วันที่ 15 ธันวาคม 2568 เวลา 13.30 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานดินฝังศพ แก่พลอาสาสมัคร มุสตากีม มาเจ๊ะมะ สังกัด กองพันจู่โจม กรมรบพิเศษที่ 3 ที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ในพื้นที่ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา ขณะปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ เป็นผู้กล้าหาญและการเสียสละเพื่อผืนแผ่นดิน ในการนี้ นายบุญช่วย หอมยามเย็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในพิธีฯ โดยมี พลตรี ชาคริต อุจะรัตน รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ,ผู้บังคับบัญชา,ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ครอบครัว และญาติทหารกล้าต่างไว้อาลัยร่วมในพิธีฯ ณ กุโบร์สะบือรัง (บ้านสุแฆ) หมู่ 3 ตำบลดุซงญอ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส

ขณะที่ดินพระราชทานมาถึง ญาติและข้าราชการตั้งแถวรอรับอย่างสมเกียรติ โดยเจ้าหน้าที่ได้อัญเชิญดินพระราชทาน วางบนหลุมฝังศพผู้วายชนม์ ผู้นำศาสนาอ่านอัลกุรอ่าน และสวดดุอาอ์ พร้อมยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัย กองทหารเกียรติยศ พลแตรเดี่ยว เป่าแตรเคารพ 1 จบ เป็นสัญญานแสดงวันอันเหน็ดเหนื่อยได้ผ่านพ้นไปแล้ว เพื่อเชิดชูเกียรติถึงความกล้าหาญเสียสละของทหารผู้กล้าที่ปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างสมเกียรติจนวาระสุดท้าย ซึ่งการได้รับพระราชทานดินฝังศพในครั้งนี้ สร้างความปลาบปลื้ม และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณแก่ครอบครัวทหารกล้า ผู้วายชนม์เป็นล้นพ้น ที่พระบาทสมเด็พระเจ้าอยู่หัว ทรงมีต่อครอบครัว

โอกาสนี้ พลตรี ชาคริต อุจะรัตน รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าได้มอบธงชาติไทย เหรียญบางระจัน และประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติ กระทรวงกลาโหม พร้อมเงินช่วยเหลือมอบให้แก่ครอบครัวของพลอาสาสมัคร มุสตากีม มาเจ๊ะมะ เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณและรำลึกถึงคุณงามความดี ความเสียสละ เพื่อปกป้องประเทศชาติแผ่นดินอันเป็นที่รักยิ่ง

สำหรับพลอาสาสมัคร มุสตากีม มาเจ๊ะมะ อายุ 21 ปี สังกัดกองพันจู่โจม กรมรบพิเศษที่ 3 เกิดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2547 บรรจุเข้ารับราชการทหารเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 9/1 หมู่ 3 ตำบลดุซงญอ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส ได้เสียสละชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของประเทศชาติ บริเวณเนิน 677 ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ทหารกล้าผู้นี้เดินทางไกลกว่าพันกิโลเมตรจากบ้านเกิดในจังหวัดนราธิวาส เพื่อร่วมปฏิบัติภารกิจอันยิ่งใหญ่ในการปกป้องผืนแผ่นดินไทย เป็นทหารกล้าที่ได้ต่อสู้อย่างเข้มแข็ง กล้าหาญ และเสียสละเลือดเนื้อชีวิต เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติไทยอย่างแท้จริงอย่างภาคภูมิใจ สมศักดิ์ศรีดั่งเป็น “วีรบุรุษจากชายแดนใต้ สู่แนวหน้าชายแดนไทย–กัมพูชา”