วันที่ 27 กันยายน 2568 เวลา 17:26 น.
เตรียมใช้คอนกรีตแบบพิเศษพ่นใต้ อาคาร สน.สามเสน เสริมสร้างความแข็งแรงป้องกันอาคารถล่ม รอประเมินความปลอดภัยโครงสร้างอีกครั้ง ด้าน กทม. เตรียมเครื่องสูบน้ำ 3 เครื่อง รับมือ หากฝนถล่มเกิน 100 มิลลิเมตร
วันนี้ (27 ก.ย.68) นายเทียนชัย วงษ์สุวรรณ ผู้อำนวยการเขตดุสิต พร้อมด้วย นายวัชรพล คงสวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานก่อสร้าง เป็นผู้แทนการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ ผศ.นพ.จักราวุธ มณีฤทธิ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ร่วมกันแถลงความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขเหตุถนนสามเสนทรุดตัว ภายหลังประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ประจำวันที่ 27 กันยายน 2568
ผู้อำนวยการเขตดุสิต เปิดเผยว่า ขณะนี้เริ่มมีเจ้าของอาคารพาณิชย์ มาลงทะเบียนกับสำนักงานเขต กรณีได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ถนนยุบตัว แล้ว โดยขาดอยู่เพียง 9 ห้องเท่านั้น ส่วนทางผู้พักอาศัยในห้องเช่า ขาดอยู่อีกประมาณ 10 คน ส่วนเรื่องการปฏิบัติงานตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงช่วงเช้าแม้จะมีฝนตกหนักแต่ยังอยู่ในจุดที่สามารถรับมือได้เพราะเจ้าหน้าที่ได้ปิดท่อระบายน้ำ วางกระสอบทราย รวมทั้งมีการใช้เครื่องสูบน้ำขนาดเล็ก เข้าสูบน้ำออกจากหลุม รวมถึงติดตั้ง เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ ไว้รับมือ ควบคู่กับการนำรถติดตั้งสูบน้ำมาจอดสำรองไว้อีก 1 คัน ซึ่งในวันจันทร์นี้ ตำรวจ สน.สามเสน ได้วางแผนเพิ่มช่องทางการจราจร โดยจะเพิ่มช่องทางเลี้ยวขวาให้รถเข้ามาที่ซอยสวนอ้อย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่จะเข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลวชิรพยาบาล
สำหรับศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่ศูนย์พัฒนาการชุมชนสวนอ้อย ล่าสุดมีผู้อพยพพักอยู่ 6 คน ส่วนคนอื่นๆ ที่ไปพักตามโรงแรมทราบว่าเจ้าหน้าที่ รฟม. ได้เข้าไปดูแล และแม้ว่าจะสามารถซ่อมแซมพื้นผิวการจราจร จนกลับมาใช้ตามปกติ ก็ยังไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกลับเข้าไปในอาคารบริเวณพื้นที่เสี่ยงเพราะต้องประเมินความปลอดภัย อีกครั้ง
ด้าน นายวัชรพล คงสวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานก่อสร้าง ผู้แทนการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ระบุว่า จากการลงไปสำรวจในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหลังเทคอนกรีต ไม่พบว่ามีดินไหลเข้ามาเพิ่มเติม โดยขณะนี้มีคอนกรีตถูกเทลงไปในหลุมกว่า 1,000 ลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 2,500 ตัน หากวัดความสูงจากหลังคาอุโมงค์ด้านบน ล่าสุดอยู่ประมาณ 4 เมตร จากที่ตั้งเป้าไว้ 5 เมตร ซึ่งอีก 1 เมตรที่เหลือ พรุ่งนี้เจ้าหน้าที่จะนำรถเครนเข้ามาเคลื่อนย้ายสิ่งปลูกสร้างที่พังเสียหายตกค้างอยู่ภายในหลุมออกไปให้หมด และเทคอนกรีต ให้เสร็จในวันพรุ่งนี้ จากนั้นจะยุติการเทคอนกรีต เพื่อพักให้ปูนเซ็ตตัว 1 วัน ก่อนจะนำดินและถุงทรายเข้ามาถม ให้ได้ระดับความสูงประมาณ 7 เมตร เพื่อทำพื้นผิวการจราจร ยืนยัน ดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันที่ 8 ตุลาคม หรือภายใน 2 สัปดาห์ ปัจจัยสำคัญที่ต้องเฝ้าระวังคือฝน ซึ่งเบื้องต้นได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำทั้งขนาดเล็กและใหญ่เพื่อรับมือ รวมถึงมีการเบี่ยงทางน้ำ จากใต้อาคารสน.สามเสน ไม่ให้ไหลเข้ามาเติม แต่หากมีฝนตกมากกว่า 100 มิลลิเมตร ก็อาจจะกระทบกับพื้นที่ และอาจจะต้องปรับแผนการดำเนินงาน ส่วนด้านใต้อาคาร สน.สามเสน จะพ่นคอนกรีตแบบพิเศษเพื่อให้จับตัวกับดินเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างไว้ก่อน จากนั้นจะใช้เครื่องจักรเล็กวางกระสอบทรายและดิน รวมทั้งป้องกันดินสไลด์ สำหรับเสาเข็มที่ค้ำยันอาคาร 3 เสาซึ่งขาดนั้น ยืนยันไม่กระทบกับตัวโครงสร้างและแม้ว่าจะมีรอยแยกก็ตาม แต่ สน.ก็เอียงไปเพียง 2 มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งหลังจากซ่อมแซมเสร็จแล้ว จะให้สภาวิศวกร วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ วสท. เข้ามาตรวจสอบและประเมินโครงสร้างว่าจะต้องรื้อถอนหรือไม่
ด้าน ผศ.นพ.จักราวุธ มณีฤทธิ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราชวชิรพยาบาล เปิดเผยว่า ในวันจันทร์นี้ มีผู้ป่วยนัดเข้าพบแพทย์ประมาณ 2,500 คนโดยสิ่งที่เป็นกังวลขณะนี้ คือปัญหาด้านการจราจร เพราะมีเส้นทางเข้า-ออกโรงพยาบาลอยู่เพียง 2 เส้นทาง เบื้องต้นจึงอยากให้ ผู้ป่วยที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หันมาใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะแทน ส่วนผู้ที่นำรถมาเองก็ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง โดยจะต้องถนน ซึ่งเข้ามาทางชุมชนสวนอ้อยจึงจะสามารถเข้ามาโรงพยาบาลได้