีวิตจำนวนมากและประชาชนให้ความสนใจ

รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า จากการสืบสวนพบว่าโครงการก่อสร้างอาคาร สตง.แห่งใหม่ มีการเบิกงบประมาณก่อสร้างไปแล้ว 22 งวด จาก 30 งวด เป็นเงินรวม 900 ล้านบาท แต่มีความคืบหน้าในการก่อสร้างเพียงร้อยละ 33 ทั้งที่ตามสัญญาต้องมีความคืบหน้าร้อยละ 80 โดยความชัดเจนส่วนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และรอผลจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้แต่งตั้ง หากพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐ หรือบุคคลใดก็จะดำเนินคดีทันที


>> อุบายโจรใต้ ลวงตำรวจเหตุลักขโมย ลอบกดระเบิดรถพังยับ รองสารวัตรสอบสวนเสียชีวิตในเวลาต่อมา

14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะพ้อ ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านว่ามึเหตุลักทรัพย์ บริเวณมัสยิดดารุลนาอิม บ้านบีติง หมู่ที่ 5 ต.ตะโละดือรามัน อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี

หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.พนากร รองสารวัตรสอบสวน และ ส.ต.อ.เทอญศักดิ์ ผบ.หมู่ (ป.) จึงเดินทางเข้าตรวจสอบ ตามที่ได้รับแจ้ง

ขณะกำลังเดินทางด้วยรถยนต์ของทางราชการ เมื่อมาถึงถนนเส้นรอง ทางเข้าหมู่บ้านบีติง หมู่ที่ 5 ต.ตะโละดือรามัน อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ตรงบริเวณท่อลอด ก็เกิดเหตุระเบิดขึ้น รถยนต์ถูกแรงอัดของระเบิด ลอยไปตกในทุ่งนา ไกลกว่า 10 เมตร สภาพรถพัวงเสียหาย 
ทำให้ ร.ต.อ.พนากร ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส.ต.อ.เทอญศักดิ์ ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน แต่ยังรู้สึกตัว ซึ่งหลังเกิดเหตุ มีชาวบ้านเข้าช่วยเหลือและนำเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 รายส่ง รพ.กะพ้อ และได้รับแจ้งว่า ร.ต.อ.พนากร ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ทั้งนี้เชื่อว่า เหตุดังกล่าว เป็นอุบายของคนร้าย เพื่อล่อ จนท.ไปตรวจสอบเหตุลักทรัพย์ ก่อนจะกดชนวนระเบิดที่ฝังไว้ใต้ผิวถนน เป็นเหตุให้ จนท.เสียชีวิต และบาดเจ็บดังกล่าว


>> สืบมักกะสัน ยึดยาบ้า-ยาไอซ์ซุกในรถ ย่านใจกลางเมือง

15.21 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.มักกะสัน ร่วมกันจับกุม นายแส (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 430,000 เม็ด, ยาไอซ์ 21.8 กิโลกรัม และรถยนต์ 1 คัน โดยทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้รวมมูลค่า 1,290,000 บาท 
การจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.มักกะสัน ได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นมิวเอ็กซ์ เป็นที่เก็บยาเสพติด โดยรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ที่ลานจอดรถในซอยเพชรบุรี 35 โดยยาเสพติดดังกล่าวเป็นของนายแส

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.มักกะสัน ได้เดินทางไปตรวจสอบตามที่สายลับแจ้งไว้ พบรถยนต์คันดังกล่าวซึ่งมีหมายเลขทะเบียนตรงตามที่สายลับแจ้งไว้ จอดอยู่ที่จอดรถในซอยเพชรบุรี ซอย 35 และพบผู้ต้องหาอยู่บริเวณรถ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงได้แสดงตัวขอทำการตรวจค้น พบของกลางยาบ้า-ยาไอซ์ โดยใส่ไว้ในถุงดำ ได้วางไว้บนเบาะรถยนต์คันดังกล่าว

จากการสอบถามนายแส รับว่าของกลางดังกล่าวเป็นของตนเองจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ นำตัวผู้ถูกจับพร้อมด้วยของกลางมาสืบสวนขยายผลที่ สน.มักกะสัน ต่อไป


>> นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เดินหน้ายกระดับความร่วมมือรอบด้านให้ก้าวหน้าและเป็นรูปธรรม

15.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าเยี่ยมคารวะนายโต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ในโอกาสการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ พร้อมเชิญเลขาธิการพรรคฯ เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2569 เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

