วันที่ 3 ธันวาคม 2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำกำลังเข้าตรวจค้น โกดังชั้นเดียวแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลศีรษะจรเข้น้อย อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมตรวจยึดของกลาง ได้แก่

1. หน้ากากอนามัยปลอมยี่ห้อ 156,510 ชิ้น
2. กล่อง ปลอม  5,240 ชิ้น
3. โลชั่นปลอมยี่ห้อ52 ชิ้น
4. คลีนเซอร์ปลอมยี่ห้อ 45 ชิ้น
รวมของกลางตรวจยึดทั้งสิ้น 4 รายการ จำนวน  161,847  ชิ้น

การตรวจค้นในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก มีรับมอบอำนาจจากบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายหน้ากากอนามัย ได้เข้าร้องทุกต่อพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอศ. พบว่ามีการลักลอบจำหน่ายหน้ากากอนามัย โดยไม่มีการรับรองจากบริษัทผู้ผลิต และมีพฤติกรรมต้องสงสัยว่าจะเป็นสินค้าปลอม บนแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดัง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.1 บก.ปอศ.ร่วมกับผู้เสียหายสืบสวนติดตามกลุ่มร้านค้าออนไลน์ต้องสงสัย โดยทดลองสั่งซื้อหน้ากากอนามัย จากร้านค้าออนไลน์ต้องสงสัยจำนวน 4 ร้านบนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่จำหน่ายหน้ากากอนามัย เมื่อสินค้ามาถึง ตรวจสอบพบว่า หน้ากากที่ได้รับเป็น สินค้าปลอม โดยหน้ากากอนามัยที่ได้ลองสั่งซื้อมาบรรจุอยู่ในกล่องที่ทำเลียนแบบ มีลักษณะเหมือนสินค้าแท้แทบทุกจุด ทั้งขนาด ตัวอักษร จึงได้มีการสืบสวนเบื้องต้นพบการปกปิดอำพรางข้อมูลผู้ขายและการจัดส่งสินค้า

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จึงได้สืบสวนเชิงลึกกระทั่งพบข้อมูลเชื่อมโยงโกดังต้องสงสัย เป็นสถานที่กักเก็บหน้ากากอนามัยปลอม ในพื้นที่ตำบลศีรษะจรเข้น้อย อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ และเข้าตรวจค้นเวลาโกดังต้องสงสัยดังกล่าว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอศ. พร้อมตัวแทนผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทนำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นโกดังชั้นเดียว ภายในพบ หน้ากากอนามัยปลอมยี่ห้อ 156,510 ชิ้น , กล่อง ปลอม  5,240 ชิ้น ,โลชั่นปลอมยี่ห้อ 52 ชิ้น
,คลีนเซอร์ปลอมยี่ห้อ 45 ชิ้น ,รวมของกลางตรวจยึดทั้งสิ้น 4 รายการ จำนวน  161,847  ชิ้น

โดยหน้ากากอนามัยที่พบดังกล่าว ผู้เสียหายตรวจสอบพบว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐานในการผลิตตามที่กำหนดไว้ ทำให้สินค้าไม่ได้คุณภาพมาตรฐานในการป้องกัน การกรองแบคทีเรีย หรือการกรองเชื้อไวรัส อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ที่ซื้อไปใช้      

เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมขยายผลติดตามตัวผู้ที่เกี่ยวข้องที่ได้ร่วมกันกระทำความผิดทั้งหมดมาดำเนินคดี ตามกฎหมายในความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 ฐาน “มีไว้เพื่อจำหน่ายสินค้าที่ปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นเอาชื่อ รูป หรือรอยประดิษฐ์ของบุคคลอื่นมาใช้ในทางการค้า เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าสินค้าเป็นของแท้” ของกลางทั้งหมดถูกยึดและนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป