วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เวลา 16:55 น.
กองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 4 ได้ส่งกำลังพลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจำนวน 60 คน ที่ติดค้างอยู่ภายในสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นานถึง 3 คืน หลังถูกตัดขาดจากภายนอกเนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน โดยปฏิบัติการครั้งนี้สามารถนำผู้ประสบภัยกลับสู่ภูมิลำเนาในพื้นที่จังหวัดปัตตานีและยะลาได้อย่างปลอดภัย รวมถึงผู้ป่วยโรคไตที่ต้องการฟอกไตฉุกเฉิน 1 ราย
ปฏิบัติการกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำท่วม
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.08 น. พล.ท. นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ.รมน.ภาค 4 และ พล.ต. กฤศ ศรีเดชาสินธ์ุ ผอ.ศสว. ได้มอบหมายให้ พ.อ. เอกธวุฒิ คงคาเขตร ผอ.รร.การเมือง ศสว. นำรถทหารบรรทุกขนาดใหญ่ (GMC) จาก ร.152 พัน 3 พร้อมกำลังพล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฝ่ากระแสน้ำ เข้าไปยังพื้นที่สนามบินหาดใหญ่ที่น้ำขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว ผู้ประสบภัยทั้ง 60 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวปัตตานีและยะลา ที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ และเครื่องบินลงจอดเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 ก่อนเกิดอุทกภัยใหญ่จนไม่สามารถออกจากสนามบินได้ ต้องนอนค้าง 2 คืน จนกระทั่งวันที่ 24 พฤศจิกายน ทหารได้เข้าให้การช่วยเหลือ
พักค้างปั๊ม 2 คืน ช่วยผู้ป่วยฟอกไตฉุกเฉิน
พ.อ. เอกธวุฒิ คงคาเขตร เปิดเผยว่า ได้นำผู้ประสบภัยออกจากสนามบินได้ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน แต่เนื่องจากเส้นทางน้ำท่วมหนักและมวลน้ำกำลังขึ้นสูงในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา จึงต้องนำรถมาจอดพักและนอนค้างที่ปั๊ม ปตท. ใน อ.จะนะ อีก 2 คืน เพื่อรอระดับน้ำลด ระหว่างการพักค้าง ได้เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินเมื่อมีผู้ประสบภัยรายหนึ่งเป็นผู้ป่วยโรคไตที่ต้องทำการฟอกไตอย่างเร่งด่วน พ.อ. เอกธวุฒิ จึงได้ประสานไปยังโรงพยาบาลจะนะ เพื่อให้ส่งรถฉุกเฉินมารับผู้ป่วยฝ่ากระแสน้ำเข้าไปทำการฟอกไตได้ทันเวลา
ผู้ประสบภัยน้ำตาคลอ: "สามีคงไม่มีโอกาสกลับถึงบ้าน"
เช้าวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.30 น. หลังตรวจสอบระดับน้ำจนแน่ใจว่ารถสูงสามารถผ่านได้ คณะช่วยเหลือได้นำผู้ประสบภัยเดินทางต่อและมาถึงสำนักงานป้องกันและสาธารณภัย เทศบาลนครยะลา จังหวัดยะลา อย่างปลอดภัย โดยมีนายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา พร้อมเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ เลี้ยงอาหาร และนำผู้ป่วยโรคไตส่งโรงพยาบาลยะลาอย่างเร่งด่วน
นางฟาตีเมาะ เจะแว หนึ่งในผู้ประสบภัยที่เดินทางมาจากจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย พร้อมสามีที่เป็นผู้ป่วยไต กล่าวด้วยความตื้นตันใจว่า "ต้องทนต่อการเจ็บป่วย จนกระทั่งมีหน่วยงานทหารมาช่วย หากไม่มีทหารและหน่วยงานที่ช่วยในครั้งนี้ สามีคงไม่มีโอกาสกลับถึงบ้านแน่นอน"
เทศบาลนครยะลา พร้อมรับสถานการณ์
ด้านนายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา ได้เตรียมการช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยจัดเตรียมอาหารปรุงสุกกว่า 20,000 กล่องต่อวัน เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ และจัดหาอุปกรณ์ในการช่วยเหลือขนย้ายจนกว่าสถานการณ์อุทกภัยจะกลับสู่ภาวะปกติ
ปฏิบัติการของกองทัพบกในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความพร้อมและความเสียสละของกำลังพลที่เข้าช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ได้อย่างทันท่วงที ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบาก ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการอพยพผู้คนเท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินไว้ได้อีกด้วย ความร่วมมือระหว่างทหารและหน่วยงานท้องถิ่นเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้วิกฤตครั้งนี้คลี่คลายลงได้




