24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 12 ตุลาคม 2568
>> ไฟไหม้เครื่องปั่นไฟที่ลูกพ่วงแล้วลุกลามรถกระบะ เสียหายบางส่วน จ.สิงห์บุรี
06.30 น. ศูนย์วิทยุฯ รับแจ้งเหตุ 191 สถานีตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี รับแจ้งว่า มีเหตุรถยนต์ เพลิงไหม้ บนถนนสาย สิงห์บุรี - บางระจัน กม. ที่ 5 พื้นที่ หมู่ที่ 7 ตำบล ต้นโพธิ์ อำเภอ เมืองสิงห์บุรี บริเวณ เยื่องร้านครัวกระเพราหอม
เจ้าหน้าที่ฯ ตำรวจ พร้อมด้วย รถมูลนิธิฯ เจ้าหน้าที่ฯ ปอเต็กตึ้ง และ แจ้งมายัง รถดับเพลิง เทศบาลเมืองสิงห์บุรี ไปช่วยสกัดเพลิง ใช้เวลาประมาณ 15 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้
จุดเกิดเหตุพบ รถยนต์กระบะ โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน บุรีรัมย์ ต่อพ่วงบรรทุกเครื่องดนตรีเครื่องแห่ ล้มอยู่ด้านข้าง สภาพรถรถตัวพ่วงที่บรรทุกเครื่องแห่ เพลิงไหม้ทั้งคัน ส่วนตัวรถที่ลากมาได้รับความเสียหายบางส่วน
สอบถาม ผู้ขับรถคันดังกล่าว ทราบว่าจะไปงานกฐินสามัคคี ที่วัดหนองตาแก้ว จังหวัด สุพรรณบุรี มากัน 4 คน มาถึงจุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงกระแทก จากนั้นตัวพ่วงก็พลิกคว่ำ ซึ่งน่าจะเกิดจากเครื่องปั่นไฟ แล้วก็เกิดไฟลุกขึ้นดังกล่าว จนมีเจ้าหน้าที่ฯ เข้ามาให้การช่วยเหลือ ดังกล่าว
>> ชาวบ้านมองหาปลา กลับเจอศพชายนิรนาม ลอยติดกอไม้อยู่ในคลอง
11.15 น. สภ.แกลง จ.ระยอง ได้รับแจ้งว่า มีลูกจ้างสวนมะพร้าวว่าพบศพชายนิรนามลอยอยู่ในคลองโพล้ ติดกับกอไม้ใกล้สะพาน ม.12 ต.ทุ่งควายกิน อ.แกลง จ.ระยอง
ที่เกิดเหตุ ตรวจสอบพบร่างของ ผู้ชาย 1 ราย ไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 17-20 ปี ลักษณะนอนคว่ำหน้าสวมใส่เสื้อแขนสั้นสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ สภาพศพขึ้นอืดอยู่ในน้ำ เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบไม่พบร่องรอยถูกทำร้ายร่างกาย แต่มีลักษณะคล้ายกับ ชายไทยอายุ 19 ปี ที่มีการแจ้งบุคคลสูญหายเมื่อวันที่ 10 ต.ค.68 ที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะติดต่อญาติมาตรวจสอบ
จากการสอบถาม ชายไทย อายุ 38 ปี เล่าว่า ก่อนจะพบศพชายนิรนาม ตนได้เดินทางไปซื้อน้ำแข็ง ขากลับมามองลงไปในคลองเพื่อที่จะดูปลา แต่กลับพบเจอกับศพชายนิรนามดังกล่าวอยู่ในน้ำ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยเจอมาก่อน เพราะตน จะมองลงไปในคลองทุกวัน ศพนี้น่าจะลอยน้ำมาติดกับกอไม้ หลังจากนั้นจึงแจ้งอาสากู้ภัยพุทธศาสตร์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. แกลง ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบ
>> เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ช่วยนักท่องเที่ยว 3 คน หลังเกิดน้ำป่าไหลหลากที่น้ำตกสาริกา
12.40 น. เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ลงสู่บริเวณน้ำตกสาริกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก
นายยศวัฒน์ เธียรสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) เปิดเผยว่า จากรายงานของนายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รับแจ้งจาก หัวหน้าเขตการจัดการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ 6 เจ้าหน้าที่ประจำน้ำตกสาริกา ว่าเกิดฝนตกหนักจึงได้แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวให้อพยพขึ้นจากบริเวณน้ำตกสาริกาทันที แต่เนื่องจากน้ำป่าไหลมาอย่างรวดเร็ว ทำให้นักท่องเที่ยว 3 คน ไม่สามารถเดินข้ามกลับมาทันและติดอยู่บริเวณเกาะกลางน้ำตก
เจ้าหน้าที่ประจำน้ำตกสาริกาได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือทันทีโดยใช้เชือกผูกติดกับต้นไม้เป็นเส้นทางนำนักท่องเที่ยวทั้ง 3 คน ข้ามกลับมายังฝั่งได้อย่างปลอดภัย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดพื้นที่น้ำตกสาริกาชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และเมื่อสถานการณ์น้ำป่ากลับสู่สภาวะปกติหลังจากผ่านไปประมาณ 30 นาที จึงได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ตามปกติ
