หน้าแรก > ภูมิภาค

ลมพายุพัดเมืองตราด อาคารพาณิชย์กันสาดพัง ทับรถจักรยานยนต์จมใต้ซากพังเสียหาย โชคดีไร้คนเจ็บ กู้ภัยเร่งอพยพชาวบ้าน-คนป่วยฉุกเฉิน

วันที่ 24 กรกฎาคม 2567 เวลา 04:37 น.


ลมพายุพัดเมืองตราด อาคารพาณิชย์กันสาดพัง ทับรถจักรยานยนต์จมใต้ซากพังเสียหาย โชคดีไร้คนเจ็บ กู้ภัยเร่งอพยพชาวบ้าน-คนป่วยฉุกเฉิน

เมื่อเวลา 21.05 น. วันที่ 23 กรกฎาคม 2567 พ.ต.ท.หญิง ปิยาอร คำหวาน สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองตราด ได้รับแจ้งเกิดเหตุหลังคาตึกถล่ม ริมถนนพัฒนาการปลายคลอง ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถานตราด โดยมีนายสุรศักดิ์ ภูติภัทร์ นายกเทศมนตรีเมืองตราด ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ

มาถึงที่เกิดเหตุเป็นตึกแถว 2 ชั้น ที่ตึกเลขที่ 92 พบว่าทั้งหลังคาเมทัลชีทและตัวระเบียงของตึกถล่มลงมาทั้ง 3 คูหา และเลขที่ 94 หลังคาพังลงมาอีก 1 คูหา ตรวจสอบพบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ถูกหลังคาถล่มใส่จมอยู่ใต้ซากพังเสียหาย 1 คัน และรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า พังเสียหายเล็กน้อยอีก 1 คัน ทราบชื่อเจ้าของตึกเลขที่ 92 ว่านางสาวกนกวรรณ อายุ 42 ปี ส่วนตึกเลขที่ 94 เป็นของนายธานี อายุ 53 ปี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้อพยพชาวบ้านและคนป่วยออกจากตึก เพราะสภาพตึกเป็นตึกเก่ากว่า 20 ปี และก่อสร้างติดกันทั้ง 12 คูหา เกรงว่าจะเกิดอันตรายได้

สอบถามนางสาวกนกวรณ บอกว่าปกติตนจะพักอาศัยที่ตึกนี้กับแฟนและน้องชาย แต่วันนี้ชวนกันไปนอนอีกที่หนึ่ง จึงไม่มีใครอยู่ตอนที่เกิดเหตุ ก่อนจะมาทราบข่าวจากลูกชายโทรศัพท์มาบอกว่าหลังคาตึกถล่มจึงรีบมาดู ซึ่งตึกนี้มีรอยร้าวเล็กน้อยตามกาลเวลา เพราะก่อสร้างมานานกว่า 20 ปี แล้ว ซึ่งตนก็เพิ่งประสบภัยน้ำท่วมไปยังไม่ทันแห้งดี ต้องมาเจอเหตุการณ์นี้อีก ก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อไป

ด้านนายธานี บอกว่าก่อนเกิดเหตุมีพายุพัดมาแรงมาก ก่อนจะได้ยินเสียงถล่ม จึงออกมาดูพบว่าตึกข้างๆหลังคาถล่มลงมาทั้งแถบ และของตนก็พังเสียหายด้วยอีก 1 คูหา ตนจึงรีบตัดกระแสไฟฟ้า ส่วนความเสียหายอื่นๆเป็นรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้หน้าบ้านพังเสียหายเล็กน้อย 1 คัน

ข้อมูล/จาก/ตราดโพสต์ นิวส์
ภาพ/จาก/ตราดทีวี

 

ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