24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 28 พฤษภาคม 2566

>> รถจยย. ตกคลองริมถนนวิภาวดีรังสิต เสียชีวิต 2 คน

08.00 น. สน.สุทธิสาร รับแจ้งอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ ตกลงคลอง ริมถนนวิภาวดี-รังสิต ฝั่งขาออก บริเวณใกล้เคียงสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ เขตดินแดง กทม.

ที่เกิดเหตุอยู่หน้า พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในน้ำ ใกล้กันพบร่างของ นายณัฐพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี สภาพมีบาดแผลแตกที่ศีรษะ แขนหักสองข้าง และ น.ส.มนิการ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี เสียชีวิตในน้ำด้วยกันทั้งคู่

นางวิไลลักษณ์ มารดานายณัฐพงษ์ ผู้เสียชีวิต เล่าว่า ทั้ง 2 คน พักอาศัยอยู่ที่ซอยศาสนา ถนนพระราม 6 เขตพญาไท มีลูกอายุ 10 เดือน ก่อนเกิดเหตุทั้งสองนำลูกมาฝากเลี้ยงไว้บอกว่าจะไปทำธุระแล้วจะกลับมานอนกับลูก แต่มาได้รับแจ้งว่าลูกชายประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนพบศพมีพนักงานรักษาความสะอาดมาพบไฟท้ายรถ จยย.ติดอยู่ในน้ำจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบแต่ไม่รู้ว่าตกไปตอนไหน ตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบคู่กรณีเจ้าหน้าที่จึงต้องสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์และตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุต่อไป

>> หนุ่มวัย 31 ปี ดับ เป็นศพปริศนา คาเพิงพักย่านสุขสวัสดิ์

09.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ ได้รับแจ้งมีเหตุผู้เสียชีวิตในเพิงพักคนงาน ซอยสุขสวัสดิ์ 30 แยกย่อยซอยที่ 10 เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร

ในที่เกิดเหตุ ภายในบ้านหลังหนึ่ง ลักษณะเพิงพักคนงานชั้นเดียวเป็นปูนมุงด้วยสังกะสี ที่เกิดเหตุอยู่ภายในห้องนอน พบศพชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายต้อม อายุ 31 ปี นอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้นบ้าน ใบหน้า และบริเวณหน้าอกทับสายไฟต่อพ่วง อยู่ข้างที่นอน 
นายโต อายุ 43 ปี ผู้พบศพคนแรกกล่าวว่า ผู้ตายทำงานอยู่กับตนแต่นอนพักกันคนละที่ เมื่อตอน 8 โมงเช้าได้ยินเสียงดังเหมือนมีคนมาเปิดปั๊มลม ดังมาจากเพิงพักที่ผู้ตายพักอาศัยอยู่ ตนจึงเดินลงมาดู เมื่อเดินตามเสียงมาถึงที่ห้องของผู้ตายก็พบว่าผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่ในลักษณะแบบนี้แล้ว และต้นเสียงที่ดังคล้ายปั๊มลมก็ดังมาจากพัดลมที่ผู้ตายเปิดเอาไว้ ตนจึงรีบดึงปลั๊กไฟออกทันทีเพราะเกรงว่าไฟจะช็อต แล้วจะทำให้เกิดไฟไหม้ได้

ด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแพทย์นิติเวชศิริราช ตรวจสอบภายในที่เกิดเหตุแล้วไม่พบร่องรอยของการต่อสู้ ส่วนภายในห้องก็ไม่พบการถูกรื้อค้น แต่ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงได้ จึงมอบหมายให้อาสาสมัครนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชศิริราช ก่อนที่จะให้ญาตินำเอกสารมารับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

>> เขยโหด บุกกราดยิง พ่อตา-แม่ยายเสียชีวิต

10.00 น. สภ.เมืองสมุทรสงคราม รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสในบ้านพัก ต.บ้านปรก อ.เมืองสมุทรสงคราม

พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว และมีเสียงปืนดังออกมาประมาณ 3 ชุดๆ ละประมาณ 9 นัด เจ้าหน้าที่จึงถอยออกมาห่างประมาณ 100 เมตร โดยไม่ได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปรับคนเจ็บ เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาการคลั่งยังถือปืนอยู่ในบ้าน ต่อมาให้ญาติเจรจา จนผู้ก่อเหตุทราบชื่อต่อมาคือ นายไพโรจน์ เป็นเขยของบ้านนี้ ถือปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 ม.ม. ซึ่งเป็นอาวุธก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ได้

จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ แต่พบว่าได้เสียชีวิตแล้วทั้ง 2 ราย คือ นายโชติพัฒน์ อายุ 56 ปี สมาชิกสภา อบต.บ้านปรก นอนเสียชีวิตอยู่ลานหน้าบ้าน พบถูกยิงที่คอขวา 1 นัด ใต้รักแร้ 1 นัด ข้อศอกซ้าย 1 นัด หลังข้างซ้าย 1 นัด และนางพัชรีย์ อายุ 57 ปี ภรรยานอนคว่ำเสียชีวิต บริเวณประตูเข้าบ้าน ชายโค้งด้านซ้าย 1 นัด ใต้ไหล่ขวา 1 นัด บริเวณหน้าบ้านพบปลอกกระสุนตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ขนาด 9 มม. จำนวน 30 ปลอก และขนาด .22 อีก 1 ปลอก

นายไพโรจน์ ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นลูกเขย ให้การอ้างว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่แต่งงานมา ตนถูกกดดันจากพ่อตาแม่ยายมาโดยตลอด เวลาเงินไม่พอใช้ในบ้านก็ให้เป็นคนออกให้ตลอด กระทั่งถึงขีดสุด เนื่องจากคู่เขยใหญ่เข้ามาอยู่บ้านไม่ถึงเดือน อีกทั้งคู่เขยยังไปยุพ่อตาว่าตนจะไปยิงพ่อตา เพื่อหวังฮุบสมบัติ ซึ่งตนมีคลิปเป็นหลักฐาน ที่ผ่านมาไม่อยากมีปัญหากับใคร เพราะเคยติดคุกมาก่อน อยากกลับตัวเป็นคนดี แต่กลับถูกกดดันมาตลอด วันนี้เกิดอารมณ์ชั่ววูบก่อเหตุในครั้งนี้

ทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และจะรวบรวมพยานหลักฐานให้ละเอียดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

>> 2 เด็กชาย หนีครูมาเล่นน้ำ สุดท้ายจมดับคู่ ผอ.เผย เคยเตือนแล้วห้ามเล่น เหตุน้ำเชี่ยว

12.30 น. สภ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งเหตุ คนจมน้ำสูญหาย 2 ราย ที่คลองส่งน้ำชลประทาน บริเวณด้านหลังโรงเรียนมูลนิธิรุ่งนภานครราชสีมา บ้านดอนกรูด ต.แชะ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา

โดยที่เกิดเหตุเป็นคลองส่งน้ำฯ ซึ่งขณะเกิดเหตุน้ำไหลเชี่ยว มีความลึกประมาณหน้าอกของผู้ใหญ่ หรือเกินกว่า 100 เซนติเมตร พบเพียงเสื้อผ้าของเด็กถูกถอดทิ้งไว้ริมคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่ จึงประสานไปยังโครงการชลประทาน ให้หยุดการปล่อยน้ำชั่วคราว เพราะเกรงว่ากระแสน้ำจะพัดร่างของผู้สูญหายออกไปไกล จากนั้นก็จัดกำลังอาสากู้ภัย พร้อมขอแรงจากชาวบ้านที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ช่วยกันเรียงหน้ากระดานงมหาตัวเด็กที่สูญหายทั้งสองราย

ซึ่งเบื้องต้นทราบว่า ผู้สูญหายเป็นเด็กชายทั้งคู่ โดยรายหนึ่งอายุ 13 ปี และ อายุ 7 ปี  เจ้าหน้าที่ใช้เวลางมค้นหาใต้น้ำ นานกว่า 1 ชั่งโมงจึงพบร่าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้กู้ภัย นำร่างเด็กที่เสียชีวิตทั้งสองราย ส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลครบุรี  

>> "บิ๊กโจ๊ก" เผย เร่งส่งสำนวนซ้อมใหญ่วันพรุ่งนี้ คดี ‘แอม ไซยาไนด์’ ก่อนสรุปส่งอัยการ

13.30 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้าคดี นางสรารัตน์ หรือ แอม ผู้ต้องหาตามหมายจับฐานความผิดฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยระว่า วันนี้ตนได้เรียกรองผู้บังคับการ ทุกจังหวัดมาเพื่อประชุม ขึ้นโครงสำนวนการสอบสวน และต้องการเน้นย้ำในบางประเด็น เพราะต้องทำทุกจุด โดยในวันพรุ่งนี้วันจันทร์ที่ (29 พ.ค.) ต้องทำสำนวนให้เสร็จ และนำมาให้ตนจะเป็นคนตรวจ ซึ่งจะทำการซ้อมใหญ่เสมือนการยื่นส่งสำนวนให้กับอัยการจริง พรุ่งนี้สำนวนต้องเสร็จ

