หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 4 มีนาคม 2568

วันที่ 5 มีนาคม. 2568 เวลา 05:37 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 4 มีนาคม 2568


>> 2 หนุ่มขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ เกิดอุบัติเหตุล้มคว่ำแล้วถูกล้อรถทับหมวกกันน็อคแตกยับ ดับ 1 และเจ็บสาหัส 1 ราย

07.50 น. รับแจ้งจาก อาสากู้ภัยศีลรธรรม บ้านบึง มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ ชนกับรถไม่ทราบคู่กรณีและโดนทับซ้ำ มีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส บนถนนหมายเลข 3138 ฝั่งมุ่งหน้ามาบปู เลยทางกลับรถใกล้เคียงปั๊มคาลเท็กซ์ ประมาณ 500 เมตร ในพื้นที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีแดง ป้ายทะเบียน ชลบุรี ล้มอยู่ในสภาพพังเสียหาย ใกล้กันพบผู้บาดเจ็บ เป็นผู้ชาย 2 ราย นอนอยู่กลางถนน โดย ชายรายแรก ลักษณะถูกล้อรถไม่ทราบชนิดทับ ทำให้หมวกกันน็อคแตก ศีรษะแตก เสียชีวิตทันทีที่เกิดเหตุ

ส่วนรายที่ 2 มีแผลที่ศีรษะ เป็นแผลฉกรรจ์ หมดสติปลุกไม่ตื่น แต่ยังมีชีพจร ทางอาสาสมัครได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และประสานรถกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาลบ้านบึง ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านบึง


>> ลูกชายออกไปตัดไม้ ข้ามคืนไม่กลับบ้านและติดต่อไม่ได้ พ่อเดินออกตามหา กลับพบร่างลูกถูกไม้ล้มทับ เสียชีวิตกลางป่าชุมชน

10.00 น. สภ.ท่าวังผา ได้รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุนครน่าน 191 ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ว่ามีเหตุ มีชายถูกต้นไม้ล้มทับเสียชีวิต ที่บริเวณป่าชุมชน บ้านใหม่ ม.3 ต.จอมพระ อ.ท่าวังผา จ.น่าน

ในที่เกิดเหตุ บริเวณป่าท้ายในหมู่บ้านบ้านใหม่ ม.3 ต.จอมพระ อ.ท่าวังผา จ.น่าน พบร่างของนายคม (สงวนชื่อนามสกุล) อายุ 51 ปี หมู่ที่ 3 ต.จอมพระ อ.ท่าวังผา จ.น่าน สภาพศพ สวมเสื้อยืดคอกลมแขนยาวสีเขียว สวมกางเกง สีดำ นั่งคุกเข่าก้มหน้า ถูกต้นไม้ขนาด 1 คน โอบล้มทับเสียชีวิต โดยที่ญาติและชาวบ้านช่วยกันนำร่างออกมาแล้ว และพบว่าได้เสียชีวิต จึงนำผ้าสีขาวคลุมไว้ในที่เกิดเหตุ และโทรประสาน ศูนย์วิทยุ 191 ทราบ จนกระทั่งหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องได้มาช่วยกันตรวจสอบในที่เกิดเหตุ

จากการสอบถามนายสม (สงวนชื่อนามสกุล ) บิดาของผู้เสียชีวิต ทราบว่า เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 ว่านายคม ซึ่งเป็นลูกชาย ได้ออกมาตัดไม้แล้วไม่สามารถติดต่อได้จึงออกตามหา จนมาพบว่านายคม ถูกไม้ล้มทับเสียชีวิต

ตรวจชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น แพทย์ลงความเห็นว่า เสียชีวิตมากกว่า 24 ชั่วโมง หลังจากการตรวจชันสูตรพลิกศพแล้วและไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ จึงได้ทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุ วาดแผนที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพที่เกิดเหตุ ไว้เป็นหลักฐานและจะได้ทำการสอบสวนต่อไปจึงได้มอบศพให้ญาติจัดการต่อประเพณีต่อไป


>> นายกฯ หารือผู้บริหารบริษัท DKSH หาแนวทางร่วมมือ ขยายบทบาทไทยในภูมิภาค และช่วยเหลือประชาชนรากหญ้า

10.00 น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบหารือกับนาย Stefan P. Butz ผู้บริหารบริษัท DKSH Holding Ltd. โดยบริษัทฯ ขอบคุณรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนในไทย พร้อมเชื่อมั่นและสนับสนุนวิสัยทัศน์นายกฯ ที่กำหนดนโยบายที่เป็นประโยชน์และสอดคล้องกับกระแสการพัฒนาของโลกปัจจุบัน

ทั้งสองฝ่ายหารือถึงแนวทางการทำงานของบริษัทฯ ในอนาคต ซึ่งนายกฯ พร้อมให้การสนับสนุนลดขั้นตอน ข้อจำกัดในการขอใบอนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์ พร้อมเน้นย้ำการแก้ปัญหาการดำเนินงานที่ซับซ้อนของภาครัฐ และสานต่อนโยบายเอื้ออำนวยการทำธุรกิจมากขึ้น นอกจากนี้ได้หารือเรื่องการทำธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งรถยนต์ไฟฟ้าขนส่งสินค้า และการใช้ประโยชน์จากโครงการ Landbridge ยกระดับการขนส่งสินค้า โลจิสติกส์

โดยบริษัทฯ สนใจลงทุนด้านชิ้นส่วนของ semi-conductor ที่มีความเชี่ยวชาญ และตั้งอยู่ในไทยแล้ว ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมอนาคตที่รัฐบาลสนับสนุน นายกฯ ใช้โอกาสนี้ขอให้บริษัทฯ สนับสนุนสินค้าจากเกษตรกรไทยเพื่อส่งเสริมการยกระดับสินค้าไทย 
ทั้งนี้ ในช่วงเช้าก่อนการหารือนายกฯ ได้ใช้เวลาสำรวจตลาดนัดสินค้าเกษตรบริเวณหน้าโรงแรม ซึ่งเป็นสินค้าที่เกษตรกรนำมาจำหน่ายให้ผู้บริโภคโดยตรงโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง


>> จ.ปราจีนบุรี ส่งคณะทำงานลงพื้นที่ ทล.304 วิเคราะห์สาเหตุอุบัติเหตุ กรณีรถบัสโดยสารพลิกคว่ำ

11.00 น. นายสมใจ พุทธเสนา นายอำเภอนาดี พร้อมด้วยคณะทำงานด้านวิเคราะห์สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุทางถนน อันประกอบไปด้วย พ.ต.อ.ประสงค์ ศิริทิพย์วานิช รอง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี นายวิโรจน์ ล้อมวงษ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงปราจีนบุรี นายคลังวิชญ์ อุทัยเรือง ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทปราจีนบุรี นางสาวอุษา บุญบาล ขนส่งจังหวัดปราจีนบุรี นายแพทย์กฤษฎา จิตต์คำภา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนาดี และตัวแทนจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ร่วมวิเคราะห์สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุทางถนน กรณีอุบัติเหตุรถบัสโดยสารศึกษาดูงานของคณะเทศบาลตำบลพรเจริญ อำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ พลิกคว่ำบนถนนสาย 304 ณ จุดเกิดเหตุ บริเวณ กม. 210 + 600 ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อเก็บข้อมูลปัจจัยคน ถนน และยานพาหนะ ตลอดจนรวบรวมหลักฐานที่จำเป็นต่อการวิเคราะห์ สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ

และในช่วงเวลาต่อมา คณะทำงานได้ร่วมกันสรุปข้อมูล เพื่อจัดทำรายงานการวิเคราะห์ สรุปประเด็นและข้อเสนอเพื่อปรับปรุง แก้ไขปัญหา นำเสนอต่อผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ณ ห้องประชุมสถานีตำรวจภูธรวังขอนแดง ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี


>> เตือนประชาชน อย่าซื้อสลากผ่านตู้หวยทิพย์ ไม่มีสลากใบจริง ผิดทั้งกฎหมาย

11.49 น. นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดย สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ขอแจ้งเตือนประชาชน ให้ระมัดระวังการเลือกซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ผ่านตู้จำหน่ายสลากอัตโนมัติ อาจเข้าข่ายการเล่นการพนัน หรือ สนับสนุนให้มีการเล่นพนันได้ ทั้งนี้ กรมการปกครองได้ยืนยันว่า การจำหน่ายสลากโดยแพลตฟอร์ม ผ่านตู้จำหน่ายสลากอัตโนมัติ มีลักษณะเข้าข่ายกระทำผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 และ พ.ร.บ ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550

นายคารม กล่าวว่า การจำหน่ายสลากที่ไม่มีสลากใบจริงแก่ผู้บริโภค เป็นเพียงการซื้อขายตัวเลขโดยนำเลขบนสลากของผู้อื่นมากำหนดเป็นเลขสลากของตนเอง ให้ประชาชนเลือกซื้อต่ออีกทอดหนึ่ง โดยอ้างอิงผลการออกรางวัลของสำนักงานสลากฯ ในแต่ละงวด ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นการจัดให้มีการเล่นเพื่อประโยชน์แก่ผู้จัดเอง เข้าข่ายการเล่นการพนันสลากกินรวบ โดยไม่มีการขออนุญาตอย่างถูกต้อง ดังนั้น การนำสลากดิจิทัลมาขาย ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ และขายโดยไม่มีสลากฉบับจริง ถือเป็นความผิดตามมาตรา 12 (1) พ.ร.บ. การพนัน

นอกจากนี้ จากผลการตรวจสอบพบอีกว่า มีการโฆษณาแพลตฟอร์มตู้จำหน่ายสลากอัตโนมัติผ่านสื่อสังคมออนไลน์ทั้ง เฟซบุ๊ก ยูทูบ และติ๊กต๊อก โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน เป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 20 (3) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อีกด้วย


>> ตร.ขอหมายจับ 2 ผัวเมีย กุเรื่องไฟไหม้บ้าน เงิน 10 ล้านวอด

13.19 น. พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมพนักงานสอบสวน ลงพื้นที่เกิดเหตุบ้านพักกรมชลประทาน หลัง 2 ผัวเมียแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ห้องนอน แล้วเงินสด 10 ล้านบาท ถูกไฟไหม้ไปทั้งหมดในกองเพลิง

พ.ต.อ.พิสุทธิ์ กล่าวว่า วันนี้มาตรวจบ้านเกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดแล้วให้ทางพนักงานสอบสวนไปดำเนินขออำนาจศาลจังหวัดนนทบุรีออกหมายจับบุคคลในบ้าน 2 ราย คือ น.ส.เอ และ นายบี (นามสมมุติ) ในข้อหาวางเพลิง และแจ้งความเท็จ

หลังจากที่เมื่อวานนี้ ( 3 มี.ค.68) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เข้าไปดับไฟในบ้านมาสอบปากคำ โดยทั้งหมดได้ให้ปากคำสอดคล้องกันและชัดเจนมากขึ้น และเชื่อว่าไม่มีเงินจำนวน 10 ล้าน ถูกไฟเผาไหม้อยู่ในบ้านพักดังกล่าวตามที่ถูกกล่าวอ้าง 
ทั้งนี้ ภายในวันนี้ทางศาลจังหวัดนนทบุรีออกหมายจับ น.ส.เอ และ นายบี ทางตำรวจฝ่ายสืบสวนจะติดตามจับกุมทั้งสองคนในทันที ส่วนคดีเงิน 6.5 ล้านบาท ที่ตรวจพบในรถนั้น จะแยกออกเป็นอีกคดี เพราะต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินและบัญชีม้าควบคู่กันไปกับคดีหลักด้วย


>> ตำรวจจับกุม สาววัย 23 ปี ลอบขายบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองภูเก็ต

13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต นำโดย พ.ต.ต.เสกสิทธิ์ กุลเจริญ สว.ฯ พร้อมพวก ร่วมกันจับตัวผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย คือ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี ที่บริเวณถนนพัฒนา หล่อโรงตำบลตลาดเหนือ อำเภอเมืองภูเก็ต พร้อมยึดของกลางเป็นน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแบบเปลี่ยนหัว บรรจุถุงกระดาษสีน้ำตาล จำนวน 1 หัว (ได้จากคนส่งสิ้นค้า)เครื่องและหัวบุหรี่ไฟฟ้ารวม จำนวน 277 รายการ

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม แจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิด “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ด้วยประการ ใด ซึ่งของที่รู้ว่านำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลีกเลี่ยงอากรข้อห้าม หรือข้อจำกัด อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร 2560 มาตรา 246 และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการที่ 24/2567 เรื่อง ห้ามผลิตเพื่อขาย ห้ามขายหรือให้บริการสินค้า "บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562 มาตรา 29/9 วรรค 2 และมาตรา 56/4 นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


>> "วราวุธ" กำชับ ทีม ศรส.-พม. ร้อยเอ็ด เร่งช่วยปู่ย่า จัดสวัสดิการสังคม เลี้ยงดูหลานเล็ก 3 คน

13.40 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวง พม. รายงานกรณี ปู่ย่าประกาศตามหาลูกสะใภ้ ภายหลังหนีออกจากบ้านโดยที่ทิ้งลูกเล็ก 3 คน ไว้ให้เลี้ยงที่จังหวัดร้อยเอ็ด ว่า ทีม ศรส. และ พม.หนึ่งเดียวจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกับปลัดอำเภอ ผู้นำชุมชน และครู ได้ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อพูดคุยสอบถามข้อเท็จจริง และให้การช่วยเหลือด้านสิทธิสวัสดิการสังคมตามภารกิจของกระทรวง พม. พบว่า ปู่ย่า อายุ 65 ปี มีภาระต้องเลี้ยงดูหลาน 3 คน คนโตอายุ 11 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.5 คนที่สอง อายุ 6 ปี เรียนอยู่ชั้นอนุบาล และคนที่สาม อายุ 4 ปี มีความพิการพูดไม่ได้ และเนื่องจากลูกชายต้องไปทำงานต่างจังหวัด ส่วนลูกสะใภ้ได้หายออกไปจากบ้านเมื่อเดือนธันวาคม 2567 ไม่สามารถติดต่อได้ แต่เพิ่งมาติดต่อได้เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 68 ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ปู่ย่าโทรไปหาลูกสะใภ้ แต่ไม่ยอมรับและตัดสายทิ้ง ทำให้ปู่ย่าต้องดูแลหลานๆ ทั้ง 3 คน ซึ่งสุขภาพของย่าตอนนี้ป่วยไม่สบาย และเลี้ยงหลานไม่ไหว จึงอยากให้ลูกสะใภ้กลับมาบ้านช่วยดูแลหลานๆ

ทีม ศรส. และ พม.หนึ่งเดียว จังหวัดร้อยเอ็ด ได้พูดคุยให้กำลังใจ พร้อมทั้งช่วยเหลือด้านสวัสดิการสังคมเป็นเงินช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน และวางแผนการช่วยเหลือต่างๆ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ อีกทั้งประสานกับอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) และผู้ช่วยคนพิการในชุมชน ช่วยดูแลติดตามอย่างใกล้ชิด


>> อย.เตรียมควบคุม ยาเขียวเหลือง ให้สั่งจ่ายโดยแพทย์ในสถานพยาบาลเท่านั้น

14.43 น. นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เผยถึงกรณีที่นายกสมาคมร้านขายยา ออกจดหมายเปิดผนึก ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เลขาธิการ อย. และ ผู้เกี่ยวข้องขอคัดค้านการยกระดับยาทรามาดอล ให้สามารถสั่งจ่ายได้เฉพาะแพทย์ในสถานพยาบาล ว่า สำหรับยาทรามาดอล เป็นยาแก้ปวดชนิดหนึ่ง ที่เดิมทีนั้นมีการอนุญาตให้จำหน่ายในร้านขายยาที่ได้รับการขึ้นทะเบียน (ขย.1) โดยกำหนดให้จำหน่ายได้ไม่เกินครั้งละ 20 เม็ด ร้านขายยาต้องทำรายงานการสั่งจ่ายยา และต้องจำหน่ายโดยเภสัชกรประจำร้านขายยาเท่านั้น แต่ที่ผ่านมาพบว่ามีการนำยาแก้ปวดชนิดดังกล่าวไปใช้ในทางที่ผิด ลักลอบขายในร้านที่ไม่มีเภสัชกร ตลอดจนลักลอบผลิตยาปลอมออกมาขาย เพื่อหวังผลนำไปประกอบเป็นยาเสพติดอื่น

ดังนั้น ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างการรับฟังความเห็น จนถึงวันที่ 6 มี.ค. นี้ว่า ในการออกเป็นประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยาควบคุมพิเศษ ฉบับที่…(ยาทรามาดอล tramadol ตำรับยาเดี่ยว ชนิดรับประทาน) โดยเปิดรับฟังความคิดเห็นผ่าน เว็บไซต์ระบบกลางทางกฎหมาย และเพื่อควบคุมไม่ให้นำไปใช้ในทางที่ผิด ส่วนผู้ที่จำเป็นต้องใช้ยาดังกล่าวนั้น ก็ยังสามารถไปรับได้ที่ รพ. โดยเฉพาะผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้ยาลดอาการปวดจากการรักษาโรค ส่วนคนที่ต้องกินยาแก้ปวดชนิดที่ไม่สามารถหาซื้อได้ตามปกติ ก็จะเป็นการป้องกันการเข้าถึงยาที่ไม่จำเป็นด้วย


>> สืบภาค 1 ลุยจับร้านขายน้ำท่อม-บุหรี่ไฟฟ้า ยึดของกลางกว่า 2,000 รายการ จ.นนทบุรี

15.00 น. พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 , พ.ต.อ.พูนสุข เตชะประเสริฐพร ผกก.1 บก.สส.ภ.1 นำกำลังตำรวจสืบสวนภาค 1 พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 168/2568 เข้าตรวจค้นบ้านพัก ภายในซอยวัดเฉลิมพระเกียรติ ต.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี หลังสืบทราบว่าเป็นแหล่งผลิตน้ำกระท่อมและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้วัยรุ่นในพื้นที่

ขณะเข้าตรวจค้นพบว่าเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี แสดงตัวเป็นผู้ดูแล และคนงานชาวลาว 3 คน จากการตรวจค้นพบน้ำกระท่อม 310 ขวด แช่อยู่ในตู้เย็นและถังน้ำแข็งขนาดใหญ่ ยาแก้ไอชนิดน้ำใช้ผสมน้ำกระท่อม จำนวน 614 ขวด ขวดเปล่ายาแก้ไอ จำนวน 54 ขวด อุปกรณ์ต้มน้ำกระท่อม 1,037 ชิ้น

นอกจากนี้ ภายในบ้านพบบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 1,095 ชิ้น ส่วนข้างบ้านเป็นที่ต้มและบรรจุน้ำกระท่อม มีเตาและหม้อต้มใบกระท่อมหลายใบ ขวดพลาสติกใช้บรรจุน้ำกระท่อมจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดของกลางไว้ทั้งหมด

จากการสอบสวนนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ให้การว่า ตนไม่ได้เป็นเจ้าของ แค่รับจ้างดูแลและขายน้ำกระท่อมให้ลูกค้า ส่วนบุหรี่ไฟฟ้าเจ้าของนำมาเก็บไว้ไม่ได้ขาย ตนมาทำงานประมาณ 1 ปี ได้ค่าจ้างวันละ 600 บาท ส่วนคนงานชาวลาว 2 คน ทำหน้าที่ต้มและบรรจุน้ำกระท่อม ได้ค่าจ้างวันละ 300 บาท และชาวลาวอีกคนเป็นแม่บ้าน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวตได้ตรวจยึดของกลางและควบคุมตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยหลังจากนี้จะทำการสืบสวนขยายผลว่าเจ้าของเป็นใคร เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามความผิด พ.ร.บ.ศุลกากร


>> สาวกัมพูชาเดินเก็บสะเดา ขากลับพลาดแท่งปูนคอนกรีต ล้มทับข้อเท้าข้างซ้ายขาด บาดเจ็บอาการสาหัส

