หน้าแรก > สังคม

ผู้ว่าฯ กทม. สั่งเร่งปฏิบัติการตามแผน ยกแผ่นปูน 50 ตัน ท่อขนาดใหญ่พังร่วงลงหลุม เพื่อปรับพื้นที่อุดรอยรั่วในอุโมงค์สถานนีรถไฟฟ้า

วันที่ 25 กันยายน 2568 เวลา 13:44 น.


วันนี้ (25 ก.ย. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีถนนสามเสนทรุดใหญ่ หน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ว่า ขณะนี้ทาง รฟม. และผู้รับเหมากำลังอุดจุดที่รั่ว โดยมีตัวชาร์ปอันเก่าที่ไม่ได้เกี่ยวกับโครงการนี้พังร่วงลงมาประมาณ 5 ชิ้น ซึ่งจำเป็นต้องยกออก และตอนนี้มีการใช้เครน 150 ตันมาวาง แต่ต้องไปเสริมความแข็งแรงของตัวสถานีก่อน ต้องไปค้ำยันในจุดที่ขาเครนจะวาง เพื่อเสริมความแข็งแรง โดยแผ่นปูนหนัก 34 ตัน เนื่องจากมีอุปสรรคในการเกี่ยวกับวัตถุหลายอย่างในหลุม จึงดึงออกมาไม่ได้ แต่ถ้านำแผ่นปูนออกมาได้ จะทำให้เราสามารถอุดรอยรั่วในอุโมงค์ได้ ซึ่งเป็นแผนที่ รฟม. ดำเนินการ ตัวเครนที่นำมาใช้ แม้จะมีกำลังสูง แต่เมื่อมาใช้ยกแผ่นปูน 50 ตัน จะเจออุปสรรคเรื่องดินและวัตถุอื่นที่อยู่ในหลุม มันจะเกี่ยวกัน ไม่สามารถดึงขึ้นมาได้ทันที ซึ่งต้องเน้นเรื่องความปลอดภัย และขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมิน

ทั้งนี้หากมีการยกแผ่นปูน จะกระทบกับโครงสร้างของสถานีตำรวจนครบาลสามเสนหรือไม่นายชัชชาติ ระบุว่า เป็นสิ่งที่ต้องระวัง แต่ที่ต้องคำนึงตอนนี้คือกำลังเครน ระวังเรื่องน้ำหนักโดยรวมทั้งหมด เพราะทุกอย่างปฏิบัติอยู่เหนือสถานี แม้ว่าสถานีจะออกแบบมารับน้ำหนักในระดับหนึ่ง ซึ่งทางเรามีการใช้อุปกรณ์ค้ำยัน เพื่อไม่ให้กระทบกับโครงสร้าง ขอให้ทุกคนใจเย็น ๆ ให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก

ตอนนี้จากที่ประเมินค่อนข้างคงที่ มีการประสานขอปิดน้ำประปาที่ไหลลงมา ลดการสไลด์ของดิน แต่สิ่งที่ต้องกังวลคือเรื่องน้ำฝน เพราะมีท่อระบายน้ำอยู่ใต้ถนนเชื่อมต่อกัน ทำให้เมื่อถนนทรุด ท่อระบายน้ำจะขาดช่วง หากเกิดฝนตกมา จะทำให้น้ำไหลมารวมกันในหลุม จึงสั่งการให้นำกระสอบมาอุดท่อโดยรอบทั้ง 4 ด้าน และทำกระสอบทรายเป็นบังเกอร์รอบปากหลุม เพื่อบล็อกไม่ให้น้ำไหลมา และจะมีเฉพาะน้ำฝนด้านเดียว และจะได้ลดปริมาณฝนสะสมในหลุม

ส่วนการทิ้งถุงทราย 5 หมื่นลูก กลบปากท่อ นายชัชชาติ ระบุว่า เป็นแนวทางที่หลายส่วนมองตรงกัน และทุกคนก็มีประสบการณ์ เป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างแรกคืออุดรูรั่ว เพื่อไม่ให้ดินไหลต่อได้ เมื่อไปเทียบกับญี่ปุ่นยังมีข้อแตกต่างกันอยู่ เพราะโครงการนี้เป็นอุโมงค์ที่ต้องใช้ต่อ จะเทคอนกรีตลงไปเลยไม่ได้ มันจะไหลไปกระทบจุดอื่น ส่งผลให้วุ่นวายมากขึ้น และกระสอบทราย ถือเป็นตัวเลือกที่ดี คล่องตัว และรวดเร็ว และเหมาะกับสถานการณ์นี้มากที่สุดแล้ว และคิดว่าทางทีมงานมาถูกทาง

ส่วนที่มีน้ำรั่วบริเวณหน้าบริษัทบุญรอดฯ นายชัชชาติ กล่าวว่า ได้รับทราบข้อมูลแล้ว และส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแล้ว เข้าใจว่าพื้นที่ตรงนั้น มีโครงการที่ทำเรื่องประปาอยู่เหมือนกัน ซึ่งก็ต้องเฝ้าระวัง และส่งไปตรวจสอบที่สถานีแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะสามารถลงไปดูได้

นอกจากนี้ทางผู้ว่าฯ กทม. ได้เซ็นอนุมัติให้พื้นที่โดยรอบเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ เพื่อที่จะดำเนินการเยียวยาช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ

ข่าวยอดนิยม