หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 15 พฤษภาคม 2568

วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 เวลา 05:39 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 15 พฤษภาคม 2568


>> จังหวัดสมุทรสาคร เปิดรับซื้อ “ปลาหมอคางดำ” วันแรก ยอดจับปลาทะลุเป้า 32,434 กิโล

07.30 น. พ.อ.สมเกียรติ นุตะวานิช รอง ผอ.รมน.จังหวัด ส.ค.(ท.) พร้อมด้วยนายเผดิม รอดอินทร์ ประมงจังหวัดสมุทรสาคร นายนิรันด์ พรหมครวญ หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง และบุคลลากรในสังกัดเร่งดำเนินการโครงการควบคุมและกำจัดประชากรปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง ในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งสำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสาครเร่งดำเนินการเปิดจุดรับซื้อปลาหมอคางดำในพื้นที่ จำนวน 10 แพ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนในจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเร่งกำจัดปลาหมอคางดำในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมถึงกรมประมง ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกที่เปิดรับซื้อจังหวัดสมุทรสาคร ผนึกกำลังแพรวบรวม ชาวประมง และประชาชนในพื้นที่จับปลาหมอคางดำไปขายได้แล้ว 32,434 กิโลกรัม

จังหวัดสมุทรสาคร ได้รับอนุมัติการดำเนินกิจกรรมการรับซื้อปลาหมอคางดำที่ถูกกำจัดออกจากแหล่งน้ำทุกแห่งที่พบการแพร่ระบาด ตามโครงการควบคุมและกำจัดประชากรปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง โดยจัดสรรโควตาการรับซื้อปลาหมอคางดำจากกรมประมง จำนวน 750,000 กิโลกรัม รวมเป็นเงิน 15 ล้านบาท (เกษตรกรขายได้ 15 บาท/กิโลกรัม แพผู้รวบรวม ได้ 5 บาท/กิโลกรัม) โดยมีระยะเวลาในการดำเนินการภายใน 30 กันยายน 2568 นี้

โอกาสนี้ นายเผดิม รอดอินทร์ ประมงจังหวัดสมุทรสาคร ขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนแพผู้รวบรวม หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ประชาชนทุกคนรวมแรงร่วมใจช่วยกันเร่งกำจัดปลาหมอคางดำ โดยจับมาขายให้กับแพผู้รวบรวมตามทีสมัครเข้าร่วมโครงการกับสำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสาครทั้ง 10 แพ ในราคา 15 บาท ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป จนกว่าจะครบน้ำหนัก 750,000 กิโลกรัม หรือจนถึงวันที่ 11 กันยายน 2568

นอกจากนี้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงที่เข้าร่วมโครงการสามารถสมัครขอรับการสนับสนุนปัจจัยการผลิต เช่น กากชา เครื่องมือประมง และรับพันธ์ุปลากะพง ขนาด 4 นิ้วขึ้นไป ณ สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสาครได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ในวันและเวลาราชการ


>> ระทึกกลางกรุง ชายคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า หน่วยอรินทราชเข้าพื้นที่แล้ว อยู่ระหว่างเจรจาพูดคุยให้ยอมวางปืนและมอบตัว

09.45 น. ตำรวจ สน.บางกอกน้อย รับแจ้งเหตุมีชายคลั่งใช้อาวุธปืน และยิงชาวบ้าน ภายในซอยวัดลครทำ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กทม.

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางกอกน้อย นำกำลังปิดล้อมพื้นที่โดยรอบ และมีรายงานด้วยว่า มีการจับคนเป็นตัวประกัน เบื้องต้น พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น รุดตรวจที่เกิดเหตุ และเจ้าหน้าที่พยายามเจรจาพูดคุย ก่อนช่วยตัวประกันออกมาได้

เบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุ อายุ 31 ปี มีอาการคลั่ง ไม่มีท่าทียอมพูดคุยและยังใช้อาวุธปืนยิงสวนเจ้าหน้าที่ออกมา แถมยังใช้ปืนยิงขึ้นฟ้า 6 นัด โดยเจ้าหน้าที่ขอกำลังเสริมและปิดล้อมพื้นที่โดยรอบ และกันไม่ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาในพื้นที่เด็ดขาด

สอบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุมีอาการมึนเมา มาตาหาแฟนสาวในชุมชน แต่เมื่อมาถึงและไม่พบแฟนสาว ทำให้มีอาการคลุ้มคลั่ง และยิงปืนขึ้นฟ้าหลายนัด สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านในพื้นที่

ล่าสุด เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเจรจาพูดคุยให้ยอมวางปืนและมอบตัว โดยมีการประสานกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยอรินทราชเข้ามาในพื้นที่เกิดเหตุแล้ว


>> นายกฯ ยังไม่ยกเลิก "เงินหมื่น เฟส 3" ชี้ ต้องรอฟังความเห็น เหตุมีปัจจัยภาษีสหรัฐฯ

10.32 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีที่รัฐบาลจะมีการทบทวนมาตรการทางเศรษฐกิจ รวมถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 10,000 บาท เฟส 3 ว่า "ใช่ค่ะ ก็มีความเห็นเข้ามา พอมีสถานการณ์มาตรการทางภาษีของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกมีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามา จึงต้องมีการรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติม และหากได้ข้อสรุป อย่างไร จะรีบแจ้ง"

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า รัฐบาลจะยกเลิกโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นายกรัฐมนตรี ระบุว่า "ที่จริงเราหาวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้ได้ผลมากที่สุด เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ ยังไม่ได้ยกเลิก เพียงแต่ต้องรับฟังความคิดเห็นให้ครบ และพยายามผลักดันในทุกแง่มุม"

ส่วนที่ว่าจะมีการปรับรูปแบบการใช้เหมือนโครงการคนละครึ่งได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายอย่าง ที่ต้องช่วยกันหลายด้าน เพราะตอนนี้เป็นสถานการณ์ที่กระทบกับเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งเราต้องใช้ทั้งเม็ดเงิน และนโยบายต่างๆ ที่จะกระตุ้นทั้งหมด ไม่ใช่แค่ช่วงอายุใดอายุหนึ่ง เพราะแผนงานเดิมเราจะแบ่งช่วงอายุ แต่แผนขณะนี้จะกระตุ้นทุกช่วงอายุทั้งหมด

เมื่อถามย้ำว่า สรุปว่ายังมี แต่จะปรับวิธีการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขอรอฟังความคิดเห็นก่อนว่าอย่างไรบ้าง เรายังไม่ยกเลิกอะไร


>> กกต.ปทุมธานี แจงปมข่าวบัตรเลือกตั้ง ทต.หนองสามวัง หาย-เกิน 56 ใบ ไม่เป็นความจริง

11.10 น. สำนักคณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัดปทุมธานี ออกหนังสือชี้แจง กรณีที่มีการเสนอข่าวว่า มีบัตรเลือกตั้งเทศบาลตำบลหนองสามวัง เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 68 หาย - เกิน จำนวน 56 ใบ ทำให้ไม่สามารถรับรองผลได้นั้น ไม่เป็นความจริง

โดยจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า มีเพียงกรณีบัตรเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลหนองสามวังสูญหายโดยไม่ทราบสาเหตุ จำนวน 1 ใบ ของหน่วยเลือกตั้งที่ 2 เขตเลือกตั้งที่ 2 ซึ่ง กกต.ปทุมธานี ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อเสนอ กกต. พิจารณาแล้ว ตามมาตรา 105 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ที่บัญญัติว่า “ในกรณีที่ผลการนับคะแนนเลือกตั้งปรากฏว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ออกเสียงลงคะแนน ให้คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งดำเนินการตรวจสอบความถูกต้อง หากยังไม่ตรงกันอีกให้รายงานพร้อมเหตุผลต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อพิจารณาสั่งให้มีการนับคะแนนเลือกตั้งใหม่ หรือสั่งให้ออกเสียงลงคะแนนใหม่ในหน่วยเลือกตั้งนั้น” ซึ่ง กกต.จังหวัดปทุมธานีจะเป็นผู้เสนอไปยัง กกต.กลาง เพื่อวินิจฉัย แก้ไขปัญหาต่อไป


>> รวบหนุ่มโปรไฟล์ดี หลอกขายกระเป๋าแบรนด์เนม พบผู้เสียหายหลายราย หมายจับติดตัวกว่า 5 หมาย

13.48 น. ผู้สื่อข่าวรางาน สืบนครบาล สืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ นายเค นามสมมุติ หลังมีผู้เสียหาย ที่รู้จักกับนายเบนซ์ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยนายเค เป็นอดีตพนักงานขายสินค้าแบรนด์เนม ได้มาเสนอขายกระเป๋ายี่ห้อดัง ให้กับผู้เสียหายอ้างว่ามีส่วนลดพิเศษ ผู้เสียหายเห็นว่านายเค รู้จักกับบุคคลมีที่ชื่อเสียงหลายคน มีโปรไฟล์ดีดูน่าเชื่อถือ จึงหลงเชื่อและโอนเงินจำนวน 168,000 บาท ให้กับนายเค เพื่อทำการซื้อกระเป๋าดังกล่าว แต่เมื่อถึงกำหนดส่งมอบสินค้า นายเคก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด

กระทั่งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 18.30 น. เจ้าหน้าที่จับกุมนายเคได้ฐาน " ฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งมีข้อมูลคอมพิวเตอร์พิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ " และจากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหามีหมายจับอีก 4 หมาย ในข้อหาฉ้อโกง 
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาอ้างว่า เคยทำธุรกิจเกี่ยวกับการรับหิ้วสินค้าจากต่างประเทศ และถูกคนรู้จักซึ่งเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงโกงเงินค่าสินค้า จึงทำให้ไม่มีสินค้ามาส่งมอบ และไม่มีเงินมาคืนให้กับผู้เสียหาย ต่อมาผู้ต้องหาจึงได้ไปหลอกลวงผู้อื่นอีกหลายๆ คน เพื่อนำเงินและสินค้ามาคืนให้กับผู้เสียหายคนอื่นๆ หมุนเวียนกันไป


>> แผ่นดินไหว ขนาด 3.9 ในพื้นที่ประเทศเมียนมา

14.19 กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 3.9 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 304 กม. ไม่มีรายงานผละกระทบต่อประเทศไทย


>> กรมอุทยานฯ ร่วมกับ บก.ปทส. จับกุมขบวนการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ยึดลิงอุรังอุตัง 2 ตัว มูลค่ากว่า 2.5 แสนบาท

15.53 น. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รับรายงานจากนายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า ถึงความสำเร็จในการจับกุมผู้ลักลอบค้าสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดลิงอุรังอุตัง ปฏิบัติการครั้งนี้เริ่มต้นเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 เมื่อตำรวจ กก.1 บก.ปทส. ร่วมกับสายลับ ได้สืบทราบข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่ายลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย จึงได้ติดต่อขอซื้อลิงอุรังอุตัง จำนวน 1 ตัว ในราคา 255,000 บาท ต่อมาได้รับแจ้งจากสายลับว่าขบวนการดังกล่าวจะนัดส่งมอบลิงอุรังอุตังบริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร จึงได้ประสานชุดเหยี่ยวดงเพื่อร่วมตรวจสอบชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและร่วมจับกุมดำเนินคดี

หลังทราบเรื่องนายนาวี ช้างภิรมย์ ผู้อำนวยการส่วนประสานความร่วมมือด้านทรัพยากรธรรมชาติ ทำหน้าที่ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (หัวหน้าชุดเหยี่ยวดง) ได้ร่วมกับศูนย์ข่าวกรองอาชญากรรมสัตว์ป่า และตำรวจ กก.1 บก.ปทส. ดำเนินการจับกุมผู้ลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ผลการจับกุมสามารถจับกุมผู้ต้องหาชายวัย 47 ปี พร้อมยึดของกลางสัตว์ป่าควบคุมที่ต้องแจ้งการครอบครอง ชนิดลิงอุรังอุตัง จำนวน 2 ตัว และอุปกรณ์การกระทำผิด ได้แก่ กล่องพลาสติก จำนวน 2 กล่อง

คณะเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 19 วรรคหนึ่ง ฐาน "มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าควบคุมโดยไม่รับอนุญาต" มีโทษตามมาตรา 90 ระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงควบคุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปทส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย


>> นายกฯ หารือหอการค้าและอุตสาหกรรมไทยในเวียดนาม ชูเอกชนเป็นพันธมิตรหลักของภาครัฐ พร้อมหนุนการลงทุนภาคเอกชนไทยทั่วโลก

16.29 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม พร้อมเริ่มภารกิจแรกด้วยการพบหารือผู้บริหารหอการค้าและอุตสาหกรรมไทยในเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 140 บริษัท เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากภาคเอกชนไทยที่ดำเนินธุรกิจในเวียดนาม

นายกฯ ได้แลกเปลี่ยนมุมมองกับนักลงทุนไทยที่ขยายการลงทุนธุรกิจในประเทศเวียดนาม เพื่อนำไปเป็นข้อมูลในการจัดทำนโยบายของไทยที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะจุดแข็งของเวียดนามในการผลักดันการค้าและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ แนวทางของเวียดนามต่อมาตรการภาษีของสหรัฐฯ รวมถึงแนวทางการขยายความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนของไทยกับเวียดนามในอนาคต

ทั้งนี้ นายกฯ ขอบคุณภาคเอกชนไทยที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม ในระดับประชาชนและเศรษฐกิจ พร้อมย้ำว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุนภาคธุรกิจไทยในต่างประเทศ และส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทยบนเวทีโลก โดยชื่นชม ThaiCham ที่เป็นหอการค้าไทยในต่างประเทศที่เข้มแข็งที่สุดแห่งหนึ่ง ช่วยประสานความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและเวียดนามในระดับภาคเอกชน


>> กองทัพอากาศ สั่งตรวจสอบกรณีไรเดอร์สาวถูกชายอ้างตัวเป็น "ทหารอากาศ" คุกคาม ข่มขู่ ย้ำไม่ปกป้องผู้กระทำผิด

18.52 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน พลอากาศโท ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า กองทัพอากาศให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที เพื่อพิสูจน์ว่าบุคคลดังกล่าวเป็นกำลังพลในสังกัดกองทัพอากาศหรือไม่ โดยยึดหลักความเป็นธรรมและโปร่งใส

จากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม พบว่าเป็นข้าราชการทหารอากาศชั้นประทวน สังกัด กรมสรรพาวุธทหารอากาศ ขณะนี้เจ้ากรมสรรพาวุธทหารอากาศได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการตรวจสอบอย่างรอบด้าน เป็นธรรม และโปร่งใส โดยยึดหลักกฎหมายและระเบียบวินัยทหารอย่างเคร่งครัด หากผลการสอบสวนพบว่ามีการกระทำผิดจริง กองทัพอากาศจะดำเนินการลงโทษทางวินัย และพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่มีการปกป้องหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิดในทุกกรณี

ผู้บัญชาการทหารอากาศได้เน้นย้ำและสั่งการให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับกำกับดูแลกำลังพลอย่างใกล้ชิด ปฏิบัติตามหลักคุณธรรม จริยธรรม และวินัยอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการวางตัวต่อประชาชนเพื่อรักษาความเชื่อมั่นที่ประชาชนมีต่อกองทัพอากาศ 
กองทัพอากาศขอยืนยันในความมุ่งมั่นที่จะรักษามาตรฐานกำลังพลให้มี คุณธรรม จริยธรรม ความโปร่งใส และความถูกต้องในการปฏิบัติหน้าที่ ภายใต้กฎ ระเบียบ และกฎหมาย ทั้งนี้ หากกำลังพลมีพฤติกรรมที่ละเมิดสิทธิและเป็นภัยต่อสังคม กองทัพอากาศพร้อมดำเนินการอย่างจริงจังกับผู้กระทำผิดตามข้อเท็จจริง


>> นายกฯ แพทองธาร ร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ ต้อนรับ ย้ำความสัมพันธ์แน่นแฟ้น ไทย–เวียดนาม ทุกมิติ

19.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำในโอกาสเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ โดยมีนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เป็นเจ้าภาพ พร้อมขอบคุณรัฐบาลเวียดนามที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

นายกฯ กล่าวถึงการประชุม JCR ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ว่าเป็นโอกาสครบรอบ 20 ปีของกลไกพิเศษที่ไทยและเวียดนามมีเฉพาะกันเท่านั้น พร้อมแสดงความยินดีที่ทั้งสองประเทศจะยกระดับความสัมพันธ์เป็น “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน” ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนความร่วมมือในทุกมิติอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น

นายกฯ เน้นย้ำถึงความเชื่อมโยงที่แน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้าและวัฒนธรรม โดยไทยเป็นประเทศเดียวในโลกนอกเหนือจากเวียดนามที่มีอนุสรณ์สถานของประธานโฮจิมินห์ถึง 3 แห่ง สะท้อนความผูกพันทางประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ละครไทยยังได้รับความนิยมในเวียดนามอย่างมาก ทำให้ไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเวียดนามกว่า 1 ล้านคน ขณะที่คนไทยกว่า 5 แสนคนก็เดินทางท่องเที่ยวเวียดนามอย่างต่อเนื่อง

ในช่วงท้าย นายกฯ กล่าวเชิญนายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ และคณะรัฐมนตรีเวียดนามเยือนไทย เพื่อร่วมชมการแข่งขันนัดชิงเหรียญทองฟุตบอลชาย หากไทยและเวียดนามพบกันในรอบชิงชนะเลิศซีเกมส์ครั้งที่ 33 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพช่วงปลายปีนี้

ทั้งนี้ ก่อนเริ่มงานเลี้ยง นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้นำนายกฯ ไทย เยี่ยมชมนิทรรศการหัตถกรรมท้องถิ่นของเวียดนาม รวมถึงของที่ระลึกจากทั้งสองฝ่ายซึ่งจัดแสดงบริเวณทางเข้างาน


>> กทม. ออกประกาศการสิ้นสุดสาธารณภัยในเขตพื้นที่ก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่

19.32 น. ตามที่กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร ได้มีประกาศ เรื่อง การสิ้นสุดสาธารณภัยในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ยกเว้นพื้นที่ก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2568 โดยยกเว้นบริเวณพื้นที่ก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร เนื่องจากยังคงเหลือภารกิจในการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ภายในอาคารที่ทรุดตัว โดยให้ผู้อำนวยการเขตจตุจักรรับผิดชอบ และดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2500 และระเบียบกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง นั้น

บัดนี้ ภารกิจในการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ภายในอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ที่ทรุดตัวได้สิ้นสุดลงแล้ว เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 ในการนี้ ผู้อำนวยการกรุงเทพมหานครพิจารณาแล้ว อาศัยอำนาจตามมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ประกอบกับแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2564 - 2570 จึงให้สิ้นสุดสาธารณภัยบริเวณพื้นที่ก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร ประกาศ ณ วันที่ 15 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2568


>> ’อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง‘ ยอมสึกแล้ว โดยทำพิธีลาสิกขาต่อหน้าพระพุทธรูป หลังถูกสอบปากคำนานกว่นกว่า 8 ชม.

19.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณีตำรวจสอบสวนกลาง ได้สอบปากคำ พระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม เจ้าคณะภาค 14 ในคดียักยอกเงินจากบัญชีธนาคารของวัดโอนเข้าบัญชีธนาคารส่วนตัว เพื่อนำไปเล่นพนันบาคาร่าออนไลน์ กว่า 300 ล้านบาท ตามที่นำเสนอไปก่อนหน้านั้น

ล่าสุด โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมทำพิธีลาสิกขาบทด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เริ่มพิธีเนื่องจากรอชุดเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังทำพิธีลาสิกขาบทแล้วเสร็จ 
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบปากคำกว่า 8 ชั่วโมง เบื้องต้นทาง พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การไปในทิศทางที่ดี ซึ่งปรากฏว่าทางพระธรรมวชิรานุวัตร ได้โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ในช่วงปี 2564

ซึ่งข้อมูลนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทำธุรกรรมด้วยสาเหตุใด แต่พบบางส่วนเข้าไปพัวพันกับเว็บการพนัน


>> กู้ภัยและพลเมืองดี เร่งช่วยเหลือ หนุ่มใหญ่วัย 57 ปี ขับรถเก๋งพุ่งตกคลองลากฆ้อน นำร่างขึ้นมาทำ CPR แต่ไม่เป็นผล จ.นนทบุรี

20.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์ตกลงไปในคลอง เหตุเกิดบริเวณจุดกลับรถใต้สะพานคลองลากฆ้อน ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงประสานเจ้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูรุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ ทราบว่าเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ โตโยต้า สีเขียว (ยังไม่ทราบหมายเลขทะเบียน) ตกลงไปในคลอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยและพลเมืองดีเร่งช่วยเหลือนำร่างคนขับออกมาจากรถ เป็นชายไทย อายุ 57 ปี ชาว จ.นนทบุรี เบื้องต้นคนขับรถหมดสติ ไม่มีชีพจร เจ้าหน้าที่กู้ชีพ กู้ภัยเร่งปั๊มหัวหัวใจ นานกว่า 30 นาทีไม่เป็นผล เสีชีวิตในเวลาต่อมา

