หน้าแรก > การเมือง

รัฐบาลเร่งช่วยเหลือเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ใน 7 จังหวัดชายแดน จากการปะทะ ยอดสัตว์กระทบกว่า 6.5 ล้านตัว ตายสะสม 171 ตัว

วันที่ 17 ธันวาคม 2568 เวลา 12:16 น.


วันที่ 17 ธันวาคม 2568 น.ส.อัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาล กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำลังเร่งให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา โดยดำเนินการทั้งแบบเร่งด่วนและการสำรวจความเสียหายเพื่อเยียวยาตามระเบียบกระทรวงการคลัง

พื้นที่ที่ครอบคลุมรวม 7 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงใกล้ชายแดน จากรายงานของศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านปศุสัตว์ ณ วันที่ 15 ธ.ค.2568 พบว่าพื้นที่ได้รับผลกระทบครอบคลุม 28 อำเภอ โดยมีจำนวนสัตว์ในพื้นที่ทั้งหมด 6,536,689 ตัว สัตว์ที่ตายสะสม 171 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโคและกระบือ ในช่วงเร่งด่วน กรมปศุสัตว์ได้อพยพสัตว์ออกจากพื้นที่เสี่ยงแล้ว 809 ตัว ให้ความช่วยเหลือสัตว์รวม 15,945 ตัว และรักษาสัตว์บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยแล้ว 949 ตัว

นอกจากนี้ ยังสนับสนุนอาหารสัตว์ตั้งแต่เกิดเหตุ โดยแจกอาหารหยาบแห้งสะสม 101,800 กิโลกรัม อาหารข้น 21,790 กิโลกรัม และอาหารสำหรับสุนัข-แมว 8,825 กิโลกรัม พร้อมแจกถุงยังชีพสัตว์ ชุดส่งเสริมสุขภาพสัตว์ เช่น แร่ธาตุ ยา และวิตามิน โดยดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

สำหรับหลักเกณฑ์การเยียวยา ได้กำหนดตามประเภทสัตว์เลี้ยงและแยกตามช่วงอายุ รวมถึงจำนวนสูงสุดต่อราย ดังนี้
1. โคอายุ 2 ปีขึ้นไป ชดเชยไม่เกิน 35,000 บาท/ตัว (ไม่เกิน 5 ตัว/ราย)
2. กระบืออายุ 2 ปีขึ้นไป ไม่เกิน 39,000 บาท/ตัว (ไม่เกิน 5 ตัว/ราย)
3. สุกรอายุ 30 วันขึ้นไป ไม่เกิน 3,000 บาท/ตัว (ไม่เกิน 10 ตัว/ราย)
4. แพะหรือแกะอายุ 30 วันขึ้นไป ไม่เกิน 3,000 บาท/ตัว (ไม่เกิน 10 ตัว/ราย)
5. สัตว์ปีก เช่น ไก่ เป็ด นกกระทา นกกระจอกเทศ ชดเชยแตกต่างตามช่วงอายุและประเภท สูงสุด 300-1,000 ตัว/ราย
6. แปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ ชดเชย 1,980 บาท/ไร่ (ไม่เกิน 30 ไร่/ราย)

รองโฆษกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ที่ได้รับผลกระทบสามารถติดตามข้อมูล แจ้งความเสียหาย หรือขอรับความช่วยเหลือได้ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ/จังหวัด หรือผ่านแอปพลิเคชัน DLD 4.0 ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงเบอร์ติดต่อด่วนในแต่ละจังหวัด เช่น
- อุบลราชธานี 06-4295-5989
- ศรีสะเกษ 0-4561-2928
- สุรินทร์ 0-4451-1488
- บุรีรัมย์ 0-4461-1988
- สระแก้ว 0-3725-8039
- จันทบุรี 0-3931-2601
- ตราด 08-1831-6590

ทั้งนี้ รัฐบาลขอให้พี่น้องเกษตรกรมั่นใจว่ารัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถฟื้นฟูอาชีพได้โดยเร็ว

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม