สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ได้รับการประสานจากศูนย์แจ้งเบาะแสยาเสพติด ปปส.1386 ว่าในพื้นที่ย่านชุมชนสังคมสงเคราะห์30 เขตลาดพร้าว มีวัยรุ่นชอบมั่วสุมยาเสพติด และมีการจำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้าทั่วไปในชุมชน วิ่งเข้าวิ่งออกตลอดเวลา แทบทุกวัน สร้างความเดือดร้อนกับคนในชุมชนและเป็นภัยต่อสังคมอย่างมาก

ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2567 ตำรวจได้สนธิกำลังร่วมกันจับกุมตัว

1. นาย เลี้ยบ อายุ 43 ปี

2.นางสาว เอ้ อายุ 31 ปี

3.นางสาว เอิร์น อายุ 32 ปี

4.นายตึก อายุ 26 ปี

พร้อมของกลางยาไอซ์ ชนิดเกล็ดสีขาว จำนวนนึง ,ยาอี ชนิดแบบผง บรรจุในซองสีน้ำตาล จำนวน 5 ซอง น้ำหนักรวมซอง 5 ซองประมาณ 120.4 กรัม,หัวพ็อตเค จำนวน 47,เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล2เครื่อง,โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันพยายามจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท1 ( เมทแอมเฟตามีน หรือ ไอซ์ ) โดยผิดกฎหมาย และ ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท1 ( เมทแอมเฟตามีน หรือ ไอซ์ ) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ” โดยจับกุมได้ที่บริเวณลานจอด ซอยโชคชัย4 ซ.39 แยก 3 เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร และหน้าบ้านซอยสังคมสงเคราะห์ 30 เขตลาดพร้าว ,สวนหลังบ้าน ซอยสังคมสงเคราะห์ 30 เขตลาดพร้าว และ หน้าห้องฉุกเฉิน รพ. ถ. สามเสน เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น.ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดข้อหาร้ายแรง จำนวนหลายคดีอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่กรุงเทพมหานครตามนโยบายของรัฐบาล จึงได้สืบสวนขยายผลเรื่อยมา จนทราบว่ามีการลับลอบจำหน่ายยาเสพติดบริเวณ ซอยโชคชัย4 ซอย39 เเยก3 กรุงเทพฯ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้สั่งการให้นำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พบผู้ต้องหาขี่ซ้อนรถจักรยานยนต์ เข้ามาภายในซอยโชคชัย4 ซอย39 เเยก3 ท่าทางมีพิรุธ จึงได้เเสดงตัวเข้าตรวจสอบพบยาไอซ์ จึงได้นำตัวผู้ต้องหา ไปนำค้นภายใน บ้านพักซอยสังคมสงเคราะห์30 พบนายตึก เเละน.ส.เอิร์น อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว ขณะที่จะเข้าบ้านน.ส.เอิร์น กระโดดหนีจากชั้น 2 ได้รับบาดเจ็บ ต่อมาขณะพาตัว น.ส.เอิร์นไปตรวจรักษาที่ รพ. พบว่ามียาเสพติดหล่นออกมาจากตัวอีก

จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ รับว่า ยาเสพติดดังกล่าวเป็นของตน จริง จากนั้นจึงนำตัวมาทำบันทึกจับกุม และ ควบคุมตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป