หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 27 เมษายน 2567

วันที่ 28 เมษายน 2024 เวลา 05:44 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 27 เมษายน 2567

>> ไฟไหม้รถยนต์ ลุกลามติดบ้าน! ภายในซอยร่มเกล้า 58

11.02 น. รับแจ้งจากสายด่วน 199 เหตุเพลิงไหม้รถยนต์ ใกล้เคียงหมู่บ้านรุ่งกิจวิลล่า 9 ซอยร่มเกล้า 58 ถนนร่มเกล้า แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กทม. เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยร่มเกล้าไปที่เกิดเหตุ

โดยเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยร่มเกล้า ถึงที่เกิดเหตุ พบเพลิงอยู่ระหว่างการลุกไหม และลุกลามเข้าบริเวณตัวอาคาร เจ้าหน้าที่ดำเนินการใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ส่วนสาเหตุและความเสียหายอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ในที่เกิดเหตุไม่พบผู้บาดเจ็บ หรือ เสียชีวิต

>> หนุ่มติดพนัน ก่อเหตุกระชากสร้อย กลางวันแสกๆ ถูกรวบตัวทันควัน

12.33 น.เกิดเหตุคนร้าย สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ ใส่แมสปิดบังใบหน้า ขี่จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นจิออโน่ สีขาวดำ ไม่สวมแผ่นป้ายทะเบียน ก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำ บริเวณหน้าตลาดห้วยขวาง ถนนประชาสงเคราะห์ แขวงดินแดง เขตห้วยขวาง โดยคนร้ายทำทีขับรถประกบรถจยย.ผู้เสียหาย กระชากสร้อยคอผู้เสียหายขณะขี่รถจยย.กลับบ้าน ก่อนคนร้ายจะขับหลบหนี

ต่อมา ชุดสืบสวน สน.ห้วยขวาง ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเร่งไล่ล่าตัวคนร้ายรายนี้ จนกระทั่งพบว่า ผู้ต้องหารายนี้ ชื่อนายนิพนธ์ อายุ 26 ปี อาชีพพนักงานส่งเอกสารแห่งหนึ่งย่านอโศก หลังก่อเหตุ ขี่จยย.หลบหนีไปที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านสถานทูตลาว พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญา และเข้าทำการจับกุม คนร้ายพร้อมรถ จยย.ที่ใช้ก่อเหตุ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ดำเนินคดีต่อไป

>> เพลิงไหม้บริษัทรองเท้านักเรียนย่านบางแค จนท.ระดมกำลังควบคุมเพลิง

12.55 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รับแจ้งจากสายด่วน 199 เหตุเพลิงไหม้ภายในบริษัทรองเท้าชื่อดัง ย่านถนนเพชรเกษม แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางแคไปที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในบริษัทรองเท้าชื่อดัง ถนนเพชรเกษม เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางแค ถึงที่เกิดเหตุ ขณะนี้เพลิงกำลังลุกไหม้ตู้อบรองเท้าภายในบริษัท เจ้าหน้าที่ดำเนินการใช้น้ำ ทำการดับเพลิงสงบ ส่วนความเสียหายและสาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ

>> พฐ.ใช้ ด็อกบอต หาวัตถุพยานไฟไหม้กากสารเคมี หวั่นเจอระเบิดแบบที่ภาชี

13.20 น. ปฏิบัติการดับไฟไหม้โกดังเก็บกากสารเคมี ที่บ้านหนองพะวา ตำบลบางบุตร อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ก่อนนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ในบ่ายวันเดียวกัน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เปิดเผยว่า ได้นำ “ด็อกบอต’” และ “โดรนบินต่ำ” ตรวจสถานที่เกิดเหตุเบื้องต้น เนื่องจากจากไฟดับแล้วก็จริง แต่เป็นเผาไหม้สารเคมีข้างในมีสภาพความเป็นกรด และมีภาวะที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุได้ แต่มีความกังวลว่าในสถานที่เกิดเหตุเมื่อเทียบเคียงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งหลังเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่ามีระเบิดวางเพิ่มอยู่หลายลูก ซึ่งโรงงานแห่งนี้มีเจ้าของเป็นคนเดียวกับโรงงานที่ระเบิดที่ อ.ภาชี จึงใช้หุ่นยนต์ “ด็อกบอต” และโดรนบินต่ำ เข้ามาตรวจสอบว่าวัตถุพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุมีอะไรบ้าง

>> ล่าแรงงานเถื่อน ระทึก จับได้ 1 ลำใบพัดเสีย อึ้ง สืบไปเจออีก 48 ชีวิตซุกป่ารอไปมาเลย์

15.20 น. ผู้พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 พร้อมกำลังชุดจับกุม เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ , ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาด้วยการใช้เรือยนต์ล่องมาจากชายแดนด้าน อ.สังขละบุรี มุ่งหน้าขึ้นฝั่งบริเวณริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ที่บ้านท่าแพ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ เป็นจำนวนมาก หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเดินทางไปซุ่มโป่งบริเวณริมถนนทางลงท่าแพ

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่พบเรือหางยาวจำนวนหลายลำแล่นมาตามน่านน้ำ จึงส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อตรวจสอบ แต่ปรากฏว่าเมื่อคนขับเรือเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้อาศัยความมืดและความชำนาญน่านน้ำขับเรือหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงเรือ 1 ลำที่ใบพัดเสียไปต่อไม่ได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ลาดตระเวนโดยลอบ ก็พบกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาหลบซ่อนตัวอยู่ชายป่าริมน้ำ นับรวมกันได้จำนวน 48 คน เป็นชาย 35 คน หญิง 13 คน โดย 4 ใน 48 คน เป็นเด็ก สอบถามเบื้องต้นทุกคนต้องจ่ายค่าหัวให้กับนายหน้ามากถึงคนละ 35,000-50,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง โดยจะจ่ายก็ต่อเมื่อไปถึงที่ทำงานในประเทศมาเลเซียแล้ว เจ้าหน้าที่คุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการต่อไป

>> สั่งปิดโรงงานไฟฟ้า 5 วัน หวั่นระเบิดซ้ำ พร้อมจัด จนท.เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง

16.10 น. จากเหตุคนร้ายประมาณ 20 คน บุกโรงไฟฟ้าชีวมวล อแม่ลาน จี้รปภ. เผารถก่อนจะวางระเบิด เหตุเกิดเมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 25 เมย.67 ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดที่โรงงานไฟฟ้า บริษัทประชารัฐชีวมวลแม่ลาน ที่ตั้งอยู่ริมถนนสายยะลา-ปัตตานี ม.7 ต.ป่าไร่ อ.แม่ลาน จังหวัดปัตตานี

โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ ฝ่ายความมั่นคง ได้เปิดเผยว่า ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการปิดกั้นพื้นที่ และเตรียมเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ เฝ้าระวัง ด้านนอกโรงงาน กันไม่ให้มีบุคคลใดๆ เข้าไปก่อนภายในเวลา 5 วันนี้ เพื่อความปลอดภัย และรอเคลียร์พื้นที่อีกครั้ง เนื่องจากคนร้ายก่อเหตุพร้อมกันทั้ง 2 แห่ง และเจ้าของเป็นคนเดียวกัน กลุ่มผู้ก่อเหตุอาจจะเป็นกลุ่มเดียวกัน เชื่อมโยงกับกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ แต่ยังไม่สามารถฟันธง หรือเปิดเผยได้ ว่าเป็นคนร้ายกลุ่มใด ขณะนี้อยู่ระหว่าง ดำเนินการสืบสวนสอบสวน

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สั่งปิดโรงงานไฟฟ้าออกไปก่อน 4-5 วัน ได้เตรียมการให้เจ้าหน้าที่ เฝ้าดูแลบริเวณรอบนอกตลอด 24 ชม. พร้อมปิดกั้นกันไม่ให้ผู้ใด คนงาน หรือเจ้าของ เข้าพื้นที่ เพราะยังไม่เคลียร์ 100% เบื้องต้นยังพบว่ามี วัตถุต้องสงสัย อยู่ 2-3 จุด เตรียมประสานให้ EOD และหน่วยที่เกี่ยวข้อง ทำการเก็บกู้วัตถุต้องสงสัย และเก็บหารวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เบื่องต้นมีรถยนต์ 1 คัน และในส่วนโรงงาน เสียหายหลายจุด จะมาประเมินความเสียหายอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเตรียมช่วยเหลือ เยียวยาต่อไป

>> "พระศรีสัจญาณมุนี" รองเจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ พร้อมพวกรวม 8 ราย เข้ามอบตัวกรณีล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ไม่ให้การในชั้นสอบสวน

