วันที่ 31 ตุลาคม 2568 เวลา 10:12 น.
โรคภูมิแพ้ในเด็ก: สาเหตุ อาการ และวิธีการทดสอบ ด้วยความห่วงใยจาก รพ.เจ้าพระยา และ สวพ.FM91
ให้ความรู้โดย พญ.ชนาภรณ์ โมกขมรรคกุล กุมารแพทย์เฉพาะทางโรคภูมิแพ้ และภูมิคุ้มกัน โรงพยาบาลเจ้าพระยา
“โรคภูมิแพ้” (Allergy) คือภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีการตอบสนองที่ไวผิดปกติต่อสารบางอย่างที่โดยทั่วไปไม่เป็นอันตรายต่อคนส่วนใหญ่ ซึ่งในปัจจุบันพบว่ามีอุบัติการณ์เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
[00:11] ความหมายของโรคภูมิแพ้
[00:26] ประเภทของสารก่อภูมิแพ้
[00:46] สาเหตุของโรคภูมิแพ้
[01:54] โรคภูมิแพ้อากาศและโรคหอบหืด
[02:35] โรคแพ้อาหาร
[03:09] โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง
[03:53] วิธีการทดสอบภูมิแพ้
แพทย์หญิงชนาพร โมคคมกุล กุมารแพทย์โรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน โรงพยาบาลเจ้าพระยา ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถเข้าใจถึงสาเหตุ อาการ และแนวทางการวินิจฉัยโรคภูมิแพ้ได้อย่างถูกต้อง
สาเหตุสำคัญของการเกิดโรคภูมิแพ้แบ่งได้เป็น 2 ปัจจัยหลัก คือ:
1. พันธุกรรม: โรคภูมิแพ้สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ หากบิดาหรือมารดาเป็นโรคภูมิแพ้ บุตรจะมีโอกาสเป็นภูมิแพ้ประมาณ 30% และหากทั้งบิดาและมารดาเป็นภูมิแพ้ โอกาสที่บุตรจะเป็นจะสูงขึ้นถึง 70%
2. สิ่งแวดล้อม: สารก่อภูมิแพ้สามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น การหายใจ (เช่น ไรฝุ่น, ขนสัตว์เลี้ยง), การรับประทาน (เช่น นมวัว, ไข่, อาหารทะเล) หรือการสัมผัสทางผิวหนังนอกจากนี้ ปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ เช่น มลภาวะทางอากาศ, ฝุ่น PM2.5 และควันบุหรี่ ก็สามารถส่งผลต่อการเกิดอาการได้เช่นกัน
กลุ่มโรคภูมิแพ้ที่พบบ่อยในเด็ก: อาการของโรคภูมิแพ้แสดงออกได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับระบบอวัยวะที่เกิดการตอบสนองผิดปกติ ดังนี้
1. โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (ภูมิแพ้อากาศ): เกิดจากการอักเสบของเยื่อบุโพรงจมูก ทำให้มีอาการคัดจมูก จาม น้ำมูกใส และคันจมูก หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน เช่น ไซนัสอักเสบได้
2. โรคหอบหืด: เป็นการอักเสบของหลอดลม ทำให้มีอาการไอเรื้อรัง หอบเหนื่อย หายใจมีเสียงวี้ด หรือแน่นหน้าอก ซึ่งเป็นภาวะที่ควรได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด
3. โรคแพ้อาหาร: อาการแสดงออกได้หลายระบบ เช่น เป็นผื่นลมพิษ, ปากบวม, อาเจียน, ถ่ายเหลว หรือมีอาการทางระบบทางเดินหายใจ อาหารที่พบว่าแพ้บ่อยในเด็กเล็กคือ นมวัวและไข่ส่วนในเด็กโตและผู้ใหญ่มักพบการแพ้อาหารทะเล
4. โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง: แบ่งเป็น ลมพิษ ซึ่งมีลักษณะเป็นผื่นนูนแดง คัน และหายได้เองใน 24 ชั่วโมง’ และผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ที่มีลักษณะเป็นผื่นแดง แห้ง คัน มักพบตามข้อพับต่าง ๆ
แนวทางการวินิจฉัยและการทดสอบภูมิแพ้: เพื่อระบุสาเหตุและวางแผนการดูแลที่ถูกต้อง การทดสอบภูมิแพ้จึงมีความสำคัญ โดยมีวิธีหลักๆ ดังนี้
1. การทดสอบทางผิวหนัง (Skin Prick Test): เป็นการหยดน้ำยาสกัดจากสารก่อภูมิแพ้ลงบนผิวหนังแล้วใช้เข็มสะกิดเบา ๆ เพื่อสังเกตปฏิกิริยา เป็นวิธีที่สามารถทราบผลได้ในเวลาประมาณ 15-20 นาที
2. การตรวจเลือด (Specific IgE): เป็นการตรวจหาสารภูมิต้านทานชนิด IgE ที่จำเพาะต่อสารก่อภูมิแพ้แต่ละชนิดในเลือด
3. การทดสอบด้วยการรับประทาน (Oral Food Challenge): เป็นวิธีมาตรฐานในการวินิจฉัยการแพ้อาหาร โดยให้ผู้ป่วยลองรับประทานอาหารที่สงสัยทีละน้อยภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
การทำความเข้าใจโรคภูมิแพ้อย่างถูกต้อง จะช่วยให้ผู้ปกครองสามารถสังเกตอาการเบื้องต้นและนำบุตรหลานมาพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและคำแนะนำในการปฏิบัติตัวที่เหมาะสมต่อไปได้
ติดต่อแผนก Call Center
ทุกวันเวลา 08.00-17.00 น.
โทร 024335666 / 024338222
Line OA : @chaophya
http://tiktok.com/@chaophyahospital
http://facebook.com/hospitalchaophya
http://instagram.com/chaophyahospital
http://youtube.com/@TheChaophyahospital
#โรคภูมิแพ้ #โรคภูมิแพ้ในเด็ก #ศูนย์กุมารเวช24ชั่วโมง #โรงพยาบาลเจ้าพระยา #ศูนย์แพทย์เฉพาะทาง24ชั่วโมง #ศูนย์แพทย์เฉพาะทางเที่ยงคืน #FM91
5 ธันวาคม 2568
5 ธันวาคม 2568