วันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 เวลา 08:44 น.
วันที่ 12 พ.ย. 2568 นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ พล.อ.นิซัม จาฟฟาร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เข้าไปดำเนินจัดการเจรจาครั้งใหม่ หลังประเทศไทยได้ประกาศระงับปฏิญญาสันติภาพไทย-กัมพูชา
สำนักข่าว malaysiakini รายงานว่า นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวในช่วงการตอบคำถามรัฐมนตรีว่า เขาได้ติดต่อประสานงานกับอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยหลายคนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนายเศรษฐา ทวีสิน, นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน
จนนำไปสู่การลงนามในปฏิญญาดังกล่าว ซึ่งมีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา เป็นสักขีพยานระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 47 ที่ผ่านมา
นายอันวาร์อธิบายว่า การตัดสินใจของนายอนุทินในการระงับการดำเนินการตามข้อตกลงดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากมีรายงานเหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 4 นาย
“ประเด็นที่ถูกยกขึ้นมาในขณะนี้คือเหตุทุ่นระเบิดในพื้นที่ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับทหารกัมพูชา”
นายอันวาร์ กล่าวว่า ดังนั้นนายอนุทินจึงกล่าวว่า ตราบใดที่เรื่องนั้นยังไม่ได้รับการแก้ไข เราจะชะลอการอนุมัติไว้ก่อน แต่ท่านไม่ได้ตอบโต้ (เพื่อโจมตีกัมพูชา) นายอันวาร์ระบุว่า ขณะนี้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของมาเลเซียกำลังเจรจาต่อ โดยข้อตกลงเดิมคือ การถอนกำลังออกจากชายแดน และแก้ไขปัญหาเหตุระเบิดจากทุ่นระเบิด ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ
แน่นอนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุดนี้ ย่อมทำให้คนไทยโกรธเคือง และเกิดคำถามว่า ข้อตกลงนี้ถูกละเมิดแล้วหรือไม่? แต่ท่านนายกรัฐมนตรีของไทยไม่ได้ตั้งคำถามถึงความรับผิดชอบ หรือบทบาทของเรา พร้อมเสริมว่าไทยได้เรียกร้องให้กัมพูชาปฏิบัติตามเงื่อนไขของข้อตกลงอย่างครบถ้วน
นายอันวาร์ยังตอบคำถาม ในประเด็นที่ถูก พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจ ให้สัมภาษณ์พาดพิงถึงในประเด็นว่า นายอันวาร์ เปิดโอกาสให้สหรัฐอเมริกา เข้ามาแทรกแซงเศรษฐกิจไทย และกล่าวหาว่าอันวาร์ เป็นไส้ศึก โดยนายอันวาร์ ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยกล่าวว่าแม้จะมีผู้วิจารณ์ทั้งในและต่างประเทศ แต่ชาวมาเลเซียควรสวดภาวนาเพื่อสันติภาพแทน และยังกล่าวในทำนอง ไม่ได้สนใจคำพูดของ พล.ท.รังษี โดยบอกว่า ผมไม่มีปัญหากับเรื่องนั้น ไม่ว่าเขาจะน่าเชื่อถือหรือไม่ก็ตาม มันไม่สำคัญ