24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 5 พฤษภาคม 2567
>> พบร่างชายดับปริศนา หลังเพลิงลุกไหม้รถยนต์วอดทั้งคัน
07.30 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ จ.กาญจนบุรี ตรวจสอบเหตุมีผู้เสียชีวิตในรถยนต์ ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง บริเวณหน้าสุสานวังหีบเขาน้อย ม.1 ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
ที่เกิดเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิต เป็นชายไทย อายุ 35 ปี ภูมิลำเนาชาว อ.บางแพ จ.ราชบุรีนอนแน่นิ่งอยู่ที่เบาะคนขับ ภายในรถนั่งส่วนบุคคล ฮอนด้า ซิตี้ สีเทา ป้ายทะเบียน ราชบุรี และพบบาดแผลฉกรรจ์ที่ลำคอ ยังไม่ทราบว่าเกิดจากวัตถุสิ่งใด
ขณะที่จะมีการตรวจสอบเพิ่มเติม และรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าสนับสนุนในที่เกิดเหตุ มีเสียงระเบิดดังและมีเพลิงลุกไหม้รถยนต์ จึงต้องประสานรถดับเพลิงเข้าระงับเพลิงไฟอย่างเร่งด่วน ใช้เวลาไม่นานนักก็สามารถดับเพลิงไฟไว้ได้ จากการตรวจสอบเพิ่มเติม ภายในรถพบ มีดคัตเตอร์ 1 อัน และภาชนะ คล้ายจะเป็นถาดเหล็ก 1 อันอยู่ภายในรถด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าม่วง คาดว่าผู้เสียชีวิตน่าจะจบชีวิตตัวเอง เนื่องจากพบหลักฐานอยู่ด้านหลัง แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ทิ้งประเด็นอื่น ๆ แต่จะต้องรอผลพิสูจน์จากสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ออกมาเสียก่อน จึงจะทราบได้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่ คาดว่าอีกไม่นานก็คงจะทราบ
>> จับเพิ่มอีกหนึ่ง สาววัย 34 ปี ชี้เป้าให้แก๊งตำรวจนอกรีต อุ้มรีดทรัพย์คนจีน 2.5 ล้าน
10.12 น. พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนคนบาล ได้รับรายงานจากชุดสืบสวนนครบาล ว่าได้ร่วมกันจับ น.ส.เนตร (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ชาวสุราษฎร์ธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 4 พ.ค.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันกรรโชกทรัพย์, ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงานฯ, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง หรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือยอมจำนนต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สิน
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การว่า ยอมรับว่า เป็นลูกน้องของ “จ่าแจ็ค” หรือ จ.ส.ต.วีรยุทธ ซึ่งหลังจากได้รับการติดต่อจากกลุ่มผู้เสียหายชาวจีน จะเตรียมเครื่องรูดบัตรเพื่อไปพบกลุ่มผู้เสียหาย ก่อนได้แจ้งให้จ่าแจ็ค ทราบ และมีการวางแผนในการก่อเหตุ โดยบอกตนเองว่าจะได้ค่าตอบแทนที่สูงจึงตัดสินใจร่วมกระบวนการดังกล่าว
พฤติการณ์คือ น.ส.เนตร (นามสมมุตติ) จะถูกทำทีถูกจับตัวเช่นเดียวกัน เพื่อให้กลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อ โดยขึ้นรถยนต์คันที่ ส.ต.อ.ภูวเดช เป็นผู้ขับขี่ เมื่อได้เงินจากผู้เสียหายแล้วจ่าแจ๊ค จะสั่งให้แยกตัวออกไปรอที่ รร.แห่งหนึ่งใน ซ.วิภาวดี 60 ร่วมนายนภสินธุ์ และ ส.ต.อ.ภูวเดช ต่อมาหลังร่วมกันก่อเหตุสำเร็จ น.ส.เนตร (นามสมมุตติ) ได้รับโอนเงินเข้ามาในบัญชี 350,000 บาท จากนั้นได้โอนต่อให้นายนภสินธุ์ ไป 40,000 บาท
>> ชาวระยอง ผวา ขุดบ่อดินเพื่อชะล้างกากสารเคมี เจอน้ำปนเปื้อน จนท.เร่งตรวจสอบ
11.00 น. นายภาราดร ชนะสุนทร ประธานเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ อบจ.ระยอง ได้นำรถแบคโฮ และเครื่องจักร เร่งขุดบ่อข้างโกดังที่ 5 ของโรงงานเก็บกากสารเคมีวินโพรเสส ม.4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ที่ถูกไฟไหม้วอดทั้งโรงงาน เมื่อมีการขุดดินลงไปลึกประมาณ 5 เมตร พบสารเคมีซึมออกมาใต้ดินมีลักษณะสีดำเข้ม มีกลิ่นเหม็นรุนแรง แสบจมูก คาดว่าเป็นสารเคมีจากโรงงานดังกล่าวที่ซึมใต้ดินสะสมมานานแล้ว เบื้องต้นอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบด้วย ว่าเป็นสารอันตรายชนิดใด เนื่องจากเป็นอันตรายต่อชาวบ้านและสิ่งแวดล้อม
ด้าน นายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง เปิดเผยว่า วันนี้ อบจ.ระยอง กำลังเร่งขุดบ่อดักสารเคมีเข้มข้นจากการชะล้างดับเพลิงหลังเกิดเพลิงไหม้ของโรงงานวินโพรเสส ซึ่งขุดในพื้นของโรงงานประมาณ 3 ไร่ น้ำเสียจากโรงงานจะไหลลงมาที่บ่อนี้ก่อน เป็นบ่อดักตะกอนสารเคมีเข้มข้น ก่อนน้ำจะล้นบ่อลงไปยังบ่อน้ำเสียเดิมที่ต่ำลงไป เป็นบ่อเก็บกักน้ำเสียเดิมของโรงงานมีอยู่ 3 บ่อ ซึ่งก็จะเอาดินจากขุดไปเสริมคันดินทั้ง 3 บ่อให้สูงขึ้นแล้วปูผ้าใบรองพื้น ป้องกันสารเคมีซึมใต้ดิน และไหลลงลำรางสาธารณะกระทบชาวบ้าน ทั้งนี้ บ่อดังกล่าวสามารถรับน้ำได้ประมาณ 140,000 คิว ซึ่งจากขุดลงลึกลงไปประมาณ 5 เมตร เจอน้ำซึมใต้ดินออกมีลักษณะสีดำเข้ม กลิ่นเหม็นคล้ายน้ำมันเครื่องรุนแรง ซึ่งคาดว่าจะขุดให้ลึกลงไปประมาณ 10 เมตร เพื่อรองรับน้ำจากการชะล้างในโรงงาน และฝนตกอีกรวม 3-4 บ่อนี้ จะรับน้ำได้ประมาณ 250,000 คิว โดยจะเร่งขุดให้เสร็จภายใน 4 วันนี้ให้ทัน ที่จะมาถึงนี้
>> พบศพทารก ถูกทิ้งในถังขยะ กลางซอยกรุงเทพกรีฑา 8
12.38 น. เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู รับแจ้งจาก สน.ประเวศ มีเหตุพบศพเด็กทารกถูกนำมาทิ้งถังขยะ ในห้องน้ำแบบหยอดเหรียญ ศูนย์อาหารแห่งหนึ่ง กลาง ซอยกรุงเทพกรีฑา 8
จึงเดินทางไปร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ พบศพทารก เพศชาย อายุในครรภ์ ประมาณ 9 เดือน สภาพสมบูรณ์ แต่เจ้าหน้าที่ต้องตกตะลึง เพราะในปากและจมูกของทารก มีกระดาษทิชชูอุดอยู่
เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สน.ประเวศ และ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ตรวจเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ และส่งร่างทารก ไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดต่อไป
>> นายกฯ ย้ำ บูรณาการบริหารจัดการน้ำ จ.ร้อยเอ็ด ให้เพียงพอ หนุนพัฒนาข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้สู่ตลาดโลก
14.10 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ติดตามประเด็นการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ณ วัดกู่พระโกนา ตำบลสระคู อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด
นายกฯ กล่าวว่า การเพาะปลูกเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับปากท้องของพี่น้องประชาชนทุกคน จึงได้สั่งให้เร่งพิจารณาโครงการและความเร่งด่วนในการพัฒนาชลประทานทั้งระบบในจังหวัดร้อยเอ็ด รวมถึงการวางแผนการบริหารจัดการน้ำระยะยาวสำหรับโครงการที่อยู่นอกแผนของกรมชลประทาน ให้ดูถึงความเหมาะสม เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน
สั่ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูแลเกษตรกรพัฒนาการปลูกข้าวหอมมะลิ ให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้นไปอีกในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ เพิ่มผลผลิตยกระดับรายได้ขึ้นไปอีก
พัฒนาระบบการจัดการที่ดินและน้ำ ให้เหมาะสมกับการปลูกข้าวหอมมะลิ รักษาคุณภาพผลผลิตได้ตลอดปี ส่วนการจำหน่ายให้ทำแผนการตลาดส่งเสริมการขายข้าวหอมมะลิไปตลาดโลก ส่งเสริมการแปรรูป การผลิตสินค้าคุณภาพ เพื่อสร้างแหล่งรายได้เสริมเพิ่มเติมให้เกษตรกร
>> ตร.หนองปรือ ทลายแก๊งโจรกรรมรถมอไซค์ คนรับซื้อส่งขายต่างด้าว ผู้เสียหายโผล่ชี้ตัวชิงทรัพย์
14.36 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.หนองปรือ ควบคุมตัวขบวนการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ คนรับซื้อ ขายทอดตลาด ได้ผู้กระทำผิด 4 ราย พร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ จำนวน 14 คัน และอะไหล่ที่ถูกชำแหละแล้วจำนวนมาก
สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายม่อน อายุ 22 ปี ในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เมื่อตรวจสอบพบว่า มีประวัติพัวพันการโจรกรรมรถ ส่งขายทอดตลาด ประกอบกับมีการส่งไลน์ เป็นรูปภาพรถจยย.ซึ่งตรงกับรถที่ถูกโจรกรรมไป ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จึงได้ทำการขยายผลไปหาตัว พ่อค้าคนกลางที่รับซื้อแล้วนำไปส่งขายต่อให้กับคนงานต่างด้าว ทราบชื่อคือ นายไอซ์ อายุ 22 ปี แต่เมื่อเจ้าตัวเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็พยายามจะหลบหนี ขับรถกระบะตู้ทึบ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ ไทรทัน สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร พุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปิดล้อมไว้จนได้รับความเสีย แต่สุดท้ายก็สิ้นลายถูกจับกุมตัวไว้ได้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายผล ไปติดตามรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมมา โดยส่งขายให้กับชาวต่างด้าว จนพบจอดเรียงรายอยู่ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในพื้นที่สมุทรปราการ จำนวน 9 คัน ก่อนจะกลับมาตรวจค้นบ้านพักของนายไอซ์ พบว่ามีอะไหล่รถจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ ซากรถ และรถที่ถูกขโมยมาอีก 4 คัน จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหนองปรือ ได้วางแผนขยายผลไปจับกุมตัวแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ โดยทำทีให้ นายไอซ์ อายุ 22 ปี ติดต่อซื้อรถจาก นายแซม อายุ 29 ปี กระทั่งตกลงซื้อขาย นัดรับส่งสินค้ากันที่ หน้าวัดเขาโพธิ์ทอง ริมขอบอ่างมาบประชัน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมตัวไว้ได้ ก่อนนำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
>> เทศบาลนครหาดใหญ่ หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งแก้ไข หลังพายุฤดูร้อนพัดถล่ม เสาไฟฟ้าหักโค่น
15.36 น. เทศบาลนครหาดใหญ่ รายคืบหน้า หลังเมื่อบ่ายวันนี้ ที่หาดใหญ่ จ.สงขลา มีพายุฤดูร้อน ฝนตก ลมกระโชกแรง ส่งผลให้ทางแยกไฟแดงโนราห์ ถนนราษฎร์ยินดี มีเสาไฟฟ้าหักโค่น ป้ายล้มใส่รถ การจราจรติดขัด พร้อมปชส.ปชช.ไม่จำเป็นให้หลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว ภายหลังเกิดเหตุ เทศบาลนครหาดใหญ่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหาดใหญ่ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ระดมกำลังแก้ไขอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด ขณะนี้ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหาดใหญ่ และเทศบาลนครหาดใหญ่ พรัอมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังระดมเครื่องจักรและเจ้าหน้าที่ ทำการถอนเสาไฟฟ้า และตัดต่อสายไฟที่ชำรุด พร้อมทั้งติดตั้งเสาใหม่ เพื่อปล่อยกระแสไฟฟ้าให้สามารถใช้ได้โดยเร็วที่สุด อย่างน้อยใช้ระยะเวลาเที่ยงคืนเป็นต้นไป ตอนนี้ต้องขออภัยในความไม่สะดวก และขอให้หลีกเลี่ยงการสัญจรไปมาในบริเวณใกล้เคียงดังกล่าว ตั้งแต่บัดนี้จนถึงเที่ยงคืน และจะติดตั้งเสาใหม่ เดินระบบสายใหม่เท่าที่จำเป็น เพื่อเปิดใช้กระแสไฟต่อไป
>> พ่อวัย 28 ปี ป่วยซึมเศร้า-ไบโพล่าร์ ไลฟ์สดพาลูกขับรถเก๋งดิ่งลงแม่น้ำตรัง ล่าสุดอาการยังโคม่า
16.30 น. สภ.บ้านโคกยาง ได้รับแจ้งเหตุมีพ่อรายหนึ่งไลฟ์สดในเฟซบุ๊กส่วนตัว นำลูกสาวขับรถยนต์เก๋งพุ่งตกแม่น้ำตรัง ที่ใต้สะพานพระยารัษฎานุประดิษฐ์ หรือสะพานย่านซื่อ ตรงข้ามกับวัดย่านซื่อ หมู่ 3 ต.ย่านซื่อ อ.กันตัง จ.ตรัง
ที่เกิดเหตุ มีชาวบ้านไม่ต่ำกว่า 30 คน ช่วยกันลากรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวที่จมมิดหลังคาอยู่ติดกับตอม่อสะพาน ความลึกประมาณ 3 เมตร ขึ้นมาจากน้ำ พร้อมกับช่วยนำ นายกวีวัฒน์ หรือ โกแบงค์ อายุ 28 ปี ออกมาจากรถและขึ้นมาจากน้ำ ในสภาพที่ไม่รู้สึกตัว พร้อมนำตัวของเด็กน้อย เพศหญิง อายุประมาณ 1 ปี 7 เดือน ลูกสาวของ นายกวีวัฒน์ ขึ้นมาจากน้ำในสภาพที่ไม่รู้สึกตัวเช่นกัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ทีมแพทย์พยาบาล รพ.กันตัง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง (บ้วนเต็กเซี่ยงตึ๊ง) ได้เร่งปั๊มหัวใจ เพื่อยื้อชีวิตกลับคืนมา พร้อมกับนำตัวส่ง รพ.ตรัง ในเวลาต่อมา เบื้องต้นทั้งคู่อยู่ในอาการโคม่า
จากการสอบถามพี่ชายของ นายกวีวัฒน์ เล่าว่า ผู้เป็นพ่อมีอาการป่วยเป็นโรคไบโพล่า และโรคซึมเศร้า และได้เลิกรากับแฟนสาวไปได้ประมาณ 1 ปีกว่า ส่วนลูกสาวยังคงอยู่ในความดูแลของพ่อ โดยผู้เป็นพ่อมีจะโพสต์เฟซบุ๊กในลักษณะตัดพ้อชีวิต และคิดจะจบชีวิตมาแล้วหลายครั้ง จนกระทั่งช่างเย็นวันนี้ผู้เป็นพ่อ ได้มีการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีการตั้งกล้องมือถือไว้บริเวณคอนโซนหันกล้องไปฝั่งหน้ารถ จอดอยู่ริมแม่น้ำตรัง ก่อนจะมีการถอยรถออกมา และขับรถพุ่งลงแม่น้ำ เมื่อรถลงน้ำปรากฏว่าผู้เป็นพ่อได้ยกมือถือมาไลฟ์สดต่อ ก่อนไลฟ์ดังกล่าวจะจบลงไป โดยมีชาวโลกโซเชียลต่างห้ามปราม และให้กำลังใจ เพื่อไม่ให้กระทำในลักษณะดังกล่าว
ส่วนอาการของทั้งคู่ ล่าสุด ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์ ได้พยายามช่วยกันยื้อชีวิต ปรากฏว่าทั้งคู่ชีพจรกลับมาเต้น แต่ยังอยู่ในอาการไม่รู้สึกตัวและโคม่า อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสืบสวนสอบสวนหามูลเหตุที่แท้จริงต่อไป
>> "ถนนทรุดตัว" จุดกลับรถใต้สะพานพระราม 4 ใกล้ทางเข้าวัดบางจาก
18.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเกิดถนนยุบตัว บริเวณจุดกลับรถใต้สะพานพระราม4 ต.บางตะไนย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นหลุมขนาดใหญ่ประมาณ 50 เซนติเมตร และค่อยๆ ยุบตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ชาวบ้านที่พบเห็นได้นำกิ่งไม้มาวางปิดกั้น เพื่อป้องกันเป็นที่สังเกตสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ผ่านเส้นทางดังกล่าวได้ระมัดระวัง ซึ่งล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ อ.ปากเกร็ด ได้นำวัสดุอุปกรณ์มาปิดกั้นไว้และได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ เข้าตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม สำหรับจุดที่มีการยุบตัวเป็นทางโค้งจุดกลับรถใต้สะพานพระราม4 ใกล้ทางเข้าวัดบางจากพื้นผิวด้านบนเริ่มยุบตัวเป็นโพรงขนาดกว้างประมาณ 50 เซนติเมตร จากที่สังเกตจะเห็นทรายเริ่มยุบตัวลงอย่างต่อเนื่อง รอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ
>> ผู้ว่าฯ อ่างทอง ลงพื้นที่อำนวยการระงับเหตุเพลิงไหม้ โรงงานผลิตที่นอน อ.โพธิ์ทอง
18.00 น. นายพิริยะ ฉันทดิลก ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เดินทางลงพื้นที่ อำนวยการระงับเหตุ กรณีเพลิงไหม้ โรงงานที่นอน ในพื้นที่ ม.2 ต.รำมะสัก อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง โดยเทศบาลตำบลรำมะสัก ประสานรถดับเพลิง จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขต อ.โพธิ์ทอง อ.สามโก้ อ.แสวงหา และ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี รวมทั้ง รถน้ำภาคเอกชนในพื้นที่ ต.รำมะสัก เข้าระงับเหตุ รวม 23 คัน และ จนท.อาสาสมัครมูลนิธิต่าง เข้าให้การช่วยเหลือ โดยสามารถควบคุมเพลิงได้ (ในวงจำกัด) ในเวลาประมาณ 18.30 น. แต่ได้มีการฉีดน้ำเลี้ยงเพื่อป้องกันไฟประทุขึ้นมาอีก
ทั้งนี้ ความเสียหายเบื้องต้น อาคารโรงงานชั้นเดียวขนาดประมาณ 800 ตารางเมตร ตั้งอยู่กลางทุ่งนานอกชุมชน ซึ่งมีเตียงพร้อมที่นอน (รอส่งลูกค้า)ได้รับความเสียหายทั้งหมดประมาณ 500 ชุด รวมทั้งทรัพย์สินอื่น ๆ อีกหลายรายการ ไม่มีผู้เสียชีวิต มีเพียงผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย เป็นเจ้าของโรงงานที่เข้าไปเก็บทรัพย์สิน โดยไฟลวกบริเวณมือ โดยได้เข้ารับการรักษา ณ รพ.สามโก้เรียบร้อยแล้ว
>> ไฟไหม้บ้าน เพลิงสงบพบผู้เสียชีวิต และพบจดหมายตัดพ้อชีวิต วางหน้าศาลพระภูมิ
18.40 น. สภ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้บ้านหลังหนึ่ง คาดว่ามีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายใน ในพื้นที่ ต.ท่าขุนราม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร
ที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านปูนขนาดใหญ่ 2 ชั้นสร้างไว้อย่างสวยงาม มีรั้วล้อมรอบ ชาวบ้านจำนวนมากมุงดูอยู่โดยรอบ ขณะที่รถดับเพลิงจากองค์การบริหารส่วนตำบลท่าขุนราม เทศบาลตำบลนครชุม และองค์การบริหารส่วนตำบลนาบ่อคำ ช่วยกันดับเพลิงที่กำลังโหมลุกลามอย่างรุนแรง ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ
จากการตรวจสอบพบว่า บริเวณชั้นล่างของบ้านโดยเฉพาะภายในห้องครัวมีความเสียหายค่อนข้างมาก โต๊ะ อุปกรณ์ ชั้นวางของ ไหม้เสียหายกลายเป็นเถ้าถ่าน ที่พื้นห้องครัวพบร่าง น.ส.ทรรฒพร หรือ เอ อายุ 49 ปี พนักงานการเงินและบัญชี หน่วยงานแห่งหนึ่งประจำจังหวัดกำแพงเพชร สภาพศพนอนหงายหน้า โดนไฟไหม้ดำเป็นตอตะโก
บริเวณศาลพระภูมิทางเข้าหน้าบ้านมีกระดาษหลายแผ่นวางซ้อนกันไว้ โดยใช้แจกันวางทับด้านบน จากการตรวจสอบพบว่าเป็นลายมือของผู้ตาย เจ้าหน้าที่ได้จัดเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน และจะตรวจสอบถึงสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป
>> รถจักรยานยนต์เสียหลักข้ามเลน ชนประสานงากับรถกระบะอย่างจัง มีผู้เสียชีวิต 2 คนเป็นชาวเมียนมา
19.30 น. สภ.บางปะกง รับแจ้งอุบัติเหตุรถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บนถนนสายหนองจอก-พิมพา หมู่ 3 ต.พิมพา อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีดำ ทะเบียน ฉะเชิงเทรา สภาพพังเป็นเศษเหล็ก ใกล้กันพบรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีเทา ทะเบียน กทม. สภาพฝากระโปรงหน้ายุบ ตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นผู้ชายชาวเมียนมา อายุประมาณ 25-30 ปี อยู่กลางถนน
คนขับรถกระบะ ให้การว่า ขณะกำลังขับรถกลับบ้านมาถึงที่เกิดเหตุ จู่ๆรถจักรยานยนต์ของผู้ตายขี่ข้ามเลนมาหา ตนก็พยายามเบรกพร้อมกับหักพวงมาลัยหลบแล้ว แต่ไม่ทันจึงชนประสานงาเต็มแรง จากนั้นเจ้าหน้าที่นำศพส่ง รพ. พร้อมสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
>> หนุ่มวัย 28 ปีขี่รถจักรยานยนต์ เสียหลักชนกับรถบรรทุก 10 ล้อเสียชีวิตที่ท้ายรถ
21.15 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ ชนท้ายรถบรรทุก และมีผู้เสียชีวิต บนถนนเลียบคลองส่งน้ำ มุ่งหน้าออกถนนเทพารักษ์ บริเวณฝั่งตรงข้ามบริษัทเคอร์รี่ ในพื้นที อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
ที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต 1 คน สภาพร่างนั่งคล่อมรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ดรีม สีดำ ไม่ติดป้ายทะเบียน ติดอยู่ที่ท้ายรถบรรทุก 10 ล้อ ฮีโน่ สีขาว ป้ายทะเบียน 8181 กรุงเทพฯ อาสาสมัครนำร่างออกมาและตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 28 ปี ภูมิลำเนาชาว อ.บางพลี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี
>> ไฟไหม้โรงงานอบยางพารา อ.ทุ่งสง กว่า 6 ชั่วโมงเพลิงยังไม่สงบ
23.20 น. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดนครศรีธรรมราช รับแจ้งว่า ได้เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานอุตสาหกรรม ประเภทผลิต-อบยางพารา สถานที่เกิดเหตุโรงงานแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ตำบลถ้ำใหญ่ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งแต่เวลา 17.00 น.
