วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09:45 น.
วันนี้ (1 ก.พ.) ความคืบหน้าการดำเนินโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (โครงการลงทะเบียนฯ) กระทรวงการคลังได้รับผลการตรวจสอบคุณสมบัติจากหน่วยตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งรัฐบาลตรวจสอบคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนกว่า 19.63 ล้านราย อยู่ระหว่างประมวลผลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงการคลังได้รับผลการตรวจสอบคุณสมบัติจากหน่วยตรวจสอบคุณสมบัติจำนวนถึง 46แห่ง อาทิ กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) ต่าง ๆ เป็นต้น เรียบร้อยแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการประมวลผลที่ได้รับจากหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนกว่า 19.63ล้านราย และข้อมูลคู่สมรสและบุตรอีกกว่า 24.88ล้านราย รวมทั้งสิ้นกว่า 44.51 ล้านราย
ล่าสุด กระทรวงการคลัง ขอเรียนว่า เนื่องจากข้อมูลการตรวจสอบคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (โครงการฯ) ปี 2565 ต้องมีการตรวจสอบจากหน่วยตรวจสอบสิทธิหลายหน่วยงาน เพื่อให้การตรวจสอบมีความถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ ดังนั้น การประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติโครงการฯ ปี 2565 จะเลื่อนออกไปก่อน ทั้งนี้ จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จและประกาศให้ประชาชนทราบโดยเร็วต่อไป
ช่องทางที่จะตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติได้ 3 ช่องทาง ดังนี้
1. ผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติด้วยตนเอง ผ่านทางเว็บไซต์ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th/
-คลิกเมนู “ตรวจสอบสถานการณ์ลงทะเบียน”
-กรอก “เลขที่บัตรประชาชนจำนวน 13 หลัก” และระบุ วัน เดือน และ พ.ศ.เกิด
-คลิก ตรวจสอบข้อมูล ระบบแสดงสถานะการลงทะเบียน
2. ผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน ทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) สำนักงานคลังจังหวัด ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และศาลาว่าการเมืองพัทยา
3. โทรศัพท์สอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง สำนักงาน เศรษฐกิจการคลัง และ Call Center โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 094-858-9794, 0-2109-2345 , 02 273 9020 ต่อ 3502 3503 3506 3518 3536 3542 หรือ โทร. 08-5842-7102, 08-5842-7103, 08-5842-7104, 08-5842-7105, 08-5842-7106, 08-5842-7107, 08-5842-7108
หลังจากการวันประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติ ผู้ลงทะเบียนที่ผ่านจะต้องดำเนินการยืนยันตัวตน ณ ธนาคารตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธ.ก.ส. หรือธนาคารออมสิน ตั้งแต่วันที่ประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติ เป็นต้นไป จึงจะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) รวมทั้ง ผู้ได้รับสิทธิจะต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์กับหมายเลขประจำตัวประชาชนกับธนาคารใดก็ได้เพื่อรับสิทธิสวัสดิการ อื่น ๆ ในอนาคต
ผู้ลงทะเบียนจะต้องยืนยันตัวตนผ่านอุปกรณ์การยืนยันตัวตน (Full E KYC) โดยใช้บัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ณ ธนาคารตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ได้แก่ ธนาคารกรุงไทยฯ ธ.ก.ส. และธนาคารออมสิน
กรณีประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติแล้วไม่ผ่านต้องทำอย่างไร ผู้ลงทะเบียนสามารถยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติผ่านทางเว็บไซต์โครงการฯ และติดต่อหน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติที่ไม่ผ่าน เพื่อขอแก้ไขปรับปรุงข้อมูลโดยตรง