24 ชั่วโมงข่าว ประจำวันที่ 27 กันยายน 2568
>> โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20
09.00 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจ ราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย
>> จังหวัดอุบลราชธานีประชุมเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ หากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา
10.30 น. นายภพ ภูสมปอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชานี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ กรณีภัยอันเนื่องมาจากการกระทำของกองกำลังจากนอกประเทศ จังหวัดอุบลราชธานี ปี 2568 ณ ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที หากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา
และเพื่อเป็นการติดตามสถานการณ์ในพื้นที่บริเวณเขตชายแดนอำเภอน้ำยืน อย่างไกล้ชิด หากมีเหตุจะได้ดำเนินการตามแผนได้ทันท่วงที ซึ่งที่ประชุมได้นำประสบการณ์การทำงาน จากสถานการณ์ที่ผ่านมาฯ มาแก้ไข ปรับปรุง และเพิ่มเติม ในแผนการทำงาน เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและครอบคลุมในทุกๆด้าน
นายภพ ภูสมปอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า อ.น้ำยืน และ อ.น้ำขุ่น ยังไม่มีประกาศอพยพอย่างเป็นทางการ แต่มีประชาชนในพื้นที่ ที่วิตกกังวล สามารถเดินทางไปศูนย์พักพิงที่ อ.เดชอุดม ก่อนได้ ซึ่งสามารถสอบถามผู้นำหมู่บ้านแจ้งแต่ละจุดได้เลย ซึ่งขณะนี้เปิดทุกศูนย์พักพิงแล้ว
>> คนขับรถบรรทุกหัวร้อน ขับปาดคว้าไม้เบสบอลข่มขู่ ใช้เท้าถีบกระจกข้างเก๋งคู่กรณี
12.30 น. จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ คลิปกล้องหน้ารถ เหตุการณ์รถบรรทุก 6 ล้อ ขับปาดหน้ารถเก๋ง ก่อนคนขับจะถือไม้เบสบอลลงมาจากรถ ไปเปิดประตูคนขับรถเก๋ง และด่าทอ ก่อนจะปิดประตูกระแทก 2-3 ครั้ง หลังจากนั้นได้ใช้เท้าถีบกระจกมองข้างพังเสียหาย
มาทีมข่าวได้เดินทางไปพบเจ้าของคลิปกล้องหน้ารถ ได้เล่าเหตุการณ์ว่า วันเกิดเหตุกลับจากไปซื้อของ ขณะขับรถกลับบ้านมาตามถนนกาญจณาภิเษก เลยปากทางเข้าวัดศรีประวัติ ได้มีรถบรรทุก 6 ล้อ ขับมาปาดหน้ารถเก๋งแล้วเบรกเพื่อจะให้ชนท้าย แต่รถเก๋งเบรกทัน ก่อนคนขับรถบรรทุก จะเปิดประตูลงมาจากรถถือไม้เบสบอลลงมา ตนได้ถอยรถหนี จากนั้นคนขับรถบรรทุก เดินมาเปิดประตูรถเก๋ง และด่าทอเหมือนน่าจะเป็นเรื่องขับปาดหน้ากัน ตนสังเกตเห็นคนขับรถเก๋งเป็นผู้ชายสูงอายุ พยายามยกมือเหมือนจะขอโทษ แต่คนขับรถบรรทุก เปิดปิดประตูกระแทกอย่างแรงระบายอารมณ์ 2-3 ครั้ง ก่อนจะใช้เท้าถีบกระจกมองข้างจนหักเสียหาย จากนั้นคนขับรถบรรทุกได้เดินกลับไปขึ้นรถขับออกไป รถเก๋ง ก็ขับตามไป เห็นรถบรรทุก ได้เบี่ยงเข้าช่องทางด่วนไปตนได้นำคลิป เหตุการณ์มาโพสต์เพื่อเป็นการเตือน ไม่อยากให้ใช้อารมณ์ในการขับรถบนท้องถนน และเผื่อผู้เสียหายเห็นโพสต์ จะได้นำไปใช้เป็นหลักฐานแจ้งความ
ทีมข่าวได้ตรวจสอบไปที่ พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.ปลายบาง พื้นที่เกิดเหตุ ว่ามีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความหรือไม่ เบื้องต้นทางผกก.แจ้งว่ายังไม่มีใครมาแจ้งความ แต่ถ้าผู้เสียหายจะเข้ามาแจ้งความก็พร้อมจะดำเนินคดี
>> จับหนุ่มใหญ่บัญชีม้า เกี่ยวข้องขบวนการหลอกให้รัก
13.55 น. ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันจับกุม นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 47 ปี ความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ โดยแสดงตนเป็นผู้อื่นและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนโดยแบ่งหน้าที่กันทำ” จับกุมได้ย่านถนนนวมินทร์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจาก เมื่อปี 2562 ผู้เสียหายทำงานอยู่ที่สมุทรปราการ ได้มีคนร้ายใช้โปรไฟล์อ้างเป็นทหารอเมริกัน หลอกคุยจนเชื่อใจ และคนร้ายหลอกว่าจะส่งเงิน 4.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มาให้เก็บไว้ ต่อมามีสายโทรศัพท์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ศุลกากร หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงิน ค่าภาษี เพื่อรับพัสดุดังกล่าว ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินไป รวม 57 ครั้ง เป็นจำนวนกว่า 9.9 ล้านบาท
หลังโอนเงินครบ มีผู้แอบอ้างเป็นตำรวจประจำสนามบินโทรมาเรียกเงินเพิ่ม 3 ล้านบาท โดยอ้างว่าเงินที่ผู้เสียหายจะได้รับนั้นผิดกฎหมายเป็นค่าปิดคดี ผู้เสียหายเห็นว่าผิดสังเกต ตรวจสอบพบว่าถูกหลอก จึงเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดี จากการสืบสวนพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องในการกระทำผิดครั้งนี้กว่า 20 คน โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำ ตั้งแต่การสร้างโปรไฟล์ปลอม ไปจนถึงการจัดหา บัญชีม้า และซิมการ์ดโทรศัพท์เพื่อใช้ในการหลอกลวง
เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัว นายเอ (นามสมมุติ) ซึ่งทำหน้าที่เป็น หนึ่งในบัญชีม้า รับโอนเงินจากผู้เสียหายรวม 210,000 บาท นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนผู้ร่วมขบวนการที่เหลือยังอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล
>> เร่งหาสาเหตุ ไฟไหม้ลานจอดรถแมนชั่น เผาวอดรถเสียหาย 35 คัน
14.20 น. ความคืบหน้ากรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในลานจอดรถของแมนชั่นแห่งหนึ่ง ถนนสุขสวัสดิ์ ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 แขวงบางประกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ จึงประสานกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิง พร้อม อปพร.เขตราษฎร์บูรณะ และอาสาฯมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 8 ชั้น ภายในลานจอดรถจักรยานยนต์ ซึ่งอยู่ริมกำแพง เพลิงลุกลามเข้าไปยังลานจอดรถยนต์ในตัวอาคาร เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำดับเพลิงเพื่อตัดวงจรไฟ จนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ภายในเวลาประมาณ 20 นาที เบื้องต้นไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณลานจอดรถพบว่า เหตุเริ่มจากกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากรถจักรยานยนต์คันหนึ่งภายในลาน ก่อนจะมีประกายไฟและลุกลามอย่างรวดเร็วไปยังรถคันข้างเคียงจนเกิดไฟลุกไหม้ต่อเนื่อง ทำให้ยานพาหนะที่จอดอยู่ได้รับความเสียหายรวม 35 คัน แยกเป็น จักรยานยนต์ 29 คัน จักรยาน 3 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคล 2 คัน และรถกระบะ 1 คัน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุที่แท้จริงของเพลิงไหม้ ต้องรอการตรวจสอบจากกองพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียดก่อนจะสรุปสาเหตุของเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ต่อไป
>> วิสามัญหนุ่มยิงปืนใส่ทหารพราน 2 รอบถูกสวนยิงดับ คาดเพี้ยนบ่นอยากตาย
15.50 น. พ.ต.อ.ศุภชัย ศุภกิจจารักษ์ ผกก.สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายขี่รถ จยย. และใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4601 เหตุเกิดบริเวณหน้าฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4601 ซึ่งตั้งอยู่บ้านลูโบะปูโละ หมู่ 3 ต.สามัคคี อ.รือเสาะ เดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถ จยย.ซูซูกิ สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ล้มตะแคงอยู่บริเวณเยื้องกับประตูทางเข้าฐานด้านซ้ายมือ และที่บริเวณแท่งแบริเออร์อีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งอยู่เยื้องกับประตูทางเข้าฐานฝั่งขวามือ เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืน AK47 หรือ อาก้า ตกอยู่ 4 ปลอก จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารพรานพร้อมกำลังพลจำนวนหนึ่ง กำลังแยกย้ายกันเพื่อตั้งจุดตรวจจุดสกัดหน้าฐาน ขณะนั้นได้มีคนร้าย 1 คน ขี่รถ จยย.สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งแต่งกายสวมใส่เสื้อแจ๊กเกตสีดำ สวมกางเกงสีขี้ม้า เมื่อผ่านจุดตรวจได้ใช้อาวุธปืนลูกกรด ขนาด .22 ยิงใส่เจ้าหน้าที่ทหารพราน 1 นัด แต่กระสุนปืนพลาดเป้า คนร้ายจึงได้ขี่หลบหนีไป