หลังเกิดเหตุทางภรรยาและบุตรสาว ทราบข่าว ได้เดินทางมาพร้อมกับให้ข้อมูลว่า สามีนั้นมีโรคประจำตัว ลมชัก ผ่าตัดสมองจากสาเหตุเลือดคั่ง เบาหวาน และพาร์กินสัน ซึ่งก่อนเกิดเหตุเพิ่งออกจากบ้าน ตัวสามีบอกว่าจะออกไปซื้อของกิน ก่อนจะหายไปนานผิดปกติ ตรวจสอบจาก GPS พบว่าขาดหายไปช่วงสะพานข้ามคลองลากฆ้อน ซึ่งห่างจากบ้านไม่ไกล จึงได้ชักชวนลูกขับรถออกมาถึงพบเห็นรถเจ้าหน้าที่กู้ภัย อยู่ตรงที่เกิดเหตุจนกระทั่งทราบว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นสามีของตนเอง ทางภรรยายังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า สามีถ้ามีอาการปวดหัวจะเกิดอาการชัก ซึ่งคาดว่าสาเหตุสามีน่าจะเกิดอาการชักและหมดสติไป

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าเบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุพร้อมกับเก็บคลิปกล้องหน้ารถของพลดีไว้เป็นหลักฐาน ในส่วนสาเหตุยังไม่ทราบที่แน่ชัดจะต้องสอบถามทางญาติอีกครั้งว่าผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวหรือไม่ จากนั้นจึงมอบผู้เสียชีวิตให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อชันสูตรต่อไป


>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา

22.20 น กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 3.4 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 489 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย


>> หนุ่มวัย 34 ปีขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักชนท้ายรถบรรทุก เสียชีวิตริมถนนเลียบคลองสิบสามฝั่งตะวันออก

22.30 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถบรรทุก และมีผู้เสียชีวิต บนถนนเลียบคลองสิบสามฝั่งตะวันออก ในพื้นที่ เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน 5244 กทม. ลักษณะชนท้ายรถบรรทุก อีซูซุ ป้ายทะเบียน 9411 กทม. ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 รายตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 34 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาสำราญ


>> ตำรวจคุมตัวเต้ วัดยาง หลังเจรจานานกว่า 17 ชม. พบเจ้าตัวมีสภาพอิดโรยอยู่ภายในบ้าน ยืนยันปฏิบัติการยุทธวิธีพร้อมดำเนินคดีข้อหาหนัก

01.31 น. พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) พร้อม พลตำรวจโทสยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และ พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. นำกำลังเข้าควบคุมตัวนายณอ (นามสมมุติ) หรือเต้ วัดยาง หลังตรึงกำลังเจรจานานกว่า 17 ชั่วโมง

โดย หน่วยอรินทราช 26 ได้ใช้อาวุธปืนยิงที่ประตู 1 นัด เพื่อเปิดทางเข้าไปในบ้านและควบคุมตัวผู้ก่อเหตุนำส่งสถานีตำรวจนครบาลบางกอกน้อย

พลตำรวจโทสำราญ เปิดเผยว่า หลังเจ้าหน้าที่ใช้กำลังตรึงพื้นที่นานกว่า 17 ชั่วโมง จึงได้เข้าบุกตรวจค้นภายในบ้านพักของผู้ก่อเหตุโดยใช้อาวุธปืนยิงประตูหนึ่งนัด เมื่อเข้าไปภายในบ้านพบนายณอ ในสภาพอิดโรย ยืนยันการปฏิบัติงานเป็นไปตามยุทธวิธี ส่วนสาเหตุที่ต้องใช้เวลานาน ก็เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืนและมีลักษณะยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ ขณะเดียวกันการใช้เวลานานก็เพื่อต้องการให้ผู้ก่อเหตุหมดแรง เพื่อลดการต่อสู้ขัดขืน

โดยหลังจับกุมเจ้าหน้าที่จะมีการส่งผู้ก่อเหตุไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย สำหรับพิจารณาดำเนินคดีตามกฏหมาย เบื้องต้นตำรวจได้ตั้งข้อหาหลักๆ แล้ว 2 ข้อหาคือ 1. ข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน และ 2. ข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง ส่วนการตั้งข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติดจะต้องรอผลตรวจเพื่อพิจารณาดำเนินคดีอีกครั้ง


>> แผ่นดินไหว ที่แม่ฮ่องสอน

03.34 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 2.1 ความลึก 2 กม. ภายในพื้นที่ของ ต.เวียงเหนือ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ยังไม่มีรายงานการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน 
 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