ผู้เสียหายกว่า 40 ราย ลุยแจ้งความ "หอพักย่านรังสิต" ด้าน ตำรวจ ยัน ไม่มีใครแทรกแซงคดีได้ เบื้องต้น พบ "หอพักนี้ไม่ได้ขออนุญาตอย่างถูกต้องตาม พ.ร.บ.หอพักฯ"

6 พฤษภาคม 2568 จากกรณีมีนักศึกษาร้องเรียนถูกผู้ประกอบการ "หอพักย่านรังสิต" เอาเปรียบ ทำสัญญาเช่าที่ไม่เป็นธรรม และมีการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม  โดย น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ สคบ.และ ตำรวจ เร่งตรวจสอบและติดตามอย่างเร่งด่วน ขณะที่ มหาวิทยาลัยรังสิต มีการตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์เป็นครั้งที่ 2 โดยมีผู้เสียหาย เดินทางมาลงทะเบียนแล้วกว่า 40 ราย

รองศาสตราจารย์ พันตำรวจโท ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล รองอธิการบดีฝ่ายความปลอดภัย และ ประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม ม.รังสิต เปิดเผยว่า วันนี้มีผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งดำเนินคดีกับเจ้าของหอพักดังกล่าวแล้ว กว่า 40 ราย คาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นอีก เพราะมีปัญหามาเป็นเวลานาน

สำหรับศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ตนจะประเมินสถานการณ์และแนวโน้มอีกครั้ง หากยังมีผู้เสียหายมาอย่างต่อเนื่อง ก็จะเปิดศูนย์ฯ นี้ต่อไปอีก แต่หากศูนย์ฯ นี้ปิดแล้ว ยังมี นศ.ที่ได้รับผลกระทบจากหอพักดังกล่ว หรือ หอพักอื่นๆ สามารถมาแจ้งกับทางมหาวิทยาลัยได้ โดยให้มาติดต่อที่ฝ่ายกิจการนักศึกษา

ด้าน นายฤทธิรอน ทวีทรัพย์ ผอ.ฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์ สคบ. ตรวจสอบแล้วพบเรื่องสัญญาไม่เป็นธรรม, การเรียกเก็บค่าเช่า ซึ่ง สคบ.จะดำเนินการสืบสวนเพื่อเอาผิดทั้งแพ่งและอาญา ส่วนเรื่องเงินประกันของผู้เช่ามีสิทธิที่จะได้คืน แต่มีเรื่องเงื่อนเวลาต้องอยู่ให้ครบสัญญา หรืออยู่เกินกึ่งหนึ่ง จึงมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและขอเงินประกันคืนได้ แต่ทางหอพักก็สามารถหักเงินประกันได้เช่นกัน หากเกิดความชำรุดเสียหายที่เกิดจากผู้เช่า แต่ต้องหักอย่างเป็นธรรมตามกรอบกฎหมายด้วย

ด้าน พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต เปิดเผยว่า คดีนี้ตำรวจเดินหน้าเอาผิดกับเจ้าของหอพักทุกกรณี แม้ว่าสามีเจ้าของหอพักเคยเป็นอดีตนายตำรวจ แต่พวกตนไม่ได้กังวล และไม่สามารถที่จะมาแทรกแซงการทำคดีได้ พร้อมขอความเห็นใจให้กับตำรวจชุดปัจจุบัน ยันทำคดีไม่มีล่าช้าเหมือนที่ผ่านมาแน่นอน

นางสาววิพร แววศรีผ่อง นายอำเภอเมืองปทุมธานี เปิดเผยว่า ผู้ว่าฯ ปทุมธานี ทราบเรื่องแล้วและเร่งให้ดำเนินการตรวจสอบ เบื้องต้นเรื่องการขออนุญาตขึ้นกับเทศบาลตำบลหลักหก พบว่า "หอพักนี้ไม่ได้ขออนุญาตอย่างถูกต้องตาม พ.ร.บ.หอพักฯ และต้องตรวจสอบเพิ่มเติม พ.ร.บ.สาธารณสุขฯ ภาษีป้ายโรงเรือนและภาษีรายได้ด้วย รวมถึงการก่อสร้างทางเข้า ออกรุกล้ำทางเท้าทางสาธารณะด้วย" โดยกำหนดกรอบเวลา 3 วัน ต้องส่งรายงานมาที่จังหวัด พร้อมทั้งตำหนิเจ้าหน้าที่กองช่างของเทศบาลตำบลหลักหก ฐานปล่อยปละละเลยให้อาคารดังกล่าวที่ก่อสร้างไม่ตรงตามแบบการขออนุญาต เปิดให้บริการมาเกือบ 20 ปี

ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 11.00 น.นายอำเภอเมืองปทุมธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง รองผกก.สส.สภ.ปากคลองรังสิต เจ้าหน้าที่ตำรวจ นางสาวช่อลัดดา พิทักทรัพย์ ปลัดเทศบาลตำบลหลักหก ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหอพักดังกล่าวเกี่ยวกับการก่อสร้างต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบก็พบว่า ไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นคนดูแลหรือเจ้าของหอพัก พร้อมทั้งปิดไฟเงียบ ก่อนที่จะเดินทางกลับออกมาด้านนอก และจะไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ปากคลองรังสิต เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

นายวีระเชษฐ์ สุนาวงศ์ ผอ.กองช่างเทศบาลตำบลหลักหก เปิดเผยว่า "ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารนั้น เมื่อตรวจพบอาคารมีการต่อเติมผิดจากที่ขอไว้นั้น ทางด้านพนักงานก็จะต้องมีคำสั่งให้รื้อถอน ซึ่งทางเทศบาลตำบลหลักหกจะดำเนินการให้เร็วที่สุด"