ทั้งนี้ จะมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นผู้แถลงปิดคดีและตนจะทำหน้าที่เสริม

>> ตำรวจภูธรภาค 3 สกัดจับรถเก๋งขนยาเสพติดฝ่าด่าน เจอยาไอซ์ 100 กว่ากิโล

14.00 น. พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 แถลงข่าวผลการสืบสวนขยายผลจับกุมขบวนการลักลอบลำเลียงนำยาเสพติดเข้า มาจำหน่ายจากแนวตะเข็บชายแดนเข้ามายังตอนในของประเทศ เพื่อสกัดกั้นขบวนการยาเสพติดให้ได้ผลเป็น รูปธรรมในภาพรวม จนสามารถวางแผนจับกุมกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนเข้ามายังพื้นที่ ซึ่งเป็นการทำงานตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.

โดยจับกุม นายเกษร เวฬุวนารักษ์ อายุ 58 ปี และนายคำแดง จันทร์หอม อายุ 50 ปี ทั้งคู่เป็นชาว จ.อุบลราชธานี พร้อมของกลาง ยาไอซ์ 3 กระสอบ น้ำหนักรวม 150 กก. รถยนต์โตโยต้า ยารีส สีขาว และรถยนต์โตโยต้าคัมรี่ สีขาว ที่ใช้บรรทุกยาเสพติด

นายเกษร สารภาพว่า งรับจ้างจากนายต้า ไม่ทราบชื่อ นามสกุลจริง เป็นคน ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ว่าจ้างให้เป็นรถยนต์นำทาง โดยนายต้าแจ้งเพียงว่า จะนำคนลาวไปส่งที่ กทม. แต่มาโดนจับกุมได้ก่อน

>> ไฟไหม้รถกระบะ คนขับรีบพาลูกเมียหนีตายออกจากรถ ก่อนเพลิงไหม้วอดทั้งคัน

15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แกลง ระยอง ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้รถกระบะ เหตุเกิดบริเวณมหน้าโรงงานไม้ยางพารา ถ.เลี่ยงเมือง ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะแคป ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน  กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ริมถนน พบไฟกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงจนท่วมตัวรถทั้งคัน เสียงระเบิดดังสนั่น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงรีบเข้าฉีดน้ำสกัดไฟทันที ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ไฟจึงสงบลง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ต้นเพลิงอาจจะเกิดจากถ่านที่บรรทุกมา แต่ถึงอย่างไร ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจ.ระยอง เข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง ต่อไป

>> กองกำลังบูรพา เข้าช่วยเหลือหญิงวัย 46 ปี หลังเหยียบทุ่นระเบิดสังหารเจ็บสาหัส

15.59 น. กองกำลังบูรพา (กกล.บูรพา) ได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้านคนไทยที่เข้าไปหาของป่า และเหยียบทุ่นระเบิดสังหาร ไม่ทราบชนิด ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาขาด บริเวณ ต.โคกละเมี๊ยด อ.ทมอพวก จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา พล.ต.เทพพิทักษ์ นิมิตร ผบ.กกล.บูรพา จึงสั่งการให้ พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ ผบ.ชค.ทพ.12 ร่วมกับหน่วยปฏิบัติการเก็บกู้ระเบิดเพื่อมนุษยธรรมที่ 1 (นปท.1) กองกำลังบูรพา ประสานกับเจ้าหน้าที่กัมพูชาเช้าช่วยเหลือโดยด่วน

จากการเข้าตรวจสอบในพื้นที่เกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทราบว่าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บคือ น.ส.สัมฤทธิ์ อายุ 46 ปี ก่อนเกิดเหตุ ได้เดินทางเข้ามาหาของป่า ในบริเวณดังกล่าว แต่เนื่องจากไม่ได้เป็นคนในพื้นที่ จึงได้เดินลึกเข้าไป จนกระทั่งเกิดพลาด เดินเหยียบทุ่นระเบิดสังหาร ไม่ทราบชนิด และเกิดระเบิดขึ้น โดย น.ส.สัมฤทธิ์ ได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาข้างซ้ายขาดช่วงข้อเท้า และมีบาดแผลบริเวณใบหน้า แต่ยังคงมีสติ พูดคุยตอบคำถามได้ ทางเจ้าหน้าที่ จึงได้ร่วมกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น และให้ความช่วยเหลือ ก่อนนำตัวออกมาจากพื้นที่ดังกล่าว ส่งต่อให้มูลนิธิกู้ภัยฯ ส่งต่อไปรักษาที่ยังโรงพยาบาลตาพระยา และส่งมารักษาต่อที่ รพ.อรัญประเทศในเวลาต่อมา