>> นายธรรมนัส ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี พร้อมมอบถุงบรรเทาทุกข์ช่วยเหลือประชาชน
13.00 น. ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดนนทบุรี เพื่อปฏิบัติภารกิจตรวจราชการและรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ณ โรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์ ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
โดยมี นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ นักเรียน และประชาชนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ภายในกิจกรรม รองนายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมประชุมเพื่อ รับฟังปัญหาด้านการศึกษา 5 ประเด็นเร่งด่วน จากผู้อำนวยการโรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์ และผู้บริหารสถานศึกษาในพื้นที่ พร้อมทั้งรับฟังการรายงานสรุปแผนแก้ไขปัญหาด้านน้ำ ตลาด และมาตรฐานอาหาร โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ สำนักงานเกษตรจังหวัดนนทบุรี กรมชลประทาน สำนักงานประมงจังหวัดนนทบุรี สำนักงานสหกรณ์จังหวัดนนทบุรี สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนนทบุรี และสถานีพัฒนาที่ดินนนทบุรี
ภายหลังการประชุม รองนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชม นิทรรศการจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งจัดแสดงองค์ความรู้และนวัตกรรมทางการเกษตร อาทิ การแจกเมล็ดพันธุ์ผักสวนครัว การสาธิตการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในแหล่งน้ำชุมชน การบำบัดน้ำเสียโดยใช้จุลินทรีย์ และการพัฒนาเกษตรแบบยั่งยืนในชุมชน
ในโอกาสนี้ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ยังได้มอบ ถุงยังชีพแก่ประชาชนกลุ่มเปราะบางเพื่อเป็นขวัญกำลังใจและช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี
>> ไฟไหม้รถยนต์ ภายในวัดพระยาสุเรนทร์ ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ
13.13 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ สถานที่เกิดเหตุ วัดพระยาสุเรนทร์ ซอยพระยาสุเรนทร์ 50 ถนนพระยาสุเรนทร์ แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ชนิดเก๋ง สีขาว หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร รถใช้น้ำมันเบนซินและแก๊สแอลพีจีเป็นเชื้อเพลิง เพลิงลุกไหม้เสียหายบริเวณห้องเครื่องยนต์ ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงใช้น้ำทำการระบายความร้อน
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก ไฟฟ้าลัดวงจรภายในห้องเครื่องยนต์ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางชัน
>> เด็กชายวัย 12 ปีลื่นโขดหินจมน้ำ เพื่อนๆ พยายามช่วยแล้วแต่ไม่สามารถ ประสานกู้ภัยลงงมร่าง จ.มุกดาหาร
14.00 น. สมาคมกู้ภัยร่วมใจมุกดาหาร ได้รับแจ้งเหตุเด็กจมน้ำ สถานที่เกิดเหตุ ห้วยสุดคลองชลประทานคำชะอี ในพื้นที่ อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
ที่เกิดเหตุ ทราบว่า ผู้สูญหาย ได้ลื่นตกน้ำตรงโขดหิน เพื่อนลงไปช่วยแล้วแต่เกิดการดึงกันลง เพื่อนเลยว่ายน้ำขึ้นมา
เพื่อนเล่าว่า ได้ออกมาตกปลาด้วยกัน 6 คน ผู้ประสบเหตุได้ลื่นหินลงไปจุดที่ลึกไม่สามารถช่วยขึ้นมาได้ จึงได้รับการประสานจากกู้ชีพโรงพยาบาลคำชะอี ขอทีมนักประดาน้ำค้นหาใต้น้ำ จึงจัดส่งนักประดาน้ำนทีร่วมใจฯเข้าพื้นที่ทำการค้นหา ใช้เวลาไม่นาน จึงพบผู้เสียชีวิต 1ราย เป็นเด็กชาย อายุ 12 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คำชะอี พร้อมแพทย์เวรร่วมตรวจสอบ ก่อนมอบให้กู้ภัยร่วมใจฯ จุดคำชะอี ดำเนินการนำร่างส่ง รพ.เพื่อชันสูตรต่อไป
>> รถกระบะเสียหลักฟาดเสาไฟฟ้า ริมถนนหมายเลข 304 มีผู้บาดเจ็บสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่ รพ.
14.00 น. รับแจ้งจาก สมาคมพุทธอุปถัมภ์แห่งประเทศไทย มีอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักชนเสาไฟฟ้า และมีผู้บาดเจ็บสาหัส ริมถนนหมายเลข 304 ในพื้นที่ ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะชนเสาไฟข้างทาง ตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นผู้หญิง 1 รายมีอาการสาหัสและหมดสติ เจ้าหน้าที่ทำการปั๊มหัวใจ เคลื่อนย้ายผู้ได้รับบาดเจ็บส่ง รพ.พนมสารคาม และรับแจ้งว่าได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ สภ.พนมสารคาม
>> ”เลขาธิการฯ กอ.รมน.“ เน้นย้ำให้นำนโยบายสู่การปฏิบัติจริง เตรียมความพร้อม ซ้อมแผนอพยพ รับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังตึงเครียด
14.16 น. พล.ต.ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสธนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ กอ.รมน. ได้เน้นย้ำการนำนโยบายที่ได้รับมอบจาก พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ในฐานะรอง ผอ.รมน. ในการปฐมนิเทศผู้บริหาร กอ.รมน. ประจำปี 2569 ให้เร่งขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติในพื้นที่ ในการให้ กอ.รมน.จังหวัดชายแดนเตรียมพร้อมการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงและหน่วยงานปกครองในท้องถิ่น เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติในพื้นที่ส่วนหลัง
โดยในวันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ในฐานะ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสระแก้ว ลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมประชุมร่วมกับผู้นำชุมชน เพื่อเตรียมซ้อมแผนอพยพประชาชนรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา การซักซ้อมครั้งนี้ให้ความสำคัญกับ กลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และเด็กเล็ก ให้ได้รับการอพยพเป็นลำดับแรก พร้อมกำหนด เส้นทางและจุดรวมพลชัดเจน จัดตั้ง โรงพยาบาลสนาม รองรับเหตุฉุกเฉิน ตรวจสอบอุปกรณ์และความพร้อมอย่างรอบด้าน มุ่งเน้น ความปลอดภัยของประชาชนเป็นลำดับแรก
ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ในฐานะ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า “ไม่มีใครบอกได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้นเมื่อใด แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือการเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า”
ทั้งนี้ กอ.รมน.ขอแสดงความยืนหยัดเคียงข้างประชาชน พร้อมบูรณาการหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มกำลัง และส่งกำลังใจให้ประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้ทุกคนมั่นใจในความปลอดภัยและความพร้อมรับมือเมื่อเกิดสถานการณ์ไม่ปกติ
>> นายกฯ เผยกรณีเสียงซาวด์หลอนชายแดนบ้านหนองจาน ยอมใจ ‘กัน จอมพลัง’ ช่วย จนท. ชาวบ้านพื้นที่ชายแดน
15.10 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่ “กัน จอมพลัง” นำเครื่องเสียงไปเปิดซาวด์หลอนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณบ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว ว่า ทุกคนที่เป็นคนไทย ไม่มีใครชอบที่มีคนรุกรานอธิปไตยของเรา การจะไปตำหนิที่เขาแสดงออกในสิ่งที่คิดว่าทำแล้ว ทำให้คนทั่วไปรู้ว่านี่คือดินแดนประเทศไทย และเรื่องนี้ตนจะพยายามทำให้เป็นสากลมากที่สุด ซึ่งนายกัน เวลาที่เขาช่วยเหลือประชาชนก็ต้องยอมใจเขา ตอนที่ตัวเองเป็นฝ่ายค้านแล้วมีเหตุต้องอพยพชาวบ้าน 3-4 จังหวัด ตัวเองไปดูแลประชาชนก็เจอแต่รถกัน จอมพลัง จนตกใจว่าทำไมคนๆเดียวถึงสามารถระดมความช่วยเหลือได้มากกว่ารัฐ และวันนี้เมื่อเราเข้ามาเป็นรัฐบาลแล้วก็ไม่ใช่ว่าไปแข่งกับ กัน จอมพลัง แต่ความช่วยเหลือแรกต้องมาจากรัฐบาลก่อน ส่วนคนดีๆ อย่างกัน จอมพลัง ก็มาเสริม ซึ่งประชาชนได้ประโยชน์ รัฐบาลต้องไม่ผลักภาระนี้ให้ประชาชนดูแลกันเอง รัฐบาลต้องดูแลเป็นพื้นฐาน