ต่อมาอีกประมาณ 10 นาที คนร้ายคนดังกล่าวได้ขี่รถ จยย. กลับมา เมื่อผ่านหน้าจุดตรวจ คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงเจ้าหน้าที่ทหารพรานอีก 2 นัด เจ้าหน้าที่ทหารพรานจึงได้ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงไล่หลังใส่คนร้าย จนทิ้งรถ จยย. วิ่งหลบหนีไปตามทุ่งนา เจ้าหน้าที่ทหารพรานจึงได้วิ่งไล่ติดตามจนคนร้ายจนมุม โดยอาศัยคันนาเป็นที่กำบัง และได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่เป็นระยะๆ จนเจ้าหน้าที่ต้องตะโกนเกลี้ยกล่อมคนร้ายให้วางอาวุธและยอมมอบตัวแต่โดยดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รับประกันความปลอดภัย จนคนร้ายยอมมอบตัวพร้อมอาวุธปืน และพบว่าคนร้ายถูกกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่ที่บริเวณปากและไหปลาร้าขวา จึงนำตัวคนร้ายส่งรักษาที่โรงพยาบาลรือเสาะ อย่างเร่งด่วน แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา
>> คืบหน้า การแก้ไขเหตุถนนสามเสนทรุดตัว เตรียมใช้คอนกรีตแบบพิเศษพ่นใต้ อาคาร สน.สามเสน เสริมสร้างความแข็งแรงป้องกันอาคารถล่ม
17.20 น. นายเทียนชัย วงษ์สุวรรณ ผู้อำนวยการเขตดุสิต พร้อมด้วย นายวัชรพล คงสวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานก่อสร้าง เป็นผู้แทนการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ ผศ.นพ.จักราวุธ มณีฤทธิ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ร่วมกันแถลงความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขเหตุถนนสามเสนทรุดตัว ภายหลังประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ประจำวันที่ 27 กันยายน 2568
ผู้อำนวยการเขตดุสิต เปิดเผยว่า ขณะนี้เริ่มมีเจ้าของอาคารพาณิชย์ มาลงทะเบียนกับสำนักงานเขต กรณีได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ถนนยุบตัว แล้ว โดยขาดอยู่เพียง 9 ห้องเท่านั้น ส่วนทางผู้พักอาศัยในห้องเช่า ขาดอยู่อีกประมาณ 10 คน ส่วนเรื่องการปฏิบัติงานตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงช่วงเช้าแม้จะมีฝนตกหนักแต่ยังอยู่ในจุดที่สามารถรับมือได้เพราะเจ้าหน้าที่ได้ปิดท่อระบายน้ำ วางกระสอบทราย รวมทั้งมีการใช้เครื่องสูบน้ำขนาดเล็ก เข้าสูบน้ำออกจากหลุม รวมถึงติดตั้ง เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ ไว้รับมือ ควบคู่กับการนำรถติดตั้งสูบน้ำมาจอดสำรองไว้อีก 1 คัน ซึ่งในวันจันทร์นี้ ตำรวจ สน.สามเสน ได้วางแผนเพิ่มช่องทางการจราจร โดยจะเพิ่มช่องทางเลี้ยวขวาให้รถเข้ามาที่ซอยสวนอ้อย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่จะเข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลวชิรพยาบาล
สำหรับศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่ศูนย์พัฒนาการชุมชนสวนอ้อย ล่าสุดมีผู้อพยพพักอยู่ 6 คน ส่วนคนอื่นๆ ที่ไปพักตามโรงแรมทราบว่าเจ้าหน้าที่ รฟม. ได้เข้าไปดูแล และแม้ว่าจะสามารถซ่อมแซมพื้นผิวการจราจร จนกลับมาใช้ตามปกติ ก็ยังไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกลับเข้าไปในอาคารบริเวณพื้นที่เสี่ยงเพราะต้องประเมินความปลอดภัย อีกครั้ง
>> กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนฉบับที่ 4 พายุโซนร้อนบัวลอย ทวีกำลังแรงเป็นไต้ฝุ่นแล้ว
18.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จังหวัดพิษณุโลก เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม
ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง “บัวลอย” (BUALOI) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางได้ทวีกำลังขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่นแล้ว คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 28-29 ก.ย. 68