ที่เกิดเหตุลักษณะเป็นโรงงานขนาดใหญ่ ประกอบกิจการโรงงานแปรรูปแผ่นยางพารา เพลิงลุกไหม้ภายในโกดัง ทางด้านนายกเทศบาลตำบลถ้ำใหญ่ สั่งการให้งานป้องกันเข้าระงับเหตุและประสานหน่วยดับเพลิงข้างเคียงสนับสนุน ทั้งในพื้นที่ อ.ทุ่งสง และพื้นที่ใกล้เคียง ร่วมระดมหัวฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิง
พบเพลิงลุกไหม้ห้องเตาอบ 3 ห้อง ควันดำโขมงทั่วบริเวณ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ เนื่องจากแผ่นยางหลายพันตันเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำได้เพียงฉีดน้ำป้องกันไม่ให้ไหม้ลุกลามไปกว่านี้
>> รถเก๋งชนเสาไฟก่อนพุ่งลงข้างทาง ทันตแพทย์สาวนั่งเบาะข้างดับ ส่วนคนขับเจ็บสาหัส
02.00 น. รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มีอุบัติเหตุ รถนั่งส่วนบุคคล ชนเสาไฟฟ้าแล้วเสียหลักลงข้างทาง ตรวจสอบพบผู้เสียชีวิต 1 คน ถนนเลียบคลองแอน 1-2 ช่วงหลังโรงพยาบาลภัทร-ธนบุรี ในพื้นที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล โตโยต้า สีแดง ป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร ลักษณะตกอยู่ข้างทาง หน้ารถฝั่งซ้ายสภาพพังเสียหาย ตรวจสอบพบว่ามีผู้บาดเจ็บชาย 1 ราย เป็นคนขับ ทางอาสากู้ภัยให้การช่วยเหลือและนำส่ง รพ.ใกล้เคียง และมีผู้เสียชีวิต 1 คน อยู่ที่เบาะโดยสารข้างคนขับ อาสาสมัครดำเนินการนำร่างออกจากตัวรถและตรวจสอบเอกสาร เป็นหญิงไทย อายุประมาณ 30 - 35 ปี อาจารย์ประจำคณะทันตแพทยศาสตร์ฯ ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านปทุมธานี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง
>> รถนั่งส่วนบุคคล ชนกับรถจักรยานยนต์ หนุ่มวัย 28 ปีเสียชีวิตร่างกระเด็นตกพงหญ้าข้างทาง
03.15 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ ชนกับรถนั่งส่วนบุคคล มีผู้บาดเจ็บสาหัส บนถนนมอเตอร์เวย์ ขาเข้า ลงสะพานข้ามคลองบ้านม้า ประมาณ 100 เมตร ในพื้นที่ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร
ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล BMW สีดำ ป้ายทะเบียน กทม. สภาพหน้ารถพังเสียหาย ห่างออกไปพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. สภาพรถพังเสียหาย ที่ริมพงหญ้าข้างทาง พบผู้บาดเจ็บอาการสาหัส 1 ราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพ-กู้ภัยเร่งช่วยเหลือทำ CPR แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 28 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประเวศ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