ทีมชาติไทย U23 อุ่นเครื่องเอาชนะ อินเดีย 4-0
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 เวลา 17.00 น. ณ ธรรมศาสตร์ สเตเดียม การแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่อง International Match ทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ลงสนามพบกับ อินเดีย U23
เกมนี้ ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล วาง ยศกร บูรพา เป็นหน้าเป้า พร้อมด้วย ธนกฤต โชติเมืองปัก ที่รับบทจอมทัพ ส่วนด้านข้างมี ชินเงิน ภูตันหยง และ สิรภพ วันดี
เริ่มเกมมาเป็นไทยที่่ครองเกมได้ดีกว่าและนาที 21 ก็มาได้ลุ้นจากจังหวะที่ ยศกร บูรพา ยกให้ ธนกฤต โชติเมิองปัก ได้ชาร์จแต่ยังเบาไปตรงตัวผู้รักษาประตู
รายชื่อ 11 ตัวจริง ประกอบด้วย ชมพัฒน์ บุญเลิศ (GK), อรรถพล แสงทอง, ชัยพล อดทน, ชนภัช บัวพันธ์ (C), สิทธา บุญหล้า, ยศกร บูรพา, ธนกฤต โชติเมืองปัก, พลเอก มณีกร, พิชิตชัย เศียรกระโทก, สิรภพ วันดี, ชินเงิน ภูตันหยง
นาที 30 ไทยได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่ ยศกร บูรพา ได้ลากตัดเข้าในแล้วยิงด้วยขวาแฉลบแล้วไปเข้ามือของประตู อินเดีย
นาที 31 ไทย U23 ได้ฟรีคิกก่อนที่ สิรภะ วันดี จะหลอกยิงเสาแรกเข้าไปให้ ทีมชาติไทย U23 นำก่อน 1-0
นาที 43 ไทยมาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ชินเงิน ภูตันหยง โดนสกัดล้มลง ก่อนที่ พลเอก มณีกร จะยิงเข้าไปให้ทีมชาติไทย U23 นำห่างเป็น 2-0 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง ไทยเปลี่ยนตัวผู้รักษาประตูส่ง ศรวัสย์ โพธิ์สมัน ลงไปเล่นแทน ชมพัฒน์ บุญเลิศ
นาที 47 ทีมชาติไทย U23 มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ ชินเงิน ภูตันหยง โดนสกัดล้มลงในเขตโทษ ก่อนที่ ชัยพล อดทน จะสังหารเข้าไปให้ทีมนำห่างเป็น 3-0
นาที 62 จากจังหวะโต้กลับ ยศกร บูรพา ไหลให้ ธนกฤต โชติเมืองปัก ยิงเข้าไปให้ ทีมชาติไทย U23 นำห่างเป็น 4-0
นาที 65 ไทยเปลี่ยนตัวอีกสามคนด้วยการส่ง ธนาวุฒิ โพธิ์ชัย, ชวัลวิทย์ แซ่เล้า, จิตติพัฒน์ วะสูงเนิน ลงไปเล่นแทน สิทธา บุญหล้า, ชินเงิน ภูตันหยง และ สิรภพ วันดี
นาที 73 ไทยเปลี่ยนตัวอีกสี่คนด้วยการส่ง ธวัชชัย อินทร์ประโคน, ภัทรพล ศึกษากิจ, สงครามสมุทร น้ำผึ้ง, ฐิติภัส เอกอรัญพงศ์ แทนที่ของ ยศกร บูรพา, ธนกฤต โชติเมืองปัก และ พิชิตชัย เศียรกระโทก
นาที 85 ไทยเปลี่ยนตัวอีกสามคนด้วยการส่ง นพรัตน์ พรหมเอี่ยม, ภูวเนตร ทองคุ่ย, รัฐศาสตร์ บังสูงเนิน ลงไปเล่นแทน อรรถพล แสงทอง, ชัยพล อดทน และ ชนภัช บัวพันธ์
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติมจบเกม ทีมชาติไทย U23 เอาชนะ อินเดีย U23 ไป 4-0

ภายหลังเกมนี้ "ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล" ให้สัมภาษณ์หลังเกม ทีมชาติไทย U23 พบ อินเดีย ในเกมอุ่นเครื่องตามปฏิทิน ฟีฟ่า เดย์
"ก็ถือว่าทำได้ตามเป้าหมาย เรื่องผลสกอร์ก็เกินเป้าด้วยซ้ำ ก็ต้องชื่นชมน้องๆ ที่ลงไปและมีความกระหายที่จะเล่น ทุกคนวิ่งไล่เวลาเสียบอล จากเกมรุกเป็นรับ ก็ค่อนข้างทำได้ดี แต่ก็มีจุดที่ต้องไปปรับปรุงอีกเยอะ ก่อนที่จะเล่นในซีเกมส์" โค้ชวัง กล่าว
"จากที่เราดูอินเดีย จากการเล่นในช่วงฟีฟ่า เดย์ ก่อนหน้านี้ พวกเขาก็เป็นทีมที่ค่อนข้างน่ากลัว ข้อมูลสไตล์การเล่นของพวกเขา ไม่ว่าจะชุด U17 หรือ ชุดนี้ ก็มีความคล้ายเคลียงกัน ในการสร้างเกมขึ้นมา และตัวริมเส้นก็มีความสามารถเฉพาะตัวที่ดี แต่เกมนี้ ทีมของพวกเขาก็ขาดนักเตะหลายคน ที่ไม่ได้เดินทางมา จากเกมที่อุ่นเครื่องกับ อินโดนีเซีย ในฟีฟ่า เดย์ ครั้งก่อน ก็ถือเป็นบทพิสูจน์ของตัวเราเอง ไม่ว่าจะเจอทีมชุดไหน เราก็ต้องผ่านไปให้ได้"
"ผมก็หวังทุกเกมที่ เข้าร่วมการแข่งขัน อยากให้เอาสิ่งที่เราขาดจากแคมป์ที่แล้วมาพัฒนา หลายอย่างเขาก็ทำได้ดี หลังแคมป์ที่แล้วเราทำได้ไม่ดีพอ เชื่อว่ายังขาด ที่ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่เอากองหลังขึ้นมายิงจุดโทษ เราได้ลูกนิ่งสามลูกจากสี่ประตู เรายังต้องแก้ไข เรื่องการเอาบอลไปถึงพื้นที่สุดท้ายแล้ว และกดดันจนได้จุดโทษ แต่ก็ยังขาดในเรื่องเล่นโอเพ่นเพลย์ ที่เราไม่สามารถจบสกอร์ได้ จากการครอส หรือคัตแบ็ค รวมถึงลูกเล่นอื่นๆ เรามาแก้ปัญหามาตั้งแต่แคมป์แรกๆที่ผมเข้ามาคุมทีม เราไม่สามารถผลิตสกอร์จากโอเพ่นเพลย์ ก็ต้องพยายามต่อไป เล่นสี่เกมในซีเกมส์ ก็จะเจอทีมที่มาเล่นรับแบบเหนียวแน่น พื้นที่สุดท้ายเราต้องเด็ดขาดมากกว่านี้"
"ฟีฟ่า เดย์ ครั้งที่แล้ว อินเดียก็ไปเยือน อินโดนีเซีย สองนัดรูปเกมเขาดีมาก และชนะในเกมแรก แล้วเกมที่สองก็เสมอกับ อินโดนีเซีย มีตัวรุกความสามารถเฉพาะตัวสูง แต่ไม่ได้มาเยือนไทยในครั้งนี้ เราชนะ 4-0 พอใจบางส่วน แต่สิ่งที่ต้องปรับปรุงก็มีค่อนข้างเยอะ ก็ต้องแก้ไขปรับปรุง เราเสียโอกาส เพราะไทม์มิ้ง ลูกที่ทรานสิชั่น เราล้ำหน้าค่อนข้างเยอะ ถ้าไทม์มิ่้งดีกว่านี้ เราน่าจะผลิตสกอร์ได้มากกว่านี้"
"ฝากแฟนบอลชาวไทย เราอยากให้มาให้กำลังใจ และมาเชียร์นักเตะทีมชาติไทย U23 ในซีเกมส์ที่เราเป็นเจ้าภาพ อยากให้แฟนบอลเข้ามาให้กำลังใจน้องๆ เพื่อเป็นพลังใจช่วยเหลือพวกเราในการคว้าเหรียญทองในบ้านของเราให้ได้ในครั้งนี้"
ด้าน ชัยพล อดทน เพลย์เยอร์ ออฟ เดอะ แมตช์ กล่าวว่า "ก็เป็นประตูแรกที่ทำได้ในนามทีมชาติ ก็รู้สึกดีใจมากที่ทำได้ ขอบคุณเพื่อนๆที่ข่วยกันเล่น สำหรับ การยิงจุดโทษ ก็เป็นยศกร บูรพา ครับ แต่ก็ขอยศกร ยิงก็เลยยิง ส่วนที่ใส่เบอร์ 3 ในวันนี้ ก็เพราะมีพี่อุ้ม ธีราทร เป็นไอดอลครับ ฝากแฟนบอลทีมชาติไทย U23 ทุกคน ใกล้จะถึงซีเกมส์แล้ว ก็ติดตามเชียร์กันด้วยนะครับ"
โดยหลังจากนี้ ทีมชาติไทย U23 จะซ้อมอีก 3 ครั้ง และอุ่นเครื่องแบบปิดอีกหนึ่งนัด ก่อนจะรวมตัวกันอีกครั้งในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันฟุตบอลชายในมหกรรมซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ต่อไป

ขอบคุณภาพจาก : เพจฟุตบอลทีมชาติไทย
5 ธันวาคม 2568
5 ธันวาคม 2568