>> คุณลุงวัย 69 ขับรถกระบะ เสียหลักชนต้นไม้ข้างทาง เสียชีวิตร่างติดค้างภายในซากรถ

16.20 น. รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัย กกไทร พ่งไล้ยี่จับเซี่ยวเกาะ อ.น้ำหนาว ตรวจสอบอุบัติเหตุ บนถนนในพื้นที่บ้านวังกวาง ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ นิสสัน สีเทา ทะเบียน 5897 เพชรบูรณ์ ลักษณะชนเข้ากับต้นไม้ข้างทาง ทางด้านฝั่งคนขับได้รับความเสียหาย และพบผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในรถเป็นชาย 1 รายอายุ 69 ปี อาสากู้ภัยกกไทรใช้อุปกรณ์ตัด-ถ่าง เพื่อนำร่างของผู้เสียชีวิตออกจากตัวรถ ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำหนาว

>> รถกระบะ ชนกับรถจักรยานยนต์ ทำ 2 หนุ่มขับขี่และซ้อนท้ายเสียชีวิต ส่วนคนขับรถกระบะ ไม่รู้หายไปอยู่ไหน

20.40น. รับแจ้งจาก กู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถาน เขตอำเภอบ่อไร่ ตรวจสอบอุบัติเหตุ ถนนสายศรีบัวทอง-คลองแอ่ง ใกล้เคียงสะพานคลองโสน ในพื้นที่ อ.บ่อไร่ จ.ตราด

โดยที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ โตโยต้า สีเทา ทะเบียน ตราด ลักษณะชนกับ รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ซูเมอร์เอ็กซ์ สีดำ ทะเบียน ตราด ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย มีอาการสาหัส อาสากู้ชีพ-กู้ภัยเร่งให้การช่วยเหลือทำ CPR แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิต 2 ราย อายุประมาณ 20 -25 ปี เป็นผู้ขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ กลับไม่พบคนขับรถกระบะ ในส่วนของสาเหตุ อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อไร

>> รถจักรยานยนต์ล้มคว่ำ หนุ่มคนขับขี่ถูกรถตามหลังทับซ้ำ ทำให้เสียชีวิต

21.00 น. รับแจ้งจาก สภ.บางบัวทอง เกิดอุบัติเหตุ ถนนรัตนาธิเบศร์ ฝั่งขาเข้า ช่วงเชิงสะพานข้ามแยกบางพลู ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

โดยที่เกิดเหตุ เป็นเชิงทางลงสะพานข้ามแยกบางพลู พบร่างของ นายพงศกร อายุ 33 ปีสภาพศีรษะแตก เสียชีวิตอยู่กลางถนนข้างรถ จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ สีแดง-ดำ ทะเบียน 7824 กทม ในที่เกิดเหตุไม่พบรถคู่กรณี ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ยังตรวจพบร่องรอยขูดบนพื้นถนนเป็นทางยาวรวมถึงเศษหมวกกันน็อกที่แตกเกลื่อนถนนด้วย

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า เบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุซึ่งในจุดเกิดเหตุไม่มีพยานหรือใครที่เกิดเหตุ โดยสันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิตน่าจะถูกรถอื่นเฉี่ยวชนก่อนและล้มลงทำให้รถตามหลังทับซ้ำ แต่อย่างไรก็ตามจะต้องทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุอีกครั้ง ส่วนผู้เสียชีวิตในมอบให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติรังสิตเพื่อชันสูตรต่อไป

>> สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก วันที่ 29 พฤษภาคม 2566 เวลา 05.00 น.

ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกจำนวน 689,402,313 ราย รักษาอาการดีขึ้น 661,822,894 ราย เเละเสียชีวิตสะสม 6,883,596 ราย

1. ประเทศ สหรัฐอเมริกา ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 107,085,763 ราย เสียชีวิต 1,164,967 คน (เพิ่มขึ้น 1 คน) 
2. ประเทศ อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 44,989,744 ราย เสียชีวิต 531,864 คน (เพิ่มขึ้น 8 คน) 
3. ประเทศ ฝรั่งเศส ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 40,079,891 ราย เสียชีวิต 167,263 คน (ยังไม่อัปเดตล่าสุด) 
4. ประเทศ เยอรมนี ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 38,426,308 ราย เสียชีวิต 174,247 คน (เพิ่มขึ้น 38 คน) 
5. ประเทศ บราซิล ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 37,579,028 ราย เสียชีวิต 702,664 คน (ยังไม่อัปเดตล่าสุด)