15.00 น. ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รับแจ้งเหตุว่ามีแท่งแบริเออร์คอนกรีตขนาดใหญ่ หล่นทับขาหญิงสาวชาวกัมพูชา เหตุเกิดบริเวณริมถนนสุขุมวิท - พัทยา ใกล้เคียง ซอย 3 ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุ บริเวณทางเท้า พบแบริเออร์คอนกรีตขนาดใหญ่ ทับช่วงข้อเท้าข้างซ้าย ตรวจสอบเอกสาร เป็นผู้หญิง อายุ 38 ปี สัญชาติกัมพูชา นอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด จนท.จึงประสานรถ 6 ล้อติดเครน ของชาวบ้านที่อยู่บริเวณดังกล่าวยกแท่งปูนคอนกรีตขึ้นมา พบว่าข้อเท้าของคนเจ็บถูกแรงกดทับจนขาด จึงปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนรีบนำตัวส่งยังโรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ โดยตัวลูกสาวคนเจ็บ รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแม่ตัวเอง ต่อหน้าต่อตา ยืนร่ำไห้อยู่ในอาการสติแตก

จากการสอบถาม ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ผู้บาดเจ็บกำลังไปเก็บใบสะเดา เพื่อนำมาทำอาหารเย็นให้ลูกกิน แต่ปรากฏว่าขณะที่กำลังเดินกลับออกมา และขึ้นเหยียบบนแบริเออร์คอนกรีต ทำให้ล้มทับข้อเท้าดังกล่าว ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ตกใจอย่างมาก ทำอะไรไม่ถูกจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือดังกล่าว

ขณะที่ ชาวบ้านเปิดเผยเพิ่มเติมว่าแท่งปูนแบริเออร์ขนาดใหญ่ ถูกนำมาวางไว้นานร่วมปี เพราะเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ใช้เป็นเหมือนกำแพงกั้นพื้นที่ ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเลย


>> กองกำลังสุรนารี ตรวจยึดยาบ้า 1.96 แสนเม็ด พร้อมผู้ต้องหา 1 ราย

16.39 น. ผู้สื่อข่าวรานงาน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) เปิดเผยว่ากองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) โดยบก.ควบคุมที่ 4 นบ.ยส.24 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการกระทำผิด พ.ร.บ.ยาเสพติด ในพื้นที่ อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ โดยมีการลำเลียงยาเสพติดแบบกองทัพมด เข้ามายังพื้นที่ชั้นใน จึงได้สั่งการให้จัดกำลังตามแผนปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ของรัฐบาล seal พื้นที่ชายแดน stop หยุดวงจรการค้ายา safe สร้างพื้นที่ปลอดภัย

ซึ่งเป็นแผนเร่งด่วนของรัฐบาล โดย กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 13 (ร้อย.ฉก.ทพ.23) บูรณาการร่วมกับ สภ.ชานุมาน, ร้อย.ฉก.ตชด.227, นรข.เขต อุบลราชธานี และ ฝ่ายปกครอง อ.ชานุมาน ทำการซุ่มเฝ้าตรวจสกัดจับบนถนน หมายเลข 2034 (บ.โคกสาร - บ.คันสูง) บริเวณสะพานคลองหินปูน บ.โคกสาร ต.โคกสาร อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ สามารถจับกุม ชาย อายุ 26 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 1 กระสอบ ประมาณ 196,000 เม็ด ทางหน่วยได้นำ ผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งมอบให้สภ.ชานุมาน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


>> ไทยสั่งตรึงกำลังเข้ม หลังกะเหรี่ยง KNLA ใช้โดรนทิ้งระเบิดใส่ฐานทหารเมียนมา

17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านตรงข้ามจังหวัดตาก ห่างจากชายแดนไทยที่มีแม่น้ำเมยเป็นเส้นกั้นเขตแดนไปประมาณ 800 เมตร ยังคงมีการสู้รบกันอย่างต่อเนื่องโดยกองกำลังกะเหรี่ยง KNLA ใช้โดรนโจมตีทิ้งระเบิดใส่ทหารเมียนมาฐานปูลูตู่ อย่างหนัก หวังยึดฐานให้ได้ ฝ่ายทหารเมียนมายังไม่ยอมแพ้ ใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดป้องกันฐานและส่งกำลังทางอากาศโดยการทิ้งจากร่ม

จากสถานการณ์การสู้รบที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ทหารไทย หน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ฉก.ราชมนู), หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 (ฉก.ทพ.35), ตำรวจตระเวนชายแดน 34 (ตชด.34) กองกำลังนเรศวร (กกล.นเรศวร) ยังคงตรึงกำลังอย่างเข้มข้นบริเวณแนวชายแดน เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับพี่น้องประชาชน และป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ โดยมีผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา (ผภร.) อพยพเข้ามาเพิ่มอีก รวมแล้วเกือบ 1,000 คน

รายงานข่าวแจ้งว่า จากสถานการณ์การสู้รบดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา (ผภร.) จากประเทศเมียนมาข้ามมาฝั่งไทย อยู่พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านหนองบัว ต.แม่อุสุ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก จำนวน 467 ราย และอพยพข้ามแดนเพิ่มเติม มาอยู่ในพื้นที่ด้านหลังถ้ำแม่อุสุ จำนวนหลายร้อยคน เจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบและจัดระเบียบ โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยดูแลความปลอดภัยและให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม


>> ภรรยาหยิบปืนยิงอกตัวเองดับ สามีงงไร้สาเหตุ เผยพึ่งจะทำกับข้าวกินด้วยกันเมื่อตอนเย็น ตร.สอบสวนหาสาเหตุ

20.30 น. สภ.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี รับแจ้งมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต ภายในบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่บริเวณชั้นล่างประตูทางเข้าห้องครัว พบร่างของผู้เสียชีวิต เป็นหญิงไทย อายุ 51 ปี สภาพศพมีรอยกระสุนเข้าที่อกด้านซ้ายทะลุออกชายโครงซ้าย บริเวณที่พบศพมีรอยเลือดกระจายอยู่เต็มพื้น ใกล้กันพบอาวุธปืนขนาด 9 มม.ภายในแม็กกาซีนพบปลอกกระสุนที่ยิงแล้ว 1 ปลอก วางอยู่บนโต๊ะ เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบ

สอบถาม ชายไทย อายุ 48 ปี เป็นสามีของผู้ตาย เล่าว่า ตอน 4 โมงเย็นตนกับผู้ตายยังทำกับข้าวอยู่ด้วยกัน ขณะที่ทำกับข้าวได้ให้ลูกชายขับรถออกไปเพราะตนเรียกลูกสาวอีกคนมาทำบัญชีให้เพราะว่าจะส่งงาน ตนยังเดินเข้าไปหยิบไข่มาทอดกินแล้วถามว่าลูกไปไหน เขาบอกว่าให้ลูกไปซื้อกับข้าว ตนบอกว่าไปซื้อทำไมเราก็ทำกับข้าวแล้วนี่ เขาบอกว่ากับข้าวพ่อ (สามี) มีแล้ว แต่ว่าเด็กๆ อยากกินอะไรก็ให้มันไปซื้อ ตนก็ไม่ได้เอะใจ ออกมานั่งดื่มเหล้าที่ด้านนอกบ้าน แล้วก็เห็นเขาเดินไปที่รถเพราะตนเคยบอกว่า เก็บปืนไว้ที่รถ เขาก็เอาปืนออกมาแล้วก็เดินมาโดยใช้นิ้วสอดเข้าไปในโก่งไกปืน แล้วเดินเข้าไปในบ้าน ตนก็บอกว่าเธอถือแบบนั้นได้ไง โครงการเขามีกล้อง เขาก็บอกว่าทีตัวเองยังยิงเล่นได้เลย จากนั้นตนก็เดินไปเข้าห้องน้ำ

หลังจากที่เดินออกมากำลังใส่รองเท้าก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ก็เลยวิ่งเข้าไปดูเห็นเขาล้มลงไปแล้ว ตนก็อุ้มเขาขึ้นมาถามว่าทำแบบนี้ทำไม จากนั้นก็ตะโกนเรียกลูกสาวที่อยู่บนบ้านให้โทรหาลูกชายให้แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมารับไปส่ง รพ. ระหว่างนั้นตนกับลูกชายก็พยายามจะอุ้มเขามาขึ้นรถแต่ก็อุ้มกันไม่ไหว เพราะมันลื่นรอยเลือด แล้วลูกสาวที่อยู่แจ้งว่ารถกู้ภัยกำลังมา ตนก็เลยกอดเขาไว้แล้วบอกว่าให้เขาลืมตา เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็พยายามช่วยปั้มหัวใจแต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตเขาไว้ได้ ส่วนรอยเลือดที่อยู่หน้าบ้านก็เป็นของลูกขายเพราะตนบอกเขาให้มาล้างเลือดที่หน้าบ้าน