ขณะที่มีกระแสข่าวเรียกร้องให้ลงพื้นที่บ้านหนองจานนั้น ยืนยันจะเดินทางไปอย่างแน่นอน โดยระบุสั้นๆ ว่า “See You Soon” และการลงพื้นที่จะเป็นไปเพื่อสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ ไม่สร้างอุปสรรคการทำงานของเจ้าหน้าที่ จะต้องไปเพื่อสนับสนุนการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย เราอยู่ข้างหลังเราสนับสนุนได้
และยืนยันว่าจะยังไม่เปลี่ยนตัวประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ฝ่ายไทย โดยให้เหตุผลว่าต้องการใช้ผู้ที่มีความสามารถทำงานต่อไป และจะไม่เปลี่ยนตัวบุคคลสำคัญระหว่างที่สถานการณ์ยังคงอยู่
>> รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ หนุ่มน้อยวัย 16 ปีบาดเจ็บสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
16.10 น. ทางสมาคมวีอาร์กู้ภัยวังสามหมอ ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ ชนกับรถยนต์กระบะ และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส บนถนนบ้านโคกสะอาด ต.หนองหญ้าไซ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี
ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กะบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ป้ายทะเบียน มหาสารคาม มีสภาพพังเสียหายบริเวณกันชนหน้า อยู่กลางถนน ห่างไปพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า สีดำ-แดง ป้ายทะเบียน อุดรธานี ล้มอยู่กลางถนน มีสภาพพังเสียหายทั้งคัน
เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็น ชาย 1ราย อาการสาหัส หายใจรวยริน ชีพจรอ่อนแรง ไม่รู้สึกตัว เจ้าหน้าที่จึงทำการปั้มหัวใจ (CPR) ก่อนจะนำส่ง รพ.วังสามหมอ และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 16 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังสามหมอ
>> หนุ่มวัย 28 หยิบปืนมาเล่นกลางวง ลั่นใส่ศีรษะตัวเองต่อหน้าเพื่อน เจ็บสาหัส
17.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปู จังหวัดสมุทรปราการ รับแจ้งเหตุชายถูกอาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถนนสายบางพลี – ตำหรุ ตำบลแพรกษาใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังรับแจ้งได้ประสานมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ และหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลศิครินทร์สมุทรปราการ เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์สองชั้น ภายในห้องโถงชั้นล่างพบผู้ได้รับบาดเจ็บชายนอนจมกองเลือด 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 28 ปี ถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่ศีรษะ อาการสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนรีบนำส่งโรงพยาบาล พบอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และกระสุนอีก 1 นัดวางอยู่บนโต๊ะกลางวงเหล้า
เพื่อนร่วมวงเผยว่า ขณะนั่งดื่มสุรากันอยู่ 3 คน จู่ๆ ผู้บาดเจ็บได้หยิบปืนออกมาเล่นตามปกติ ก่อนยกขึ้นใกล้ศีรษะตัวเองแล้วลั่นต่อหน้าเพื่อน เสียงปืนดังสนั่นก่อนเจ้าตัวล้มลงกับพื้น
เบื้องต้นตำรวจได้ตรวจเก็บปืนของกลางไว้ตรวจสอบ พร้อมเชิญพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ไปสอบปากคำเพิ่มเติม และตรวจคราบเขม่าดินปืน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์ครั้งนี้ ว่าเกิดจากความประมาทหรือมีปัจจัยอื่นแอบแฝง
