ตำรวจท่องเที่ยว – สอบสวนกลาง ผนึก FBI สร้างมาตรฐานการฝึกยุทธวิธี – จิตวิทยา เพื่อพัฒนาหน่วย CIT Thailand ร่วมกับ MCATT เพื่อประชาชนและความมั่นคงของชาติ

ภายใต้นโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
และการสั่งการของ พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ที่มุ่งเน้นให้ตำรวจไทยมีทั้ง ความเข้มแข็งทางยุทธวิธี และ ความเข้าใจในจิตใจของประชาชน

เพื่อสร้างความสุข ความปลอดภัย และความไว้วางใจแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว  
ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท., พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท., และ พล.ต.ต.ดนุ กล่ำสุ่ม ผบก.ทท.1
ดำเนินการสร้างความรู้และเตรียมความพร้อมด้านยุทธวิธี เพื่อดูแลนักท่องเที่ยวและประชาชนในช่วงเทศกาลลอยกระทง–ปีใหม่ และภารกิจสำคัญด้านความมั่นคงของชาติ

การฝึกอบรม “Tactical Training: Subject Control – Medical Response – Counterterrorism จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–6 พฤศจิกายน 2568 ณ อาคารพิทักษ์สันติ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

โดยมีหัวหน้าชุดครูฝึก
พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ รอง ผบก.ทท.1,
พ.ต.อ.อรรพล สุดสาย ผกก.ฝอ.บก.ทท.3,
พ.ต.อ.ชัย สงวนสิน ผกก.ฝอ.6 บก.อก.บช.ทท.

ได้รับการสนับสนุนจาก ดร.ชัยยันต์ ชาญช่าง ผู้ประสานงานโครงการฝึกอบรมครูฝึกตำรวจ พร้อมทีมครูฝึกผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐอเมริกา อดีตเจ้าหน้าที่ FBI Tactical Instructor Team ผู้ผ่านการปฏิบัติจริงในภารกิจระดับสากล

จุดประสงค์ของการฝึกหลักสูตรนี้มุ่งพัฒนาเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มีศักยภาพครบ 3 มิติหลัก

1. การควบคุมบุคคล (Subject Control) – ลดการใช้กำลังโดยเข้าใจสถานการณ์และจิตใจ

2. การตอบสนองทางการแพทย์ภาคสนาม (Medical Response) – ช่วยชีวิตด้วยสติและความรับผิดชอบ

3. การรับมือภัยคุกคาม (Counterterrorism) – ป้องกันเหตุรุนแรงอย่างเป็นระบบ

บรรยากาศการฝึกเป็นไปอย่างเข้มข้น ครูฝึกต่างประเทศเน้นการสร้าง “Operational Mindset” ควบคู่กับการจำลองสถานการณ์จริง เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าใจหลัก
“ควบคุม – สื่อสาร – ช่วยชีวิต” อย่างแม่นยำและปลอดภัย เชื่อมโยงสู่ “CIT Thailand” – หน่วยใหม่ที่เสริม ไม่ซ้ำกับ MCATT

โครงการฝึกนี้ถือเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนา Crisis Intervention Team (CIT) Thailand ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมผลักดันร่วมกับ กรมสุขภาพจิต และ ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน (ศพฉ.) เพื่อยกระดับการตอบสนองเหตุผู้มีภาวะทางจิตหรืออารมณ์ในพื้นที่จริง CIT ไม่ได้มาทดแทน MCATT แต่เป็น “ฟันเฟืองในระบบเดียวกัน”
โดย CIT ทำหน้าที่ในระยะเผชิญเหตุ (Crisis Scene) ส่วน MCATT ดูแลในระยะเยียวยา–ฟื้นฟู (Post-Crisis) CIT Thailand จึงเปรียบเสมือน “ด่านหน้าเชิงจิตใจ” (First Emotional Responders) ที่ช่วยเชื่อมระหว่างการปฏิบัติของตำรวจและทีมแพทย์จิตเวช เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภาวะจิตเวชเป็นไปอย่างปลอดภัยต่อทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชน

ความร่วมมือระดับชาติ

ภายใต้แนวคิด “One Team – One Heart – One Mission”
สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมสุขภาพจิตร่วมมือพัฒนา CIT–MCATT Thailand Network เพื่อขยายผลสู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยมี พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ รอง ผบก.ทท.1 เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดต้นแบบและออกแบบหลักสูตรต้นแบบระดับชาติ
ที่เชื่อมระหว่าง ยุทธวิธี – จิตวิทยา – การแพทย์ – ชุมชน พร้อมเสนอให้พัฒนา “CIT Trainer” ในแต่ละภูมิภาค เพื่อสร้างกำลังครูฝึกในระดับจังหวัด

ข้อมูลเชิงจิตวิทยาและการสื่อสารต่อสังคม - ในรอบระยะเวลาเพียงไม่ถึงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกรณีบุคคลเฝ้าระวังทางจิตเวชในพื้นที่รวมกว่า 16 เคส ซึ่งสะท้อนแนวโน้มความเปราะบางทางอารมณ์และภาวะซึมเศร้าในสังคมไทยที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ กล่าวไว้ว่า สมองของมนุษย์ในภาวะวิกฤติไม่ได้ทำงานเชิงเหตุผล แต่ทำงานเชิงอารมณ์และความรอด ดังนั้นตำรวจจึงต้องเข้าใจระบบประสาทอัตโนมัติ (Autonomic Nervous System) และรูปแบบการตอบสนอง Fight–Flight–Freeze–Fawn เพื่อเข้าไปช่วยเหลือด้วยความเข้าใจ ไม่ใช่เพียงคำสั่ง

การฝึกในครั้งนี้ไม่เพียงสร้างทักษะด้านยุทธวิธี แต่ยังสร้าง “หัวใจของผู้พิทักษ์”
ให้เจ้าหน้าที่พร้อมปฏิบัติด้วยทั้ง ความเข้มแข็งทางเทคนิค และ ความอ่อนโยนทางจิตใจ
เป็นก้าวสำคัญของ CIT–MCATT Thailand Network ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมผลักดันให้ยั่งยืน “ความมั่นคงของชาติ เริ่มต้นจากความมั่นคงของใจคน” และ “หัวใจของตำรวจไทย คือหัวใจที่จงรักภักดีต่อแผ่นดิน พระมหากษัตริย์ และประชาชน”