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้แพทย์ทำการตรวจรอยคราบเขม่าดินปืนของคนที่อยู่ในบ้านทั้งหมดเพื่อนำไปตรวจหาดีเอ็นเอ และได้เชิญตัวสามี ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก ก่อนมอบร่างผู้เสียชีวิตให้อาสาสมัครกู้ภัยร่วมกตัญญู นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อชันสูตรการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง


>> ปฏิบัติการดับไฟป่า "แม่ธิ แม่สาร แม่ตีบ" ล่าสุดยังไม่สงบ เหลืออีก 10 %

20.51 น. ปฏิบัติการดับไฟป่า พื้นที่ป่าสงวน แม่ธิ แม่สาร แม่ตีบ ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องข้ามวัน ล่าสุด สถานการณ์ยังไม่สงบเหลืออีกประมาณ 10% ของพื้นที่ความเสียหาย

ผลการปฏิบัติงานดับไฟป่า ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 18.00 น. วันนี้ (4 มี.ค. 68) นำโดยนายอำเภอเมืองลำพูน นายกเทศมนตรีตำบลศรีบัวบาน เจ้าหน้าที่งานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลศรีบัวบาน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครป้องกันไฟป่าประจำหมู่บ้าน หน่วยดับไฟป่าศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หน่วยป้องการรักษาป่า ที่ ลพ.1 ปภ.จ.ลำพูน ชลประทาน และ ทส.จ.ลำพูน ระงับเหตุด้วยเฮลิคอปเตอร์ของกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมนักบินจำนวน 3 นาย รวมผู้ปฏิบัติหน้าที่จำนวน 30 นาย ปฏิบัติหน้าที่จำนวน 50 เที่ยว ใช้ปริมาณน้ำ 25,000 ลิตร ควบคุมพื้นที่ได้ 1,500 ไร่ เป็นพื้นที่ 90% ของความเสียหาย ในขณะนี้สถานการณ์ยังไม่สงบ และจะดำเนินการตรวจสอบในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้(5 มี.ค. 68) ต่อไป


>> ร่างชายเสียชีวิตในพงหญ้าริมทางรถไฟ ระหว่างสถานีตลิ่งชัน - บางบำหรุ เจ้าหน้าที่คาดถูกรถไฟเฉี่ยวชน

23.50 รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตรวจสอบเหตุบุคคลถูกรถไฟเฉี่ยวชนได้รับบาดเจ็บ บริเวณริมทางรถไฟ ช่วงระหว่างสถานีตลิ่งชัน - สถานีบางบำหรุ ในพื้นที่เขตตลิ่งชัน กทม.

ที่เกิดเหตุ บริเวณพงหญ้าข้างทางรถไฟ พบร่างผู้เสียชีวิต ชาย 1 รายอายุประมาณ 45 - 50 ปี ลักษณะถูกรถไฟเฉี่ยวชน เสียชีวิตในสภาพนอนตะแคง มีแผลเปิดเลือดไหลที่บริเวณศีรษะ ในส่วนของรายละเอียดอยู่ระหว่างตรวจสอบ พื้นที่ สน.ตลิ่งชัน

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน เพิ่มเติมว่า เบื้องต้นจากการสอบถาม พนักงานขับรถไฟ ให้การกับทางเจ้าหน้าที่ว่า ในขณะที่ตนขับรถไฟออกมาจากสถานีตลิ่งชัน มุ่งหน้าสถานีบางบำหรุ ได้เห็นผู้เสียชีวิต เดินอยู่ริมทางรถไฟฝั่งขวาในระยะกระชั้นชิด ทำให้ไม่สามารถทำการหยุดห้ามล้อรถไฟได้ทัน จึงได้เกิดการชนเกิดขึ้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นอยู่ระหว่างรอร้อยเวรเจ้าของคดี และแพทย์เวรร่วมชันสูตรที่เกิดเหตุต่อไป  
 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