วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 เวลา 16:20 น.
ช่วงกลางดึกวานนี้ (12 พ.ย. 68) ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ปฏิบัติการจับกุมจีนเทานักต้มตุ๋นรายสำคัญ สืบเนื่องจากในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้รับข้อมูลจากประชาชนพลเมืองดี ซึ่งสังเกตเห็นพฤติกรรม ของชายชาวต่างชาติ รูปพรรณสัณฐานคล้ายคนจีน ซึ่งเข้ามาพักอาศัยในบ้านหรู มูลค่ากว่าแปดหลัก แต่กลับมีพฤติกรรมเก็บตัวไม่ออกไปไหนนานนับเดือน แต่กลับมีคนจีนคนอื่นๆ เข้ามาพบเป็นระยะ
จากข้อมูลดังกล่าว พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. สั่งการระดมชุดสืบสวนในการติดตามพฤติกรรม กระทั่งเจ้าหน้าที่สืบสวนแน่ชัดว่าเป็นคนร้ายที่ทางตำรวจต้องการตัว จึงวางแผงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปลอมเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยแฝงตัวไปอยู่บริเวณด้านนอกหมู่บ้าน เพื่อสังเกตความเคลื่อนไหวเป็นเวลานานร่วมสัปดาห์ จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สังเกตเห็นรถยนต์ของผู้ต้องหา ก่อนแสดงตัวตรวจคัน จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางผู้ต้องหาอายุ 40 ปี สัญชาติวานูอาตู พบตราประทับเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรล่าสุดตั้งแต่เมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว การอนุญาตสิ้นสุดลงแล้ว
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหา “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” และควบคุมตัวไปทำบันทึกจับกุมที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แต่ระหว่างทางผู้ต้องหามีท่าทีวิตกกังวล เจ้าหน้าที่พบพิรุธ จึงได้ตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าผู้ต้องหาเป็นบุคคลที่สำนักงานอัยการเมืองเฉาโจว ได้อนุมัติหมายจับในข้อหายักยอกเงินของบริษัท โดยในปี 2561 คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย กว่า 50 ล้านหยวน หรือมากกว่า 250 ล้านบาท ก่อนที่จะเชิดเงินจำนวนดังกล่าวหนีออกจากประเทศจีน เดินทางข้ามทวีปไปเปลี่ยนสัญชาติเป็นวานูอาตู เพื่อป้องกันการติดตามตัวของทางการจีน นานกว่า 7 ปี
โดยล่าสุดในปี 2568 ตำรวจสากลได้ออกประกาศสืบจับสีแดง (INTERPOL’s Red Notice)เพื่อติดตามจับกุมตัวในฐานะอาชญากรข้ามชาติ ก่อนที่จะมาถูก สตม.รวบตัวได้ในที่สุด ซึ่งหลังจากนี้ สตม.จะได้สืบสวนขยายผลเกี่ยวกับทรัพย์สินเช่น บ้าน รถหรู รวมถึงผู้ที่ให้การช่วยเหลือหรืออาจอยู่ในขบวนการต่อไป