วันที่ 30 ตุลาคม 2568 เวลา 17:00 น.
ตร.ทลายรัง ‘’แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีน’ คาพูลวิลล่าหรู ใน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ รวบ 20 ราย แฝงตัวด้วยวีซ่านักเรียน-ท่องเที่ยว สารภาพบอสเก่า จ้างเดือนละแสน
วันนี้ (30 ต.ค.68) เวลา 11.40 น. พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 นำทีม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกเข้าทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนต้องสงสัย ในพื้นที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
โดยเป็นการจับกุมกลุ่มนายทุนชุดเดิมที่เคยก่อเหตุในพื้นที่มาแล้วหลายครั้ง โดยอาศัยเช่าพูลวิลล่าหรู เปิดฐานปฏิบัติการหลอกคนชาติเดียวกัน กลุ่มนายทุนชาวจีนได้เช่าเหมาพูลวิลล่าใน อ.แม่ริม โดยมีที่พักหลายหลัง โดยมีค่าเช่า เดือนละ 120,000 บาท ต่อเดือน เพื่อใช้เป็นฐานปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลอกลวงชาวจีนด้วยกันเอง โดยอ้างเรื่องพัสดุตกค้างจากประเทศจีน
จากการตรวจสอบ พบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ได้รับค่าจ้างสูงถึงคนละ 100,000 บาท ต่อเดือน โดยสามารถจับกุมชาวจีนได้รวม 20 คน แบ่งเป็นชาย 14 คน และหญิง 6 คน และบาดเจ็บขณะหลบหนี เป็นหญิง 1 ราย ได้รับบาดเจ็บขาหัก เนื่องจากพยายามกระโดดหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าตรวจค้น ซึ่งวิลล่าดังกล่าวมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อสังเกตความเคลื่อนไหวทางเข้าตลอดเวลา
จากการสืบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาส่วนใหญ่แฝงตัวเข้ามาในประเทศไทยโดยใช้ วีซ่านักท่องเที่ยว แบบ 1 เดือนต่อ 1 เดือน และบางส่วนใช้วีซ่าของ นักเรียน เพื่อเข้ามาศึกษาตามมหาวิทยาลัยในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยบางรายอยู่ในไทยมานานนับปี
พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชุดนี้เป็น กลุ่มนายทุนเก่า ที่เคยถูกจับกุมไปแล้วถึง 2 ครั้ง ทั้งในพื้นที่ อ.หางดง และ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยยังคงใช้พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นฐานหลอกลวงชาวจีน ซึ่งการดำเนินคดีก่อนหน้าใน 2 เคสที่ผ่านมา ได้มีการดำเนินคดีข้อหาซ่องโจรและฉ้อโกง ก่อนจะถูกผลักดันกลับประเทศจีน ซึ่งทางจีนก็ได้ดำเนินคดีกับนายทุนกลุ่มดังกล่าวแล้ว แต่นายทุนกลุ่มเดิมก็ยังคงส่งชาวจีนชุดใหม่เข้ามาเช่าบ้านหลังใหญ่เพื่อก่อเหตุซ้ำอีก
โดยการปฏิบัติการในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะได้สืบสวนขยายผลและติดตามจับกุมผู้หลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป

