24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 7 ตุลาคม 2568
>> หนุ่มเมียนมา ออกตามหาเมีย ก่อนพบเป็นศพจมน้ำในทุ่งนาหลังวิน จยย. ริมถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย
08.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุพบศพชายนอนจมคว่ำหน้าอยู่ในนาข้าว บริเวณหลังวิน จยย.รับจ้าง ริมถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ม.4 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
ในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นนาข้าวที่รอการเพาะปลูกและเต็มไปด้วยน้ำ พบร่างของผู้เสียชีวิตเป็นชาย อายุ 31 ปี นอนจมน้ำคว่ำหน้าอยู่ในแปลงนาดังกล่าว ในสถาพสวมใส่กางเกงขาสั้นสีดำเพียงตัวเดียว ห่างจากจุดที่พบศพไปไม่ไกล พบกระเป๋าเป้ของผู้ตายรวมทั้งเสื้อยืด กางเกงยีนส์ขายาวและรองเท้าแตะถูกถอดกองกันอยู่
จากการสอบถาม ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.พิมลราช กล่าวว่า เมื่อวานนี้ ช่วงเย็น ผู้ตายซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา มาที่วินแห่งนี้เพื่อตามหาเมีย แต่พูดคุยสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง วิน จยย.จึงพาไปส่งหากลุ่มเพื่อนต่างด้าวด้วยกัน ก่อนที่ผู้ตายจะซื้อเหล้ากลับมานั่งรอที่วินอีกครั้ง จนกระทั่งในช่วงเช้า วิน จยย.จึงมาพบร่างผู้ตายนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ในนาข้าวแล้ว
ในเวลาต่อมาแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้เข้าทำการชันสูตรพลิกศพ ในเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้ายแต่อย่างใด มีเพียงร่องรอยบาดแผลที่หูซึ่งถูกปลากัดหลังจากที่ผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตไปแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าหลังผู้ตายซื้อสุรามานั่งดื่มรอตามภรรยาในช่วงกลางคืน ได้ถอดเสื้อผ้าออกเพื่อจะลงไปจับปลามาทำเป็นอาหาร แต่เกิดพลาดท่าลื่นไถลจนหน้าคว่ำลงไปในน้ำจนเสียชีวิต ก่อนจะมีคนมาพบร่างในตอนเช้าวันนี้
>> ตำรวจน้ำภูเก็ต ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว รอดอันตรายจากใบจักรเรือหวุดหวิด รวบกัปตันเรือ ฐานไม่มีใบอนุญาต
09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำ (ตำรวจน้ำภูเก็ต) ออกตรวจระดมปราบปรามอาชญากรรมในเขตพื้นที่รับผิดชอบบริเวณท่าเรือในพื้นที่ ต.รัษฎา อ.เมือง จว.ภูเก็ต
โดยในระหว่างทำการตรวจเรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สังเกตุเห็น นักท่องเที่ยวหญิงชาวต่างชาติ ล้มอยู่ทางท้ายเรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าช่วยเหลือ ได้อย่างหวุดหวิดจากใบจักรเรือ ที่กัปตันเรือไม่ได้สังเกตเห็นความอันตรายแก่ลูกเรือและนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นเรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าช่วยเหลือนำตัวนักท่องเที่ยวดังกล่าวขึ้นมาสังเกตอาการบนฝั่ง พบว่านักท่องเที่ยวดังกล่าวบาดเจ็บเล็กน้อย
หลังจากทำการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรวจสอบเรือบรรทุกคนโดยสารลำดังกล่าว โดยมี นายเอ (นามสมมุติ) เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมเรือ ผลการตรวจสอบปรากฏว่า นายเอ ไม่สามารถนำประกาศนียบัตรรับรองความรู้ความสามารถและไม่สามารถนำใบอนุญาตใช้เรือมาแสดงได้ ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ ทราบว่ากระทำความผิด “ทำการในเรือตำแหน่งที่กฎข้อบังคับสำหรับการตรวจเรือกำหนดโดยมิได้รับประกาศนัยบัตร และไม่นำใบอนุญาตใช้เรือมากับเรือ (มาตรา 150 พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทยฯ)” จากนั้นได้นำตัวมายัง ส.รน.3 กก.8 บก.รน. (ตำรวจน้ำภูเก็ต) เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
>> เพลิงไหม้ภายในโรงงานนำเข้าเครื่องปรับอากาศ ย่านถนนพระยาสุเรนทร์ ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ
09.49 น.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ซอยรามอินทรา 109 ถนนพระยาสุเรนทร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคารคอนกรีตชั้นเดียว ประกอบกิจการนำเข้าเครื่องปรับอากาศ ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่สายพานลำเลียงของเครื่องจักร เพลิงลุกไหม้เสียหายเฉพาะสายพานลำเลียง ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของอาคาร พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 2 ตารางเมตร ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายความร้อน
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากการสะสมความร้อนของสายพานลำเลียง ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางชัน
>> โจรบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ พื้นที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
10.00 น. สถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายใช้อาวุธมีดชิงทรัพย์ภายในร้านสะดวกซื้อ หน้าตลาดภู่ยอดยิ่ง หมู่ที่ 7 ถนนเลียบคลองภาษีเจริญ ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงรีบประสานให้ ร.ต.ท.เดชนคร จันทร์ภูมิ รองสารวัตรสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน พร้อมด้วย สายตรวจหน่วยบริการประชาชนตำบลสวนหลวง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนฯ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยเมื่อไปถึงภายในร้านพบพนักงานประจำร้านจำนวน 3 คน รอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ซึ่งทางพนักงานฯ ได้ให้ข้อมูลในเบื้องต้นว่า ช่วงเกิดเหตุมีลูกค้าเข้ามาในร้านเพียง 1 คน เป็นชาย รูปร่างผอม สูงประมาณ 165 เซนติดเมตร อายุราวๆ 20 ปีเศษ ใส่เสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์สีดำ ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นคนร้ายกระทั่ง ชายคนดังกล่าวชักอาวุธมีดยาวที่เหน็บมาในเสื้อด้านหลังออกมา แล้วขู่ให้พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ที่ยืนอยู่ด้วยกัน 2 คน ไม่ให้ต่อสู้ขัดขืน ก่อนที่คนร้ายจะกระโดดข้ามไปเอาเงินจำนวน 1,400 บาท ที่อยู่ในเครื่องคิดเงินแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกไป โดยพนักงานอีกคนที่อยู่ในร้านเห็นว่าคนร้ายขับรถจักรยานยนต์หลบหนีโดยไม่ทราบทิศทาง หลังเกิดเหตุก็ได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กระทุ่มแบน ได้มีการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานไว้ทั้งหมด โดยจะเร่งติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด
>> รถกระบะเสียหลักพุ่งลงคลองมะเชือ พบผู้บาดเจ็บ 1 และเสียชีวิต 1 ราย จ.บุรีรัมย์
10.27 น. รับแจ้งจาก สภ.นางรอง มีอุบัติเหตุ รถกระบะเสียหลักตกน้ำ บริเวณคลองมะเขือ บ้านหนองตะเคียน ต.หนองโบสถ์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์
ในที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ สีเทา ป้ายทะเบียน นครราชสีมา จมอยู่ในน้ำท้ายรถโผล่ขึ้นมา ตรวจสอบพบว่า มีผู้โดยสารมากับรถจำนวน 2 คน ทางอาสาสมัครกู้ภัยสยาม ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ นำผู้ประสบเหตุออกมาจากตัวได้ 1 รายมีอาการบาดเจ็บไม่สาหัส นำส่งโรงพยาบาลนางรอง ส่วนอีก 1 รายนั้น พบว่าได้เสียชีวิตในลักษณะนั่งอยู่บนเบาะคนขับ ทางเจ้าหน้าที่จึงดำเนินการนำร่างออกมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นางรอง พร้อมแพทย์เวรร่วมตรวจสอบ ก่อนมอบให้อาสาสมัครนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลนางรอง เพื่อหาสาเหตุต่อไป
>> รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้บาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือทำ CPR แต่ไม่เป็นผล
11.15 น.ศูนย์ร่วมกตัญญู จ.ลพบุรี จุด สภ.โคกตูม มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนกับรถยนต์กระบะ และมีผู้บาดเจ็บสาหัส บริเวณ ซอย 7 สายจัตวา ในพื้นที่ ต.โคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีเทา ป้ายทะเบียน ลพบุรี ลํกษณะชนกับ รถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีเทา ใกล้กันพบร่างของผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายมีอาการสาหัส ทางอาสาสมัครเร่งให้การช่วยเหลือ ทำการ CPR และประสานทีมกู้ชีพ รพ.พระนารายณ์ฯ ร่วมให้การช่วยเหลือ ทีมกู้ชีพยืนยันผู้บาดเจ็บเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นหญิงไทย อายุ 52 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกตูม
>> ชาวบ้านสระแก้ว 4 อำเภอชายแดนไทย–กัมพูชา ดีใจได้เงินเยียวยา กรณีอพยพชายแดน
11.47 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่บริเวณหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาตาพระยา จังหวัดสระแก้ว มีประชาชนจำนวนหนึ่งเดินทางมาตรวจสอบสิทธิ์และเช็กยอดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม หลังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โอนเงินเยียวยาตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา
โดยจังหวัดสระแก้วมีผู้ได้รับสิทธิ์รวมกว่า 14,000 ครัวเรือน ใน 4 อำเภอชายแดน ได้แก่ ตาพระยา โคกสูง อรัญประเทศ และคลองหาด ครัวเรือนละ 2,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 28 ล้านบาท
1 ในชาวบ้าน พื้นที่อำเภอตาพระยา เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่รัฐบาลยังไม่ลืมผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชายแดนตึงเครียด แม้จะเป็นจำนวนเงินไม่มาก แต่ถือเป็นน้ำใจจากภาครัฐ และตั้งใจจะนำเงินส่วนนี้ไปทำบุญเนื่องจากวันนี้เป็นวันออกพรรษา ทั้งนี้ ชาวบ้านยังให้กำลังใจทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนว่าอยากให้เอาให้จบ ทหารสู้ๆ
>> รมว.กลาโหม เผยทองที่ถูกปล้นในห้าง สุไหง-โกลก ถูกส่งข้ามประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ด้าน ผบ.ทบ. เตรียมลงพื้นที่
13.49 น. พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยกรณีการตั้งข้อสังเกตการก่อเหตุปล้นร้านทองกลางห้างสรรพสินค้า สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส สูญทองคำมากถึง 600 บาท มีคนในรู้เห็น ว่า จากที่ได้รับรายงานมายังไม่ถึงขนาดนั้น แต่ก็ต้องดูกันต่อไป ซึ่งจากที่รับรายงานมาเป็นการก่อเหตุของกลุ่มขบวนการ BRN เข้ามาปฏิบัติการและหนีกลับไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
ทั้งนี้ ยืนยันว่า เหตุที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับช่วงรอยต่อ ที่มีการเปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 4 และทีมการทำงาน แต่ยอมรับคนร้ายอาจจะอาศัยจังหวะดังกล่าว แต่ก็ต้องให้เวลาแม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ ซึ่งท่านพึ่งรับหน้าที่ได้ 7 วัน และทราบว่าพลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก จะลงพื้นที่ หลังจากนั้น ตนเองก็จะลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์ด้วย ยืนยัยไม่เกิดเกียร์ว่างแน่นอน
ส่วนกรณีทองที่ปล้นไป ถูกส่งไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ด้านพลเอกณัฐพล ยอมรับว่า ได้รับรายงานเช่นนั้น ส่วนการติดตามจับกลุ่มผู้ก่อเหตุและนำทองกลับมานั้น ต้องประสานประเทศเพื่อนบ้าน จึงอยากให้รอการดำเนินการของเจ้าหน้าที่
>> ตำรวจภูธรเมืองสงขลา คืบหน้า เหตุยิงกันเสียชีวิต "ซอยสะดวก ถนนทะเลหลวง" จับตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว
15.07 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณีเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างสงขลาร่วมใจ รับแจ้งเหตุใช้อาวุธปืนยิงกัน ที่บริเวณบ้านหลังหนึ่ง ซอยสะดวก ถนนทะเลหลวง ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา จากการตรวจสอบ พบผู้บาดเจ็บถูกยิงเป็นชาย 1 ราย อายุ 48 ปี ซึ่งได้เสียชีวิตต่อมาระหว่างนำส่งรพ. ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุได้หลบหนีไปพร้อมอาวุธปืน
เหตุการณ์ดังกล่าว สถานีตํารวจภูธรเมืองสงขลา เปิดเผยต่อมาว่า ได้รับแจ้งเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันเสียชีวิต ตามวันเวลา สถานที่ข้างต้น โดยจากการสืบสวนสอบสวนข้างต้น พบว่า นาย ปุ้น (นามสมมติ) ได้ใช้อาวุธปืนยิงนาย ข. บาดเจ็บก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังจากการนําส่งโรงพยาบาล และได้รับแจ้งเบาะแสเพิ่มเติมจากชาวบ้านว่า นายปุ้น(คนร้าย) ได้หลบหนีไปหลังก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตํารวจชุดสืบสวน ชุดสายตรวจงานป้องกันปราบปราม สภ.เมืองสงขลา พร้อมด้วยชุดสืบสวนภูธรสงขลา ได้ระดมสนธิกําลังออกติดตามผู้ต้องหาทันที
จากการตรวจสอบเส้นทางหลบหนี คนร้ายได้ซ่อนอยู่บนภูเขาหลัง มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ม.4 ต.เขารูปช้าง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา ต่อมาเวลาประมาณ 11.30 น. วันเดียวกัน จนท.ตํารวจได้ปิดล้อมตรวจค้นและติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาได้พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนี พร้อมด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้น จํานวน 1 กระบอก
สอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในทันทีว่า ตามวันเวลาที่และสถานที่เกิดเหตุ ได้ใช้อาวุธปืน ลูกซองสั้น ยิงผู้ตายจํานวน 1 นัด สาเหตุเนื่องจากไม่พอใจที่ผู้ตาย ไม่ส่งชื่อผู้ต้องหาไปรักษาอาการป่วย เจ้าหน้าที่ตํารวจชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นําส่งพนักงานสอบสวนดําเนินคดีตามกฎหมาย
>> “อนุทิน” ลงพื้นที่นครพนม เป็นประธานเปิดงานไหลเรือไฟโลกประจำปี 2568
15.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนครพนม ต.โพธิ์ตาก อ.เมือง จ.นครพนม เพื่อลงพื้นที่ตรวจราชการ พร้อมด้วย น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภริยานายกรัฐมนตรี , นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี , นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม , นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , นายสันติ ปิยะทัต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ ต่อมาเวลา 16.50 น. นายกรัฐมนตรีเดินทางถึงท่าอากาศยานนครพนม โดยมีกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และประชาชนมาต้อนรับ พร้อมชูป้ายข้อความ
จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะลงจุดแรกที่โรงเรียนเซนต์ยอแซฟนครพนม (สันตยานันท์) ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม นายกรัฐมนตรี พบปะส่วนราชการและประชาชนจังหวัดนครพนม พร้อมมอบนโยบายสำคัญของรัฐบาล และช่วงค่ำจะเป็นประธานพิธีเปิดงานมหกรรมไหลเรือไฟโลก จังหวัดนครพนม ประจำปี 2568 และงานยกระดับเทศกาลเรือไฟไทยสู่เรือไฟโลก
>> "ผบ.ตร." เรียกประชุมด่วน สั่งเร่งล่าคนร้ายปล้นร้านทองสุไหงโก-ลก พร้อมยกระดับมาตรการป้องกันเหตุซ้ำทั่วประเทศ
16.48 น. พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ / โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระดับ ทั้งส่วนกลางและพื้นที่ เพื่อกำหนดแนวทางการสืบสวนติดตามคนร้ายอย่างเร่งด่วน กรณีเหตุ คนร้าย ประมาณ 10 คน บุกปล้นร้านทองกลางห้างแห่งหนึ่ง อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ได้ทองคำน้ำหนักกว่า 600 บาททองคำ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 5 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 9 เร่งคลี่คลายคดีนี้โดยเร็วที่สุด พร้อมกดดันพื้นที่อย่างเข้มข้น เพื่อไม่ให้คนร้ายหลบหนีออกนอกพื้นที่ได้ รวมทั้งประสานทุกฝ่ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อร่วมกันติดตามและปิดล้อมตรวจค้นอย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ยกระดับมาตรการป้องกันเหตุซ้ำ โดยให้ตรวจสอบระบบความปลอดภัยของผู้ประกอบการร้านทอง ร้านค้า และพื้นที่อ่อนไหวอื่น ๆ ให้มีระบบป้องกันตนเองที่รัดกุมมากขึ้น เช่น ระบบกล้องวงจรปิดที่เชื่อมโยงกับตำรวจ ระบบสัญญาณแจ้งเหตุฉุกเฉิน และช่องทางสื่อสารระหว่างผู้ประกอบการกับตำรวจในพื้นที่ เพื่อให้สามารถแจ้งเหตุได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
พร้อมกันนี้ ได้สั่งให้หน่วยที่เกี่ยวข้องพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพของ ระบบแจ้งเหตุของผู้ประสบเหตุ ผู้เสียหาย และหน่วยงานภาคีเครือข่าย เพื่อให้การรับแจ้งและตอบสนองเหตุมีความรวดเร็ว ลดความเสียหาย และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนมากยิ่งขึ้น
>> "มทภ.1" ลงพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว ติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา
17.52 น. พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่1/ผบ.ศปก.1 ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว รับฟังการบรรยายสรุปการปฏิบัติงานที่สำคัญของหน่วยทหาร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครองและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องตลอดจนรับฟังแผนการปฏิบัติ ตามแผนเผชิญเหตุและแผนการใช้กำลังในการบังคับใช้กฎหมาย
ในโอกาสนี้ แม่ทัพภาคที่1/ผบ.ศปก.ทภ.1 ได้ชุมการซักซ้อมการเตรียมความพร้อมของทุกภาคส่วน ณ พื้นที่ภูมิประเทศจำลอง พร้อมให้กำลังใจกับกำลังพลแลและเจ้าหน้าที่ ที่มุ่งมั่นทำหน้าที่ในการดูแลปกป้องอธิปไตยของชาติ
สำหรับการลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ของแม่ทัพภาคที่ 1 ในครั้งนี้ เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เยี่ยมให้กำลังใจการปฏิบัติงานของกำลังพลและเจ้าหน้าที่ภาคส่วนต่างๆ ตลอดจนติดตามการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น ยืนยันภารกิจปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างเต็มความสามารถ ควบคู่กับดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นพื้นที่อย่างดีที่สุด
>> นายกฯ นำทัพเปิด ‘ไหลเรือไฟโลก’ สุดตระการตา ปลุกนครพนมสู่มหานครแห่งวัฒนธรรมริมโขง
19.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมไหลเรือไฟโลก จังหวัดนครพนม ประจำปี 2568” และงานยกระดับเทศกาลเรือไฟไทยสู่เรือไฟโลก ณ บริเวณหน้าวัดโพธิ์ศรี อ.เมืองนครพนม โดยมีประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมงานอย่างคึกคัก
นายกฯ รู้สึกยินดีและชื่นชมคณะผู้จัดงานและชาวนครพนมที่ร่วมแรงร่วมใจสืบสาน “ประเพณีไหลเรือไฟ” ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัดนครพนม สะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์ ความศรัทธา และความสามัคคีของพี่น้องชาวนครพนมอย่างลึกซึ้ง
นายกฯ กล่าวถึงพัฒนาการของการจัดงานที่ต่อเนื่อง ถือเป็นเวทีแสดงศักยภาพของคนไทย ในการใช้วัฒนธรรมเป็นพลังขับเคลื่อนและส่งเสริมให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเชื่อมั่นว่างานมหกรรมไหลเรือไฟโลกปีนี้ จะสร้างความประทับใจ ขับเคลื่อน จ.นครพนม สู่จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวและพักผ่อนหลัก
ในช่วงท้าย นายกฯ ได้กล่าวอวยพร “ขอให้ทุกคนนำความขมขื่นไปทิ้งลงแม่น้ำโขง ให้ไหลลงไป ขอให้มีความสุข ความสงบสุข ความสมัครสมานสามัคคีให้แก่ประเทศไทย” พร้อมประกาศเปิดงานอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางเสียงปรบมือดังกึกก้อง และการแสดงเรือไฟที่ตระการตา สะท้อนถึงเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าอย่างแท้จริง
>> ไฟไหม้คืนออกพรรษา บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 5 หลัง ที่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี
20.00 น. ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 199 อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในหมู่บ้านหันน้อย หมู่ 4 ตำบลบ้านยา อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นใกล้เคียงได้ระดมรถน้ำหลายคันเข้าระงับเหตุอย่างเร่งด่วน
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบเพลิงกำลังโหมไหม้อย่างรุนแรง กับบ้านเรือนประชาชนเสียหายรวม 5 หลัง และมีแนวโน้มลุกลามไปยังบ้านข้างเคียง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งฉีดน้ำสกัดเพลิงท่ามกลางความโกลาหล ชาวบ้านต่างช่วยกันขนย้ายสิ่งของมีค่าหนีไฟ
เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้ และยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองหานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
>> แผ่นดินไหว ที่ สปป.ลาว
20.09 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวบนบก ขนาด 3.2 ความลึก 4 กิโลเมตร บริเวณประเทศลาว ศูนย์กลางห่างจาก บ้านน้ำช้าง ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ประมาณ 30 กม. เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย
>> ไฟไหม้ห้องเย็นในโรงงาน อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ จนท.พร้อมรถดับเพลิงระดมฉีดน้ำ ควบคุมไว้ได้ไม่ลุกลาม
21.00 น. ทีมกู้ภัยเฉพาะกิจเชียงใหม่ เข้าตรวจสอบเหตุ เพลิงไหม้ภายในโรงงานแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบต้นเพลิงอยู่บริเวณห้องเย็นของโรงงาน ซึ่งกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากหลายหน่วยงานเร่งระดมกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในที่สุด
ทีมกู้ภัยเฉพาะกิจเชียงใหม่ได้เข้าพื้นที่ สนับสนุนไฟส่องสว่าง เพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถปฏิบัติงานได้อย่างเต็มที่ ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันกำแพง
>> แผ่นดินไหว ในพื้นที่ของประเทศเมียนมา
01.34 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 3.5 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 290 กม. ยังไม่มีรางานผลกระทบต่อประเทศไทย
>> รถแท็กซี่ชนเสาปูนกั้นทาง มีผู้เสียชีวิต
02.40 น. รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตี๊ง มีอุบัติเหตุ รถแท็กซี่เสียหลักชนเสาตอม่อ ถนนพหลโยธิน ฝั่งขาเข้า มาจาก 5 แยกลาดพร้าว ช่วงหน้าซอยพหลโยธิน 20 มีผู้บาดเจ็บสาหัส
ที่เกิดเหตุ พบรถแท็กซี่ สีเขียว-เหลือง ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะชนแท่นปูนกั้นแบ่งช่องจราจร ตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิต เป็นผู้ชาย 1 รายอยู่ในยานพาหนะ สาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ
>> รถจักรยานยนต์ชนกับรถเทรลเลอร์ มีผู้เสียชีวิต
04.10 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุก และมีผู้เสียชีวิต ถนนทางรถไฟสายเก่า ขาออกมุ่งหน้าแยกสรรพาวุธ ใกล้เคียงสำนักงานเขตบางนา
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า เอนแม็นซ์ สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. ล้มคว่ำอยู่ใกล้กัน พบรถเทรลเลอร์ ยูดี สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. ตรวจสอบพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้ชาย อายุประมาณ 50 - 55 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนา
16 ธันวาคม 2568
รถจักรยานยนต์ชนกับรถพ่วง หนุ่มวัย 26 ปี เสียชีวิตกลางถนนฉลองกรุง
16 ธันวาคม 2568
16 ธันวาคม 2568
รถจักรยานยนต์ชนกับรถพ่วง หนุ่มวัย 26 ปี เสียชีวิตกลางถนนฉลองกรุง
16 ธันวาคม 2568