ทั้งสองฝ่ายแสดงความยินดีที่ไทยและเวียดนามได้ประกาศยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันดีและความตั้งใจที่จะยกระดับความร่วมมือด้านต่าง ๆ ให้ก้าวหน้าและเป็นรูปธรรม พร้อมส่งเสริมความร่วมมือด้านการเมืองความมั่นคงระหว่างกันมากยิ่งขึ้น เพื่อแก้ปัญหาความมั่นคงและอาชญากรรมข้ามแดน โดยเฉพาะการปราบปรามยาเสพติด online scams และการประมง IUU 
ในช่วงท้าย เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ได้ยกย่องความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม ว่าเปรียบเสมือนเสาหลัก ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อสองประเทศและอาเซียนโดยรวมอีกด้วย


>> รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์กลางถนน คุณยายวัย 79 ปีเสียชีวิต

16.31 น. รับแจ้งจาก ศูนย์ประสานงานสมาคมอาสาสมัครร่วมกตัญญูจุดสวรรคโลก มีอุบัติเหตุรถกระบะ ชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส บนถนนหมายเลข 106 ใกล้เคียงหน้าร้านชาบูอินดี้ ต.วังไม้ขอน อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีเขียว ล้มคว่ำอยู่ข้างทาง ใกล้กันพบรถกระบะ นิสสัน สีเทา จอดอยู่สภาพกันชนหน้ารถฝั่งซ้ายมีร่องรอยการชน ตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 79 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สวรรคโลก


>> จับครบแก๊ง 2 สมุนเผานั่งยาง 4 ศพ เดินชูมือลงจากเขา ขอมอบตัว

17.00 น. พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จว.ตรัง ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดตรัง เดินทางขึ้นไปบนภูเขาในพื้นที่บ้านเขาหลัก ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง หลังสืบสวนพบว่า นาย ปอ และ นายพอ (นามสมมุติ) 2 ใน 4 ผู้ต้องหาคดีฆ่าเผานั่งยาง "โกเชษฐ์" พร้อมลูกน้องอีก 2 คน ซึ่งเป็นคนดูแลสวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา

โดยผู้ต้องหาได้หลบหนีไปอยู่บนภูเขาดังกล่าว และมีความพยายามจะเข้ามอบตัว ซึ่งตำรวจได้เข้าปิดล้อมกดดัน ก่อนที่ทั้ง 2 คน ยอมเดินชูมือลงมาจากภูเขา เพื่อมอบตัวกับ พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ รองผู้บังคับการ สืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 9 ซึ่งทั้ง 2 คน ได้แจ้งว่าขอให้การในชั้นศาล จากนั้นตำรวจควบคุมตัวไปสอบสวนทันที

สำหรับผู้จัดการในการก่อเหตุ นายปอ เป็นคนใช้อาวุธปืนยิง โกเชษฐ์ กับลูกน้อง ก่อนนำร่างไปตั้งไว้บนไม้ฟืน ที่พาดอยู่ระหว่างร่องน้ำในสวนปาล์มน้ำมัน ลึกเกือบ 2 เมตร จากนั้นใช้ยางรถยนต์สุ่มด้านล่างแล้วจุดไฟเผา โดยนายปอ ยังได้บังคับขู่เข็ญให้หนึ่งในผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นลูกน้องของ โกเชษฐ์ โอนเงินจำนวน 40,000 บาท เข้าบัญชีภรรยาของ นายปอ ซึ่งในจังหวะนั้นผู้เสียชีวิต ได้พยายามร้องขอชีวิตและให้นายปอ นำไปส่งโรงพยาบาล แต่ นายปอ ยังคงฆ่าจนเสียชีวิต ส่วนนายพอ เป็นคนช่วยในการจัดหายางรถยนต์มาก่อเหตุ

ขณะเดียวกันในวันนี้ที่ สภ.เขาวิเศษ เจ้าหน้าที่ได้ทำการเบิกตัว นายจอ (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี หนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุ ออกมาจากห้องขังเพื่อมาสอบปากคำอย่างละเอียด ในเบื้องต้น นายจอ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาโดยให้การว่า ตนเองเป็นผู้นำผลปาล์มน้ำมันที่ขโมยมาไปจำหน่าย และเป็นคนซื้อน้ำมันเชื้อเพลิง และเป็นคนซื้อล้อยางรถยนต์ในการนำมาเผาหนังยาง


>> หนุ่มอังกฤษเจ็บสาหัส ถูกคู่กรณีใช้มีดกรีดหน้า แทงไส้ทะลัก ชาวบ้านเข้าช่วยหวิดโดนลูกหลง