17.30 น. กรณีนายวิชานนท์ แสนผาลา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ทุ่งกะมัง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ได้นำทีมเจ้าหน้าที่กว่า 10 นาย จู่โจมเข้าจับกุมแก๊งล่าสัตว์ในพื้นที่ บริเวณป่า แหลป่าเตย ท้องที่ ต.นางแดด อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ ก่อนจับกุมแก๊งล่าสัตว์ป่า ได้ผู้ต้องหา 2 ราย เป็นพระมหาและสามเณร หลบหนีไปได้ 8 คน ทราบชื่อภายหลัง ได้แก่ 1. พระศรีสัจญาณมุนี 2. พระโน๊ต 3. สามเณรภูมิ 4. นายสุภชัย 5. นายชยาวัชร์ 6. นายช้วน 7. นายบุญโฮม และ 8. ทราบว่าเป็นเป็นรองเจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ

ล่าสุด ที่สภ.โนนเหม่า พระศรีสัจญาณมุนี ผศ.ดร. เจ้าอาวาสวัดห้วยหินฝน รองเจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ พร้อมกับพระ เณร และนายพรานที่อยู่ในภาพ รวมจำนวน 8 คน ที่ปรากฏเป็นข่าว เดินทางเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเตรียมรับทราบข้อกล่าวหาที่ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมไว้ ซึ่งมีข้อหาร่วมบุกรุกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ร่วมกันล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งผู้ที่เข้ามามอบตัวในวันนี้ ยังไม่ขอให้การใดๆ ทั้งสิ้นในชั้นสอบสวน

>> อดีตผู้บริหารหญิง รับเมาขับจริง เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวรีบไปหาลูก ยันไม่เจตนาใช้เท้าถีบหน้าตร.

21.30 น. กรณี น.ส.นี (นามสมมุติ) อายุ 51 ปี อดีตผู้บริหารบริษัทชื่อดังระดับโลก ใช้เท้าถีบใบหน้าของ พ.ต.ท.ดาราธร ขจรศิลป์ รอง ผกก.5 บก.จร. ขณะขับรถยนต์เมอเซเดสเบนซ์ สีดำ หลังถูกจับกุมข้อหาเมาแล้ว ซึ่งตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ได้ 104 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น ภายในด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอลล์และกวดขันวินัยจราจร บริเวณฝั่งตรงข้าม มัสยิด ถนนเลียบมอเตอร์เวย์ แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพ เมื่อกลางดึก ของวันที่ (24 เม.ย.67) ที่ผ่านมา โดย น.ส.นี ขัดขืน และด่าทอ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ขณะถูกเอาตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ จนถูกดำเนินคดี รวม 3 ข้อหา เมาแล้วขับ, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยผู้ต้องหารับสารภาพเพียง1 ข้อหา คือเมาแล้วขับ ส่วนอีก 2 ข้อหาอยู่ระหว่างปรึกษาทนายความ

ความคืบหน้า ที่สน.ประเวศ นางสาวนี อายุ 51 ปี อดีตผู้บริหารบริษัทชื่อดัง พร้อมทนายความส่วนตัวเดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.กิตติโชติ สุ่มมาตย์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ประเวศ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และข้อหาทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยเจ้าตัวกล่าวว่า ยอมรับที่มีการดื่มสุรา วัดได้ปริมาณ 104 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ตามที่เป็นข่าวพร้อมยอมรับผิด และกราบขออภัยทุกท่าน ที่ประมาทดื่มมากเกินไป โดยส่วนตัวเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว มีลูก 2 คน ไม่มีใครดูแล เลยต้องรีบกลับไปหาลูก จนเกิดความกังวล พอโดนตรวจยอมรับว่ามีอารมณ์ เพราะต้องรีบกลับบ้าน เป็นเหตุให้อาจมีการปะทะคารมณ์กัน และหลังจากนั้นมีการพูดคุยกับคู่กรณีไปแล้ว ตนยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะขัดขืนคำสั่งเจ้าหน้าที่ ส่วนกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่าตนได้ใช้เท้าถีบหน้าตำรวจนั้น ตนยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะใช้เท้าถีบหน้า ซึ่งหลังจากนั้นตนได้มีการพูดคุยขอโทษกับตำรวจนายดังกล่าวแล้ว 

ข่าวยอดนิยม