>> กองทัพภาคที่ 1 โดย กกล.บูรพา รายงานตรวจพบทุ่นระเบิดเพิ่มอีก 2 ทุ่น ในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว
17.32 น. กองทัพภาคที่ 1 โดยศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ได้รับรายงานจาก กกล.บูรพาศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (ศทช.) ในภารกิจการตรวจพบทุ่นระเบิด ในพื้นที่ปฏิบัติการบ้านหนองหญ้าแก้ว ประจำวันที่ 12 ต.ค. 68 ซึ่งเข้าสู่วันที่ 3 ของการปฏิบัติงาน โดยชุดตรวจค้นวัตถุระเบิด ฉก.อรัญประเทศ ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลเพิ่มเติม เป็นชนิดระเบิดอยู่กับที่ PMN จำนวน 2 ทุ่น สภาพพร้อมใช้งาน
ทั้งนี้ พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1/ผบ.ศปก.ทภ.1 ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นวัตถุระเบิด ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท ซึ่งคาดว่าน่าจะยังมีทุ่นระเบิดตกค้างอีก กำชับให้กองทัพภาคที่ 1 ขอความร่วมมือส่วนราชการสื่อสารให้ประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนมวลชนและสื่อมวลชนงดเข้าพื้นที่ดังกล่าว เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยต่อไป
>> รถนั่งส่วนบุคคล, รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกัน บนสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ มีผู้เสียชีวิต 3 ราย
19.25 น. รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มีอุบัติเหตุ รถนั่งส่วนบุคคล และรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกัน มีผู้บาดเจ็บสาหัส บนถนนกาญจนาภิเษก ฝั่งขาออก มุ่งหน้าบางบัวทอง บนสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ ในพื้นที่เขตตลิ่งชัน กทม.
ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล ฮอนด้า แจ๊ส สีขาว ป้ายทะเบียน กทม., รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีดำ ป้ายทะเบียน กทม. และ รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีดำ ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะเฉี่ยวชนกัน สภาพรถพังเสียหาย
ตรวจสอบพบว่า มีผู้เสียชีวิตทั้้งหมด เป็นผู้ชายจำนวน 3 ราย ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน
>> แผ่นดินไหว ขนาด 3.7 ภายในพื้นที่ของประเทศเวียดนาม
23.53 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 3.7 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเวียดนาม ศูนย์กลาางห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ประมาณ 304 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย
>> สาวแดนแซมบ้าเดือด ถ่มน้ำลาย ใส่รองสารวัตร จร.พัทยา หลังถูกออกใบสั่งขับย้อนศร-ไม่สวมหมวกกันน็อก
01.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุวุ่นวายกลางเมืองพัทยา หลังนักท่องเที่ยวสาวชาวบราซิล วัย 31 ปี โมโหเดือดใส่ตำรวจจราจร สภ.เมืองพัทยา ถึงขั้นถุยน้ำลายใส่หน้าเจ้าหน้าที่และพยายามเข้าทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดบริเวณปากซอย 9 ถนนเลียบชายหาดพัทยา
ภาพเหตุการณ์ที่ถูกบันทึกไว้ เผยให้เห็นนาทีเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามควบคุมตัวหญิงสาวลักษณะคล้ายทอม ขณะพยายามสวมกุญแจมือ โดยมีหญิงต่างชาติอีกคนพยายามเข้าอธิบายให้เจ้าหน้าที่เข้าใจ ท่ามกลางความวุ่นวายและเสียงโวยวายของผู้ต้องหา ที่ไม่ยอมให้จับโดยง่าย จนต้องมีตำรวจอีกนายเข้าช่วยควบคุมตัวไว้ได้สำเร็จ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนและเข้าห้องควบคุม
ร.ต.ท.ศิวกร รองสารวัตรจราจร สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจวินัยจราจรหน้าปากซอย 9 ตามคำสั่งของ พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา เพื่อกวดขันผู้ขับขี่ย้อนศรจากถนนพัทยาสายสองมุ่งหน้าถนนชายหาด พบหญิงสาวชาวบราซิล อายุ 31 ปี ขับรถจักรยานยนต์ย้อนศรโดยไม่สวมหมวกกันน็อก เจ้าหน้าที่จึงเรียกตรวจและออกใบสั่งตามระเบียบ
แต่แทนที่นักท่องเที่ยวสาวรายนี้จะยอมรับผิด กลับไม่ยอมชำระค่าปรับ และแสดงอาการไม่พอใจอย่างรุนแรง เมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะต้องยึดรถไว้ก่อน จนกว่าจะมาชำระค่าปรับและนำใบเสร็จมารับรถคืน หญิงสาวถึงขั้นถ่มน้ำลายใส่เจ้าหน้าที่ ด่าทอหยาบคาย และพยายามทำร้ายร่างกาย
เจ้าหน้าที่จึงประสานกำลังสายตรวจ พร้อมล่ามแปลภาษาเข้าระงับเหตุ ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวนและบันทึกจับกุม เบื้องต้นแจ้ง 3 ข้อหา ได้แก่ 1. ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงาน 2. ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ 3. ดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาเข้าห้องควบคุม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> แผ่นดินไหว ประเทศเวียดนาม
01.58 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 4.8 ลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเวียดนาม ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ประมาณ 300 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย
>> สาววัย 23 ปีขี่รถจักรยานยนต์ ชนกับหญิงเร่ร่อน วัย 40 ปีกลางถนน บาดเจ็บสาหัสด้วยกันทั้งคู่ จ.ชลบุรี
03.10 น. ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์ชนคนเดินเท้า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนถนนพัทยากลาง ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร สภาพล้มคว่ำอยู่กลางถนน หน้ารถพังเสียหายยับเยิน ใกล้กันพบผู้ขับขี่ เป็นหญิงไทย อายุ 23 ปี นอนบาดเจ็บอยู่กลางถนน มีบาดแผลถลอกตามร่างกายและศีรษะได้รับบาดเจ็บ
ส่วนคู่กรณีเป็นหญิง ลักษณะเป็นคนเร่ร่อน อายุประมาณ 40 ปี นอนบาดเจ็บอยู่ริมทาง โดยมีบาดแผลฉกรรจ์บริเวณแขนขวา และขาซ้ายหักผิดรูป เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เร่งให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงเพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วน
จากการสอบถาม ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ขณะขับรถยนต์มุ่งหน้าออกจากปากทางพัทยากลาง พบว่าผู้บาดเจ็บกำลังเดินข้ามถนน ตนจึงชะลอรถ ให้ผู้บาดเจ็บเดินข้าม จังหวะนั้น รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็ว แซงรถของตนทางด้านซ้าย ก่อนจะชนหญิงเร่ร่อนที่กำลังเดินข้ามถนนเข้าอย่างจัง จากนั้นตนจึงรีบจอดรถลงมาดูและแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือทันที
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน ก่อนดำเนินการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุครั้งนี้ต่อไป
>> แผ่นดินไหว ที่ สปป.ลาว
05.07 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 3.7 ลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศลาว ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ บ้านน้ำช้าง ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ประมาณ 99 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย
16 ธันวาคม 2568
รถจักรยานยนต์ชนกับรถพ่วง หนุ่มวัย 26 ปี เสียชีวิตกลางถนนฉลองกรุง
16 ธันวาคม 2568
16 ธันวาคม 2568
รถจักรยานยนต์ชนกับรถพ่วง หนุ่มวัย 26 ปี เสียชีวิตกลางถนนฉลองกรุง
16 ธันวาคม 2568