17.06 น. สภ.เมืองพัทยา สาขาโค้งดงตาล รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณป่าริมถนนทัพยา ตรงข้ามศาลจังหวัดพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุ พบชาย อายุ 35 ปี สัญชาติอังกฤษ ได้รับบาดเจ็บถูกของมีคมกรีดที่ใบหน้าด้านซ้าย หน้าอกขวาเป็นแผลฉกรรจ์ และที่หน้าท้องยังถูกแทงจนไส้ทะลักไหลออกมานอกร่างกาย เป็นที่น่าสยดสยอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาบอย่างเร่งด่วน ส่วนผู้ก่อเหตุได้ขับรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า วีรอส สีขาว ป้ายทะเบียน ภูเก็ต หลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึง

สอบถามพลเมืองดี ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า ขณะที่ทุกคนนั่งรอผู้โดยสารอยู่ริมป่าใต้ต้นไม้ มีรถยนต์คันดังกล่าว ลักษณะคล้ายมีการต่อสู้กันภายในรถ ทำให้รถเสียหลักพุ่งเข้าไปในในป่าชนกับต้นไม้ แล้วผู้บาดเจ็บก็ถูกถีบตกลงมาจากรถ ขณะที่ผู้ก่อเหตุเป็นชาวต่างชาติจะถือมีดออกมาไล่ฟันซ้ำ ทุกคนพยายามเข้าไปห้ามปรามแต่ก็เกือบที่จะถูกลูกหลงไปด้วย และมีผู้หญิงที่นั่งอยู่ในรถได้โยนสัมภาระของคนเจ็บทิ้งลงมา ก่อนผู้ก่อเหตุจะกระโดดขึ้นรถแล้วขับหลบหนีไป ชาวบ้านทำได้เพียงถ่ายรูปรถไว้เป็นเบาะแสเท่านั้น

เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังรับแจ้งได้วิทยุสกัดจับคนร้ายตามเส้นทางที่คาดว่าจะหลบหนีผ่านไป จากเบาะแสที่ได้จากพลเมืองดี ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่สามารถระบุได้ว่า เกิดจากเรื่องใด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการแกะรอยไล่ล่าผู้ก่อเหตุ เชื่อว่าน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน มาดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป


>> รวบมิจฉาชีพหลอกขาย iPad ในโซเชียล ก่อนสูบเงินเหยื่อประวัติพบลวงเหยื่อมาแล้วหลายคดี

19.25 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันจับกุม น.ส.กอ(นามสมมุติ) อายุ 25 ปี ฐานความผิด “ฉ้อโกง” ,พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ โดยจับกุมได้ริมถนนหมู่บ้านแห่งหนึ่ง อ.บางเลน จ.นนทบุรี 
สืบเนื่องจากเมื่อปี พ.ศ. 2566 โดยผู้ต้องหาได้โพสต์ขาย iPad Air รุ่นที่ 4 ขนาด 64 GB พร้อม Apple Pencil รุ่นที่ 2 ผ่านเฟซบุ๊กมาร์เก็ตเพลส โดยมีการแนบคลิปวิดีโอสินค้าและเปิดหน้าโปรไฟล์พร้อมบัตรประชาชน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ผู้ซื้อหลงเชื่อ หลังจากมีผู้เสียหายหลายรายติดต่อสอบถามและตกลงซื้อสินค้า ผู้ต้องหาได้ส่งภาพหน้าสมุดบัญชีธนาคารให้โอนเงิน เมื่อโอนเสร็จ ผู้ต้องหาอ้างว่าจะส่งของในวันรุ่งขึ้น แต่กลับเลื่อนส่งหลายครั้ง พร้อมให้เหตุผลต่าง ๆ เพื่อบ่ายเบี่ยงการจัดส่ง ต่อมาผู้เสียหายตรวจสอบและพบว่าบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าวมีประวัติหลอกลวงผู้อื่นมาแล้วหลายครั้ง จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ กระทั่งมีการออกหมายจับจาก ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ และ ศาลอาญา เนื่องจากผู้ต้องหาไม่ยอมเข้ารับฟังคำพิจารณาตามหมายเรียกของศาล

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง จึงเข้าตรวจสอบพื้นที่และสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด ก่อนนำตัวส่งศาลเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา


>> ศาลไม่ให้ประกันตัว เจ้าสัวเปรมชัย กับพวก ในคดีตึก สตง. ส่งตัวนอนเรือนจำ

20.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังจากญาติและทนายความของผู้ต้องหาทั้งหมด ในคดีตึก สตง.ถล่ม ที่ถูกออกหมายจับได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฝากขัง โดยศาลอาญารัชดาภิเษก ได้ไต่สวนพนักงานสอบสวน ผู้ร้อง และ ผู้ต้องหา ในคดีที่มีการออกหมายจับผู้มีส่วนร่วมออกแบบอาคาร สตง. จนเกิดถล่มหลังมีเหตุแผ่นดินไหว

ล่าสุด ศาลมีคำสั่งว่า จากการพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาถูกกล่าวหาว่า เข้าเกี่ยวข้องกับคดีนี้จนเกิดความเสียหายใหญ่หลวงน่าสะพรึงกลัว กระทบต่อสังคมอย่างยิ่ง ทั้งพนักงานสอบสวนและผู้เสียหายคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เกรงจะหลบหนียากแก่การติดตามตัว ทั้งคดีต้องสอบสวนพยานอีก 15 ปาก กรณีมีเหตุผลอันสมควรจะรอผลการสอบสวนให้เสร็จสิ้นก่อนแล้วค่อยพิจารณามีคำสั่งโดยละเอียดรอบคอบต่อไป ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา "ยกคำร้อง" ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

สำหรับคดีนี้ ศาลได้มีการออกหมายจับ "เปรมชัย กรรณสูต" เอี่ยวคดีตึก สตง. ถล่ม โดยพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ยื่นต่อศาลอาญาเพื่อออกหมายจับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคาร สตง. ถล่ม ทั้งหมด 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 บริษัทผู้ออกแบบ, กลุ่มที่ 2 บริษัทผู้รับจ้างควบคุมการก่อสร้าง และ กลุ่มที่ 3 บริษัทผู้รับจ้างก่อสร้าง รวม 17 ราย โดยมีชื่อ นายเปรมชัย กรรณสูต อยู่ในกลุ่มผู้รับจ้างก่อสร้างด้วย


>> หนุ่มใหญ่ ขับเอสยูวี ชนกองดินแล้วเสียหลักพลิกคว่ำหลายตลบ รถพังยับ ส่วนคนขับรอดตายปาฏิหาริย์ เจ็บแค่เล็กน้อย

22.36 น. สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์เอสยูวี เสียหลักพลิกคว่ำ เหตุเกิดบนถนนหลวงแผ่นดินหมายเลข 36 บายพาสชลบุรีระยอง ฝั่งขาเข้าสัตหีบ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เอสยูวี ยี่ห้ออีซูซุ มิวเอ็กซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ระยอง เสียหลักพลิกคว่ำตะแคงข้าง ชายไทย อายุ 47 ปี เป็นคนขับติดอยู่ภายในตัวรถ เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ช่วยกันนำตัวออกมาจากตัวรถ พบว่าได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ส่วนตัวรถได้รับความเสียหายยับเยินอยู่ริมถนน มีชิ้นส่วนอะไหล่หลุดออกจากตัวรถ กระเด็นเกลื่อนพื้นถนน

สอบถาม คนขับ ให้ข้อมูลว่า ตัวเองขับผ่านถนนเส้นนี้เป็นประจำหลังเลิกงาน เพื่อกลับบ้านในพื้นที่สัตหีบ ปกติก็จะระมัดระวัง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวค่อนข้างมืด กระทั่งมา เกิดเหตุเสียหลักพุ่งชนกองดินริมทาง จนตัวรถเสียหลักตีลังกาพลิกคว่ำแล้วตะแคงข้าง โชคดีที่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด


>> หนุ่ม สปป.ลาว ขี่รถจักรยานยนต์ชนกับรถสไลด์ริมถนนราชพฤกษ์ บาดเจ็บอาการสาหัส อาสาสมัครทำ CPR แต่ไม่เป็นผล

22.40 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุก และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส บนถนนราชพฤกษ์ ขาเข้า ใกล้เคียงทางเข้าวัดบางเชือกหนัง ในช่องทางหลัก

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีดำ ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะชนกับรถสไลด์ อีซูซุ สีขาว ป้ายทะเบียน นครสวรรค์ ใกล้กันพบร่างของผู้บาดเจ็บ 1 รายมีอาการสาหัส ทางอาสาสมัครช่วยเหลือปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นผู้ชาย อายุประมาณ 30 - 35 ปี สัญชาติ สปป.ลาว ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเสาธง


>> แผ่นดินไหว ที่จังหวัดแพร่

00.45 น กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 1.5 ความลึก 5 กม. ต.บ้านเหล่า อ.สูงเม่น จ.แพร่ ไม่มีรายงานการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน 


>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา

02.36 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 3.0 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของ ประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 347 กม.ไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย 
 

>> แผ่นดินไหว ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน

05.16 น กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 2.0 ความลึก 1 กม. บริเวณพื้นที่ ต.ถ้ำลอด อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ไม่มีรายงานการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน 

 

ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